การชุมนุมของพรรคอนาคตใหม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และพวก จัดกิจกรรมนัดพบปะประชาชนหรือแฟลชม็อบบริเวณสกายวอล์คเมื่อวานนี้(14 ธ.ค.62) ว่าขณะนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้แต่งตั้งให้ตนเองเป็นหัวหน้าคณะทำงานติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบการละเมิดกฎหมายของกลุ่มนายธนาธร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการกระทำความผิดเข้าข่ายกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุม หลายข้อหา ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งการถอดเทปคำปราศรัย ภาพวีดีโอ ภาพนิ่ง และภาพวงจรปิด เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับแกนนำพรรคอนาคตใหม่และผู้จัดการชุมนุม โดยเบื้องต้นพบว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาต ตามขั้นตอนพ.ร.บ.การชุมนุม จึงเป็นการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งข้อหาดังกล่าวมีโทษปรับ ส่วนข้อหาอื่นยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ต้องรอการพิจารณาพยานหลักฐานอื่นๆก่อน
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนที่ขัดขวางไม่ให้ตำรวจเข้าไปแจ้งให้ยกเลิกการชุมนุมกับแกนนำและผู้จัดการชุมนุม อาจเข้าข่ายความผิดข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเช่นกัน ส่วนผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมชุมนุมรายอื่นๆที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย แต่มาชุมนุมตามสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตยยืนยันว่าตำรวจจะไม่มีการดำเนินคดีเนื่องจากเป็นสิทธิ์ที่สามารถปฏิบัติได้ แต่หากการชุมนุมเกิดความเสียหาย หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต แกนนำพรคอนาคตใหม่และผู้จัดการชุมนุมจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งมีการระบุไว้อย่างชัดเจนในพ.ร.บ.การชุมนุม
ทั้งนี้พบว่าเมื่อวานนี้มีประชาชนและภาคเอกชนแจ้งเข้ามาที่สายด่วน 191 จำนวน 1 เรื่องเกี่ยวกับการขัดขวางไม่ให้ใช้ทาง สกายวอล์ก หรือขึ้นไปใช้บริการรถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆจนทำให้เกิดความไม่สะดวกและเสียหาย ซึ่งตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะถือว่าเป็นการแจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนบริษัทรถไฟฟ้า BTS ทราบว่าเมื่อวานนี้(14 ธ.ค.62) ได้มีการเข้าพบพนักงานสอบสวน สน. ปทุมวันแล้ว แต่ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำหรือผู้จัดการชุมนุมหรือไม่ ต้องรอกลับไปให้ผู้บริหารของบริษัทพิจารณาก่อน