โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กางกลยุทธ์จัดพอร์ตทองคำ

Wealth Me Up

เผยแพร่ 29 ก.พ. 2563 เวลา 03.33 น. • Wealth Me Up

 

ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

เมื่อนึกถึงการจัดพอร์ตลงทุน ส่วนใหญ่จะเน้นหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ แต่ตอนนี้เราสามารถลงทุนในทองคำผสมกับสินทรัพย์ลงทุนอื่นได้ เพื่อทำให้พอร์ตลงทุนโดยรวมบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

การลงทุนในทองคำก็มีหลายรูปแบบ ทั้งทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำทั้งกองทุนรวมธรรมดาและกองทุนประเภทETF และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า(Gold Futures)  จะลงทุนทองคำแบบไหน สัดส่วนเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ตามนี้

 

จัดพอร์ตพอร์ตการลงทุนระยะสั้น

1.ระยะเวลาการลงทุน6 – 12 เดือน

2.สัดส่วนทองคำแท่ง30%, เงินสด70%

3.ระดับความเสี่ยงต่ำมาก

4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ4 – 5% ต่อปี

 

การลงทุนระยะสั้นสะท้อนว่า นักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ และไม่สามารถสูญเสียเงินต้นจากการลงทุนได้มาก เพราะว่าลงทุนในทองคำยังมีโอกาสขาดทุนในช่วงสั้นๆ อยู่ จึงเน้นถือเงินสดมากถึง70% และเหลือเงินลงทุนในทองคำแท่งที่มีความเสี่ยงต่ำสุดในบรรดาเครื่องมือการลงทุนทองคำเพียง30%

 

พอร์ตการลงทุนระยะกลาง

1.ระยะเวลาการลงทุน1 – 5 ปี

2.สัดส่วนทองคำแท่ง40%, กองทุนรวมทองคำ20% และเงินสด40%

3.ระดับความเสี่ยงปานกลาง

4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ10 – 12% ต่อปี

 

แม้ระยะหลัง การลงทุนในทองคำให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปี แต่เนื่องจากทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีวัฏจักร หากลงทุนช่วงตลาดขาลงอาจต้องใช้เวลา1 – 3 ปี เพื่อให้วัฏจักรเป็นขาขึ้น แปลว่าการลงทุนยังมีความเสี่ยงและมีโอกาสสูญเงินต้น จึงควรถือเงินสดควบคู่ในระดับสูงประมาณ40%

 

เนื่องจากระยะเวลาการลงทุนค่อนข้างนาน สะท้อนได้ว่านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง จึงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวมทองคำประมาณ20% ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทองคำแท่งเล็กน้อย

 

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

1.ระยะเวลาการลงทุนมากกว่า5 ปี

2.สัดส่วนทองคำแท่ง50%, กองทุนรวมทองคำ30% และGold Futures 20%

3.ระดับความเสี่ยงสูง

4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ20 – 25% ต่อปี

 

เนื่องจากลงทุนนานกว่า5 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทองคำมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก และทองคำได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวได้ด้วย ดังนั้นการลงทุนระยะยาวจึงสามารถถือครองทองคำได้เต็ม100%

 

การถือยาวแบบนี้ สะท้อนว่านักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง จึงสามารถเพิ่มGold Futures เข้าไปช่วยป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงหรือเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนช่วงสั้นๆ โดยการเปิดสถานะShort ซึ่งจะมีต้นทุนในการทำธุรกรรมต่ำกว่าการขายออกไปก่อนแล้วซื้อกลับเข้ามาใหม่

 

ในทำนองเดียวกัน ช่วงเวลาที่เกิดความมั่นใจในการลงทุนมากๆ ก็สามารถใช้Gold Futures เพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยการเปิดสถานะLong ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้Gold Futures เป็นองค์ประกอบในการลงทุนต้องคำนึงถึงระยะเวลาของสัญญาที่ค่อนข้างจำกัดด้วย

 

การลงทุนทองคำก็เหมือนการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอื่น ก่อนตัดสินใจต้องศึกษาข้อมูลและถามตัวเองก่อนว่ารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และพร้อมลงทุนหรือไม่

 

 

#WealthMeUp

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0