โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

การ์ตูนญี่ปุ่นสร้างชาติ จากซึบาสะสู่สแลมดังก์ "วาตานาเบะ" ลุย NBA

Manager Online

อัพเดต 15 ต.ค. 2561 เวลา 09.10 น. • เผยแพร่ 15 ต.ค. 2561 เวลา 09.10 น. • MGR Online

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - วัยรุ่นที่เคยผ่านยุค 90 มา คงจะเคยตามอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่บ้าง แน่นอนมันเป็นยุคที่สิ่งต่างๆเริ่มเฟื่องฟู เป็นรอยต่อระหว่างช่วงของเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามา บวกกับความโบราณในสมัยนั้น มันทำให้เด็กที่โตมากับยุคนั้นย่อมผูกพันกับสิ่งต่างๆในช่วงดังกล่าว

การ์ตูนญี่ปุ่น คือหนึ่งในสิ่งที่วัยรุ่นยุคนั้นหลายๆคนล้วนแล้วแต่ใช้เวลากับมันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการซื้อหนังสือการ์ตูนมาอ่าน ซึ่งญี่ปุ่นเองดูเหมือนจะไม่ได้สักแต่จะเขียนการ์ตูนขึ้นมาหนึ่งเรื่อง แต่เขาเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือบางเรื่องสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กในประเทศของเขา

แฟนๆกีฬาฟุตบอลคงจะเคยได้ยินเรื่อง "กัปตันซึบาสะ" อย่างแน่นอน เป็นเรื่องราวของนักฟุตบอลเยาวชนคนหนึ่งที่รักและชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ลงแข่งขันในระดับเล็กๆจนไต่เต้าขึ้นไปค้าแข้งอาชีพในยุโรป ก่อให้เกิด "ไอดอล" ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นซึ่งเป็น "การ์ตูน" จนช่วงหลังกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่นักฟุตบอลญี่ปุ่นจะไปค้าแข้งในทวีปยุโรปตั้งแต่อายุยังน้อย

ฮิเดโตชิ นากาตะ ตำนานแข้งชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่ไปสร้างชื่อโด่งดังในการค้าแข้งยังแดนมะกะโรนีกับหลายๆสโมสรในประเทศอิตาลี ซึ่งมีคนยกเขาให้เปรียบเสมือนกัปตันสึบาสะในชีวิตจริงเลยทีเดียว นับจากนั้นมาเขาก็กลายเป็นไอดอลของเด็กๆในประเทศจนญี่ปุ่นส่งออกนักฟุตบอลไปยังต่างแดนเป็นอันดับต้นๆในทวีปเอเชีย

ญี่ปุ่น มักจะใช้ "การ์ตูน" เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กในประเทศ พวกเขามีการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับกีฬาหลายๆประเภท ไม่ว่าจะเป็น "อาย ชิลด์ 21" ที่เกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอล, "ปรินซ์ ออฟ เทนนิส" ที่เกี่ยวกับกีฬาเทนนิส, "เอช2" กับ "รุกกี้ส์" ที่เกี่ยวกับเบสบอล รวมไปถึงหนึ่งในเรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง อย่าง "สแลมดังก์" ที่เกี่ยวกับบาสเกตบอล

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีเรื่องที่เรียกเสียงฮือฮาไม่ใช่น้อยในวงการบาสเกตบอลญี่ปุ่น หลังจาก ยูตะ วาตานาเบะ หนุ่มวัย 23 ปี ได้ประเดิมลงเล่นในลีกบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก อย่าง "เอ็นบีเอ" กับทีม เมมฟิส กรีซลีส์ ถึงแม้จะเป็นแค่เกมปรีซีซั่นเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาล แต่อย่างน้อยเขาก็ได้จารึกชื่อว่าได้เซ็นสัญญากับทีมในลีกเอ็นบีเอ

วาตานาเบะ ผู้เล่นในตำแหน่งสมอลล์ ฟอร์เวิร์ด ไปศึกษาระดับคอลเลฃจที่สหรัฐอเมริกา ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอร์ชิงตัน เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ลงเล่นให้กับทีมมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ แม้สุดท้ายเขาจะไม่ถูกดราฟท์ในปี 2018 แต่เขาก็ได้รับโอกาสจากเมมฟิส กรีซลีส์ เซ็นสัญญาเขาไปร่วมทีมในฐานะผู้เล่นฟรีเอเจนต์

หากมองย้อนกลับไปในช่วงที่เขาโลดแล่นในเวทีบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัย วาตานาเบะ มาเฉิดฉายเอาในช่วงปี 3 และปี 4 โดยเฉพาะในปี 2017-18 เขาทำเฉลี่ยได้ถึง 16.3 แต้ม 1.6 บล็อค 6.1 รีบาวนด์ ต่อเกม กลายเป็นตัวหลักของทีม และถือเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาในตำแหน่งสมอลล์ ฟอร์เวิร์ด

และเมื่อเขาได้รับโอกาสในการลงเล่นปรีซีซั่นเกมแรกกับเมมฟิส กรีซลีส์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 เขาถูกส่งลงมาเล่นในควอเตอร์ที่ 3 ซึ่งเกมนั้นเป็น กรีซลีส์ ที่เปิดบ้านเอาชนะ อินเดียน่า เพเซอร์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 109-104 ยูตะ กดไปถึง 11 แต้ม 3 รีบาวนด์ 1 บล็อค ยิง 7 ลง 5 ถือเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาในการประเดิมเกมแรกให้กับทีม

แต่ ยูตะ วาตานาเบะ ไม่ใช่นักบาสญี่ปุ่นคนแรกในเวทีเอ็นบีเอ ก่อนหน้านั้น ยูตะ ทาบุเสะ พอยท์การ์ดร่างจิ๋วที่สูงเพียง 175 เซ็นติเมตร เคยได้ไปโลดเล่นในเวทียัดห่วงเอ็นบีเอมาก่อนแล้วกับทีม ฟีนิกซ์ ซันส์ แต่เขาล้มเหลวไม่เป็นท่า ถึงแม้จะได้ลงเล่นในฤดูกาลปกติในเกมที่ ฟีนิกซ์ ซันส์ พบ แอตแลนต้า ฮอว์คส์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2004 และทำไปถึง 7 คะแนน แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ต้องออกจากซันส์ จนสุดท้ายก็ถูกลืมไปในที่สุด

แม้ วาตานาเบะ จะไม่ใช่นักบาสญี่ปุ่นคนแรกที่กำลังจะได้ก้าวเข้าไปเล่นในลีกยัดห่วงที่ดีที่สุดของโลก แต่ด้วยสรีระร่างกายที่ยอดเยี่ยม ทรงบาสเกตบอลที่ไม่ธรรมดา สามารถเล่นกับพวกบรรดาตัวใหญ่ๆในลีกได้แบบไม่เป็นรองเท่าไหร่ ทำให้เขาดูจะมีลุ้นยืนระยะได้นานกว่ารุ่นพี่ของเขา ซึ่งเราต้องมาตามดูกันว่าพ่อหนุ่มวัย 23 ปี ผู้ถนัดซ้ายรายนี้จะทำได้ดีเพียงใด

ถ้าอิงตามเนื้อเรื่องจากการ์ตูนสแลมดังก์ ยูตะ วาตานาเบะ ตอนนี้คงเปรียบได้กับ ซาวาคิตะ เออิจิ จากทีมเทคโนฯ ซังโน ที่ถูกยกให้เป็นสุดยอดอัจฉริยะ หรือ รุคาว่า คาเอเดะ จากทีมโชโฮคุ (ตัวเอกของเรื่อง) ก็คงจะไม่ผิด เพราะจุดมุ่งหมายในเรื่องของทั้งสองคนคือการได้ไปโลดแล่นในเวทีอาชีพที่สหรัฐอเมริกา เปรียบได้กับตัวของ ยูตะ วาตานาเบะ ที่แม้จะศึกษาระดับมัธยมในญี่ปุ่น แต่ก็เริ่มไปใช้ชีวิตระดับมหาวิทยาลัย ที่สหรัฐอเมริกา นั่นเอง

สุดท้ายนี้ เมื่อ "กัปตันซึบาสะ" สามารถทำให้นักฟุตบอลในญี่ปุ่นไปโลดแล่นค้าแข้งในทวีปยุโรปกันเป็นเบือ "สแลมดังก์" ก็หวังที่จะจุดประกายนักบาสเกตบอลของญี่ปุ่นให้ไปเป็นดาวในเวทีเอ็นบีเอ กับเขาบ้างเช่นกัน…

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0