วันที่ 17 ตุลาคม 2561…จุดเริ่มต้นการเดินทาง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ในที่สุดก็ถึงวันที่คณะผู้ชนะทั้ง 10 เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อตามหาแรงบันดาลใจในการออกแบบสติกเกอร์กันต่อให้จบครบชุด โดยการเดินทางในครั้งนี้ก็มีสื่อมวลชนจากหลายสำนักให้ความสนใจติดตามคณะเราออกเดินทางด้วย
วันที่ 18 ตุลาคม 2561… เมื่อเครื่องลงที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ก็มีเวลาให้ทำธุระส่วนตัวนิดหน่อย เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางเข้ากรุงโตเกียว เพื่อไป TOKYO CHARACTER STREET สถานที่สำหรับนักสะสมสินค้าพรีเมี่ยมคาแรคเตอร์ต่างๆ เป็นโซนช้อปปิ้งพิเศษที่อยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo Station มีการนำคาแรคเตอร์การ์ตูนชื่อดังมากมายมาตกแต่งอย่างสวยงาม โดยจะมีร้านขายของเกี่ยวกับตัวการ์ตูนต่างๆ มารวมกันอยู่ราวๆ 30 ร้าน ซึ่งเป็นร้านค้าลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น แถมบริเวณใกล้เคียงก็มีร้านขายขนมชื่อดังอีกด้วย ได้ช้อปหนำใจเลยล่ะ ระหว่างเดินช้อปก็หาอาหารเที่ยงสุดอร่อยทานไปพลางในห้างใกล้เคียง ลานตาไปหมดเลย~
ช่วงบ่ายออกเดินทางสู่ Tokyo Tower แลนด์มาร์คที่สำคัญของโตเกียวและเป็นที่ตั้งของสวนสนุกวันพีซ Tokyo One Piece Tower ภายในสวนสนุก ประกอบด้วยฉากจำลองจากในเรื่องวันพีซ และหุ่นขนาดใหญ่เท่าตัวจริงของคาแรคเตอร์ในเรื่อง แถมยังมีเกมต่างๆ ให้ประลองฝีมือโชว์ความสามารถอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกสำหรับแฟนคลับตัวยง รับประกันความฟินแน่นอน
จากนั้นก็เดินทางต่อสู่เมืองมิทากะ ที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์สตูดิโอจิบลิ” อันเลื่องชื่อ เป็นหนึ่งในผลงานนอกจอภาพยนตร์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ เจ้าของผลงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังก้องโลก อย่าง Spirited Away และ My Neighbor Totoro ขอบอกเลยว่าทริปนี้พิเศษสุดๆ เพราะจะได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าตั๋วเข้าชมหายากมากๆ และต้องจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แถมยังเต็มเร็วอีกด้วย
ที่นี่มีกฏว่าด้านนอกอาคารและดาดฟ้าสามารถถ่ายรูปได้ แต่ด้านในห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด เลยอาจจะมีรูปมาฝากกันเพียงเล็กน้อย ภายในสตูดิโอ เป็นอาคาร 3 ชั้น จัดแสดงภาพและตัวอย่างเบื้องหลังของการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องต่างๆ ของสตูดิโอจิบลิ ตั้งแต่การวาดมือรายเฟรม การปั้นตุ๊กตาเป็นท่าทางต่างๆ และฉายเป็นแอนิเมชั่นโดยการเล่นกับแสงไฟ และการฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่นผ่านแผ่นฟิล์ม นอกจากนี้ยังมีหนังแอนิเมชั่นสั้นๆ ให้ได้รับชมกันด้วย เรื่องที่ฉาย คือเรื่อง ちゅうずもう ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแข่งซูโม่ของหนูภูเขานั่นเอง
จุดเด่นภายในอาคาร คงจะเป็นที่บันไดวนเหล็กขนาดเล็กที่ทางเข้าอยู่ชั้น 1 และทางออกอยู่ชั้น 3 สะพานข้ามระหว่างฟากตึกและใบพัดที่รูปร่างเหมือนปีกเครื่องบินกลางห้องโถงใหญ่ภายใต้หลังคาโดมกระจกโอ่อ่า ขอกระซิบว่าห้องน้ำก็คุมธีมด้วยเช่นกัน
ที่ชั้น 2 มีห้องจำลองการทำงานของ ฮายาโอะ มิยาซากิและทีมงาน และยังมีนิทรรศการสัญจรให้ได้รับชมอีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารในแอนิเมชั่นทั้งสิ้น เมื่อขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารจะพบกับหุ่นยนต์ทหารจากเรื่อง Laputa : Castle in the sky ร้านขายของที่ระลึกสุดพิเศษ ห้องสมุด และคาเฟ่เล็กๆ ให้ชิลรับบรรยากาศของสตูดิโอแห่งนี้
เมื่อตื่นตากับสตูจิบลิกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกเดินทางสู่โรงแรมชั้นนำ Fuji-Q Highland Hotel ที่พักของเราในคืนแรก เป็นโรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์แสนอร่อย แถมยังมีบริการออนเซ็นให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอีกด้วย!!
ติดตามทริปเอ็กซ์คลูซีฟของผู้ชนะการประกวด LINE Creators Market Sticker Contest ปี 4 กันต่อได้ในวันพรุ่งนี้เวลาเดิมนะจ๊ะ~