โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

การปลูกถั่วเขียวเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าวและเสริมรายได้หลังนา

รักบ้านเกิด

อัพเดต 17 ต.ค. 2562 เวลา 03.47 น. • เผยแพร่ 17 ต.ค. 2562 เวลา 03.47 น. • รักบ้านเกิด.คอม

ถั่วเขียว เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูแล้ง จึงเหมาะสำหรับปลูกเป็นพืชหลังนาเพื่อเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณธาตุไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและยังช่วยสร้างรายได้เสริมหลังจากฤดูการทำนาได้อีกด้วย

คุณบุญมี เครือบุตร เกษตรกรวัย 58 ปี ที่ทำการปลูกพืชอินทรีย์แบบผสมสาน บ้านโนนคำตื้อ ม.4 ต.หนองหว้า อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ .ให้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ Farmer info. ประจำสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM.102.75 MH. กล่าวว่า ตนและครอบครัวทำการปลูกพืชอินทรีย์แบบผสมผสานที่ผ่านการรับรองเป็นแหล่งผลิตพืชอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บนพื้นที่ 27 ไร่ แบ่งเป็นการปลูกพืชแบบผสมผสาน 17 ไร่ และทำนาแบบอินทรีย์ 10 ไร่ ซึ่งคุณบุญมีกล่าว่าการทำนาอินทรีย์ของตนจะใช้วิธีการเพิ่มปริมาณปุ๋ยพืชสดในนาข้าว โดยจะปลูกถั่วเขียวหลังจากการทำนา 2 ครั้ง เพื่อเตรียมดินก่อนจะถึงฤดูการทำนาถัดไป ซึ่งการปลูกถั่วเขียวนอกจากจะปลูกเพื่อทำการขยายพันธุ์และเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ในดินทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีแล้ว ผลผลิตบางส่วนสามารถเก็บขายเพิ่มเสริมรายได้หลังการเก็บเกี่ยวอีกด้วย ด้วยขั้นตอนและวิธีการปลูกที่ไม่ยุ่งยาก ดังนี้
การปลูกถั่วเขียวครั้งที่ 1 :

  1. ช่วงระหว่างเดือนมกราคม เป็นช่วงที่ดินยังชุ่มน้ำอยู่ ทำการย่อยสลายตอซังข้าวแล้วไถกลบ โดยฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ(ฮอร์โมนน้ำพ่อ+ฮอร์โมนน้ำแม่ อัตราส่วน 1:1)ผสมกับน้ำเปล่า โดยพื้นที่ 1 ไร่จะใช้น้ำหมักชีวภาพ 30 ช้อนแกง ผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นตอซังข้าวให้ชุ่มแล้วทำการไถกลบ แล้วปล่อยให้ย่อยสลายอย่างน้อย 15 วัน
  2. ภายหลังจากตอซังข้าวย่อยสลายสมบูรณ์แล้วทำการเตรียมดินโดยไถคราดดินให้ร่วนซุยและกำจัดเศษวัชพืชออกให้หมด จากนั้นทำการหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว (เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูถัดไป) อัตรา 3 กิโลกรัม/ไร่
  3. ช่วงระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากต้นถั่วงอกเหนือพื้นดิน ทำการกำจัดหญ้าวัชพืชอย่างน้อย 15 วัน/ครั้ง ด้วยวิธีดายหญ้าหรือใช้มือถอน และเนื่องจากถั่วเขียวเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี อาจจะให้น้ำเป็นบางครั้ง หรืออย่างน้อย 30 วัน/ครั้ง
  4. การปลูกถั่วเขียวครั้งที่ 1 จะเป็นการปลูกเพื่อขยายเมล็ดพันธุ์ ภายหลังจากถั่วเขียวอายุได้ 60-70 วัน หรือช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ฝักของถั่วเขียวจะเริ่มแห้งเปลี่ยนเป็นสีดำที่พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
  5. ผลผลิตถั่วเขียวฝักสดเฉลี่ย 200 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตฝักแห้งเฉลี่ย 60-100 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเก็บผลผลิตออกหมดจะเริ่มทำการไถกลบต้นถั่วเขียวเพื่อให้ย่อยสลายในดินอย่างน้อย 15 วัน เมื่อไถกลบแล้วจะสามารถเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและเพิ่มธาตุไนโตรเจนในดินได้ 3-5 กิโลกรัม/ไร่
  6. ผลผลิตบางส่วนจะเก็บไว้ขยายพันธุ์และทำการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป และผลผลิตบางส่วนสามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 35-40 บาท

การปลูกถั่วเขียวครั้งที่ 2 :

  1. ช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ภายหลังจากปล่อยให้ต้นถั่วเขียวที่ทำการไถกลบย่อยสลายในดินตามธรรมชาติ อย่างน้อย 15 วัน แล้วทำการหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวเป็นรอบที่ 2 หรือช่วงระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม อัตรา 5 กิโลกรัม/ไร่
  2. การปลูกครั้งที่ 2 จะเป็นการปลูกเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดิน(ปุ๋ยอินทรีย์)โดยไม่กำจัดวัชพืช เมื่อถั่วเขียวเริ่มออกดอกไปจนถึงระยะดอกบานเต็มที่ อายุ 45-50 วัน จะทำการไถกลบทันที ระยะเวลาในการย่อยสลายในดินอย่างน้อย 15 วัน เมื่อไถกลบแล้วจะเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและธาตุไนโตรเจนในดินได้ 5-10 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งมีมากกว่าการปลูกครั้งที่ 1 เนื่องจากในระยะนี้เป็นช่วงที่ต้นถั่วเจริญงอกงามและมีปริมาณธาตุอาหาร(ไนโตรเจน)สูงสุด
  3. ภายหลังจากที่ทำการไถกลบถั่วเขียวให้ย่อยสลายในดินแล้ว จะทำการหว่านปุ๋ยหมักอินทรีย์ อัตรา 50-60 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเตรียมดินสำหรับการทำนาต่อไป

ประโยชน์จากการปลูกถั่วเขียวหลังนา :
- ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และเพิ่มธาตุไนโตรเจนในดินทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี
- ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินและทำให้ดินร่วนซุย
- เนื่องจากเป็นปุ๋ยพืชสดที่ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน จึงช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น
- การปลูกถั่วเขียวนอกจากจะปลูกเพื่อขยายพันธุ์แล้ว ผลผลิตบางส่วนสามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคา กิโลกรัมละ 35-40 บาท เพื่อเสริมรายได้จากการทำนา
กระบวนการผลิตน้ำหมักฮอร์โมนสูตรต่างๆ :
1.น้ำหมักฮอร์โมนน้ำแม่
วัตถุดิบส่วนผสม : พืชผักใบเขียวทุกชนิด 3 กิโลกรัม , กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนและวิธีการทำ : นำวัตถุดิบทั้งหมดสับหรือหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันกับกากน้ำตาลในถังหมัก ปิดฝาถังหมักให้สนิทตั้งเก็บไว้ในที่ร่ม ใช้ระยะเวลาในการหมัก 15 วัน จะได้น้ำหมักฮอร์โมนสูตรน้ำแม่ไปใช้ประโยชน์ต่อไป
2.น้ำหมักฮอร์โมนน้ำพ่อ
วัตถุดิบส่วนผสม : ผลไม้สุกทุกชนิด 3 กิโลกรัม , กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนและวิธีการทำ : นำวัตถุดิบทั้งหมดสับหรือหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆพร้อมทั้งเปลือก คลุกเคล้าให้เข้ากันกับกากน้ำตาลในถังหมัก ปิดฝาถังหมักให้สนิทตั้งเก็บไว้ในที่ร่ม ใช้ระยะเวลาในการหมัก 15 วัน จะได้น้ำหมักฮอร์โมนสูตรน้ำพ่อไปใช้ประโยชน์ต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0