โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

การปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงาน

issue247.com

อัพเดต 17 ต.ค. 2561 เวลา 09.02 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2561 เวลา 00.00 น.

ความสมดุลไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมหรือการกระทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ความเป็นอยู่ที่ดีก็ไม่ได้หมายความถึงการไปฝึกโยคะทุกสัปดาห์และรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพทุกมื้อ แน่นอนว่าวิถีชีวิตที่เน้นการออกกำลังกายกับการรับประทานอาหารนั้นคือสิ่งที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ แต่การปรับสมดุลโดยรวมมีปัจจัยบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น

บ่อยไหมที่คุณรู้สึกสุขสงบเวลาที่ฝึกโยคะแต่กลับรู้สึกเครียดเมื่อมีคนมาแย่งแท็กซี่หรือยืนขวางทางขึ้นลงรถไฟฟ้า? บ่อยไหมที่คุณรู้สึกเครียดและเบื่อกับการกินสลัดผักเพราะว่าคุณอยากกินอะไรอย่างอื่นที่ไม่ต้องเพื่อสุขภาพขนาดนี้ก็ได้? บ่อยไหมที่คุณทุ่มเทให้กับงานเพื่อความก้าวหน้าแต่ต้องเสียใจที่มีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยเกินไป? และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยปรับสมดุลให้กับชีวิตในการเสริมสร้างความสุขไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน

 

แบ่งเวลา

ตอนแรกอาจจะขัดกับความรู้สึกอยู่บ้างเนื่องจากถ้าคุณไม่มีเวลาให้กับทั้งคนในครอบครัวและหัวหน้า แล้วคุณจะแบ่งเวลาให้กับตัวเองได้อย่างไร? บ่อยเหลือเกินที่คนจำนวนมากต้องพยายามแบ่งเวลาเพื่อเอาใจหรือทำกิจกรรมอยู่กับคนรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณเกิดความเครียดและระเบิดอารมณ์ออกมา ดังนั้นคุณควรรู้จักแบ่งเวลาให้กับตัวเอง เช่น อาบน้ำ วิ่ง อ่านหนังสือ หรือทำสวน เป็นต้น เมื่อคุณมีความสุขและพอใจกับชีวิตแล้ว สิ่งดีๆทั้งหลายก็จะตามมาเอง

 

หาเวลาอยู่กับเพื่อนๆและครอบครัว

ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสนุกๆกับครอบครัวหรือเดินเล่นในสวนกับเพื่อน ทำให้เหมือนกับว่าเป็นงานที่ต้องทำเช่นเดียวกับการประชุมในที่ทำงานหากคุณไม่ทำเองก็ไม่มีใครทำให้คุณหรอก การละเลยเวลาที่อยู่กับครอบครัวจะทำให้งานเข้ามากลืนกินชีวิตของคุณมากเกินไป ปฏิบัติต่อคนในครอบครัวของคุณราวกับว่าพวกเขาคือลูกค้าคนสำคัญ ให้ความเอาใจใส่และเคารพพวกเขาไม่ต่างจากสิ่งที่คุณทำในที่ทำงาน

 

อยู่กับปัจจุบัน

เมื่ออยู่ในที่ทำงานคุณก็อยากจะกลับบ้าน แต่เมื่อคุณอยู่บ้านคุณกลับรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำงาน หากคุณพบว่าตัวเองกำลังเช็คอีเมล์ขณะที่มาดูลูกแสดงดนตรี หรือมัวแต่ส่งข้อความเรื่องธุระปะปังต่างๆขณะที่อยู่บ้าน นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังเหนื่อยเกินไปเนื่องจากปล่อยให้ชีวิตครอบครัวกับชีวิตการทำงานเข้ามาปะปนกัน การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข ซึ่งอาจหมายถึงการปิดโทรศัพท์และออกไปข้างนอกกัน หรือปิดโทรทัศน์ขณะที่รับประทานอาหารมื้อค่ำ ลองถามตัวเองว่า “อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต?” หรือ “ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?” ถ้าพบว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่มีประโยชน์ใดๆก็เลิกซะ เชื่อสิว่าการอยู่กับปัจจุบันอย่างมีคุณค่านั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0