โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรงกว่าสงครามโลก

SpringNews

เผยแพร่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 10.44 น.
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรงกว่าสงครามโลก

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะรุนแรงขนาดนี้ จากการศึกษาประวัติศาสตร์ เชื่อว่าการระบาดของเชื้อต่างๆ อาจจะกลับมาทุก 100 ปี ถ้าศึกษาย้อนไป 100 ปีก่อนนั้นก็มีการระบาดใหญ่ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่นเช่นกัน

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าเรามาตกในช่วง 100 ปีพอดิบพอดี การระบาดของเชื้อโควิด 19 ในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่น เมอร์ส ซาร์ส หวัดหมู หรือแม้แต่อีโบลา เชื้อไวรัสโควิด 19 ยังรุนแรงมากกว่าเยอะ

ด้วยลักษณะบริบทของแต่ละโรคนั้นไม่เหมือนกัน จากการศึกษาพบว่า โรคระบาดที่มีความรุนแรงจนทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว การระบาดนั้นจะไม่รุนแรง คือจะไม่เป็นวงกว้าง เนื่องจากเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเกินไป จนทำให้โอกาสที่จะระบาดและเผยแพร่ไปสู่คนอื่นจะเกิดขึ้นได้น้อย

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น หากมีผู้ติดเชื้อ 100 คน พบว่า ใน 80 คน ที่ได้รับเชื้อแล้วจะไม่แสดงอาการ ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่แสดงอาการนั้นมีโอกาสที่จะเผยแพร่เชื้อไปให้แก่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มที่มีอาการ ก็จะแบ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการน้อย ปานกลาง และ มีอยู่ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มที่มีอาการรุนแรง

กลุ่มที่มีอาการรุนแรง อัตราการตายนั้นสูงมาก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน มะเร็ง ซึ่งมีความอ่อนแอทางด้านภูมิคุ้มกันอยู่ก่อนแล้ว จะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง ยิ่งในกลุ่มที่มีอาการรุนแรงแล้วต้องใส่เครื่องช่วยหายใจนั้น พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงมากๆ ดังนั้น ถ้าเกิดจะเปรียบเทียบการระบาดของเชื้อต่างๆ พบว่า เชื้อไวรัสโควิด 19 มีลักษณะของการระบาดที่น่ากลัวกว่าโรคอื่นๆ ที่ผ่านมา อาจมีความรุนแรงมากกว่าสงครามโลกด้วยซ้ำ

จะเห็นว่าไวรัสโควิด 19 แพร่เชื้อไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เกือบ 200 ประเทศ ขณะที่สงครามโลกมีการสู้รบกันในบางสถานที่เท่านั้น เราสามารถหลบในที่ที่ไม่มีสงครามได้ แต่ไวรัสโควิด 19 นั้น ไปในทุกๆ ที่ ไม่มีพรมแดน ไปในทุกที่ที่มีคน สามารถเกิดการระบาดของโรคนี้ได้เสมอ

การระบาดของโรคนี้เป็นภัยเงียบ ซึ่งล่องลอยอยู่ในอากาศ หรืออยู่ตามสิ่งต่างๆ ไม่รู้เลยว่าเชื้อนั้นอยู่ตรงไหนบ้าง

เชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้เกิดผลกระทบในเชิงลบทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจน คนที่อยู่ในต่างจังหวัด หรือคนที่อยู่ในเมือง คนทุกช่วงอายุ

สิ่งที่จะช่วยกันได้ในภาวะที่เชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดนี้ ก็คือ พยายามรักษาตัวเองให้ดี ไม่เป็นผู้ที่กระจายแพร่เชื้อไป นี่คือสิ่งที่ ทำได้ทุกคน ทุกสถานที่ ทุกเวลา ถ้าเราช่วยกัน การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็จะหายไปได้

รศ.นพ.นริศ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยาที่คาดว่าจะได้ผลดีกับการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ชื่อ ฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งมีกำลังการผลิตจำกัด ดังนั้นด้วยปริมาณยาที่มีจำกัดอยู่ ก็เลยจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง

ด้วยประสบการณ์ของแพทย์ไทย พบว่า การได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ในระยะแรกๆ สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยพัฒนาไปเป็นกรณีมีอาการรุนแรงได้ และอาจจะป้องกันการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้ด้วย ปัจจุบัน จึงเริ่มมีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในคนไข้ที่มีอาการน้อยๆ เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรค

การที่คนติดเชื้อโรคนี้แล้วเริ่มมีอาการทางปอด พบว่า มีการเกิดพยาธิสภาพถาวรในปอดขึ้น เป็นพังผืดต่างๆ เพราะฉะนั้น คนที่เป็นโรคนี้ หลังจากหายแล้วจะมีการทำงานของปอด หรือ สมรรถภาพการทำงานของปอดลดลง เช่น การหายใจมีการแลกเปลี่ยนก๊าซไม่ดี เหนื่อยง่ายขึ้น หรือ อาจมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในอนาคตได้

วิธีที่ดีที่สุดคือป้องกัน อย่าให้ตนเองเป็นโรค เมื่อเป็นโรคแล้วจะต้องได้รับการรักษามีการป้องกันตนเองที่รวดเร็ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0