โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

'กัปตัน' มึน-ไม่ขอพูด 'มิ้ง'แท้งลูก ไอจีแจงเครียด อ้างเคยท้องจริง โซเชี่ยลรุมถล่ม

Khaosod

อัพเดต 22 ก.ค. 2561 เวลา 04.18 น. • เผยแพร่ 22 ก.ค. 2561 เวลา 03.13 น.
22-นสพ.หน้า1-มิ้งโป๊ะแตก

*“มิ้ง-ศวภัทร สุนทรนันท์” อดีตแฟนสาว กัปตัน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง โพสต์ไอจีแจงเรื่องแท้ง หลังตกเป็นข่าวฮือฮาท้อง ยอมรับเคยนำปัสสาวะของ รุ่นน้องที่ท้องไปทดสอบ เพื่อเปรียบเทียบให้แน่ใจ ยืนยันตรวจแล้วตั้งท้องจริง แต่เกิดแท้งในภายหลัง *

ชี้เหตุเครียดจัด พักผ่อนน้อย ยันอยากเก็บไว้ ด้าน “กัปตัน” ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าในจ.เลย ยังสับสนข่าวฝ่ายหญิงแท้งลูก ระบุที่ผ่านมา เคยขอดูเอกสารการฝากไข่ แต่ฝ่ายหญิงไม่เคยนำมาให้ดู

วันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. “มิ้ง”ศวภัทร สุนทรนันท์ อดีตแฟนสาวของ “กัปตัน”ชลธร คงยิ่งยง นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง ที่เคยระบุว่ามีสัมพันธ์กับฝ่ายชายจนตั้งครรภ์นั้น โพสต์ไอจีถึงกรณีถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้ตั้งครรภ์จริงๆ ว่า ขอชี้แจง หลายเรื่องที่สามารถพูดได้ และขออนุญาต ไม่ตอบคำถามใดๆ อีก เพราะทั้งหมดที่จะชี้แจงในวันนี้คือขีดจำกัดที่ผู้ไม่เกี่ยวข้องสามารถรู้ได้ ซึ่งมิ้งจะพาดพิงถึงบุคคลอื่นให้น้อยที่สุด จากการปรึกษาผู้ใหญ่ในฝั่งของมิ้งได้คำแนะนำมาว่าเอกสารที่มีทั้งหมดนั้นไม่สามารถนำมาลงได้ ให้อ่านให้ละเอียดและอย่าตีความผิดไปจากคำพูดของมิ้ง

ประเด็นเรื่องที่มิ้งไปขอปัสสาวะ ผลตรวจเลือด ผลซาวด์จากคนรู้จักมา เป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้มีเพื่อนสนิท 3-4 คนที่รู้ตั้งแต่แรกและรู้ว่าเหตุผลที่มิ้งขอคืออะไร ถ้าอีกฝ่ายถามเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว มิ้งยินดีที่จะยอมรับและบอกเหตุผลที่แท้จริงแน่นอน ขอเรียกว่าเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความลับซะทีเดียว ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมาพูดออกสื่อเพราะไม่ใช่มิ้งที่เสีย แต่เป็นฝั่งคนรู้จักที่เสียด้วย ซึ่งมิ้งไม่อาจระบุไทม์ไลน์ของวันที่ได้ชัดเจนเพราะลืม แต่จะพยายามระบุให้ละเอียดที่สุด

วันที่ 25 พ.ค. มีการตรวจปัสสาวะของตัวมิ้ง เป็นการตรวจตอนกลางคืน ไม่ใช่ปัสสาวะแรกของวัน ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้บอกทางครอบครัวหรือเพื่อน มิ้งได้ซื้อที่ตรวจมาจากเซเว่นฯ 1 อัน เป็นแบบเอากระดาษจุ่มเพราะเซเว่นฯ ที่มิ้งไปตอนนั้นมีแค่ยี่ห้อเดียว และ มีการขึ้นสองขีดแบบจางมากๆ จึงไม่มั่นใจประกอบกับหลอกตัวเองว่ามันผิดพลาดซึ่งความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้น้อยมาก

วันที่ 26 พ.ค. เนื่องจากไม่มั่นใจและไม่กล้าปรึกษาใครในตอนนั้น เลยนึกขึ้นได้ว่ามีน้องคนหนึ่งที่สนิท เพิ่งแต่งงานไปและกำลังท้อง ตอนแรกคิดจะปรึกษา แต่คิดไปคิดมาคือไม่กล้าบอก เพราะยังไม่กล้าจะบอกใคร แม้แต่เพื่อนสนิทก็ยังไม่ได้บอก แต่ตอนนั้นอยากรู้ว่าถ้าคนท้องจริงๆ จะตรวจออกมาเป็นยังไง จะขึ้นชัดกว่านี้ไหม เลยแกล้งขอปัสสาวะ เขามาตรวจดู ได้ให้แม่ขับรถพาไปเอาจริง โดยบอกแม่ว่าให้พาไปเอาของกับเพื่อนในคืนวันที่ 26 พ.ค. และซื้อที่ตรวจครรภ์มาอีก 3 ยี่ห้อจากร้านแถวบ้าน มิ้งตัดสินใจโทร.ไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนคนหนึ่งฟัง จากการตรวจไป 3 ยี่ห้อ สีของขีดขึ้นชัดไม่เท่ากัน บางยี่ห้อคือชัดเลย บางยี่ห้อคือไม่ชัดมาก หลังจากนั้นเครียดมาก เลยโทร.ไปบอกเพื่อน อีก 2 คนถึงเรื่องทั้งหมดรวมทั้งการไปขอปัสสาวะน้องมาด้วย จากนั้นตัดสินใจเล่าให้แม่ฟังและมีปากเสียงกันนิดหน่อย

วันที่ 27 พ.ค. ตอนเช้ามิ้งไปตรวจที่ร.พ.แห่งหนึ่ง ด้วยฉี่ของตัวเอง และผลออกมาว่ามีการตั้งครรภ์จริง มั่นใจแน่ชัดว่าตั้งครรภ์ แน่นอนคือวันนี้ จึงพยายามติดต่ออีกฝ่าย แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไปที่บ้านและมีการพูดคุยกัน ตอนนั้นยอมรับว่าอยากเอาออกด้วยเหตุผลหลายอย่าง คือเขาบล็อกมิ้งทุกทาง ไม่ได้คุยกันเลยมาอาทิตย์กว่าและฝั่งนั้นมีคนคุยใหม่แล้ว ด้วยอารมณ์โกรธ น้อยใจหลายอย่าง เลยตัดสินใจที่จะเอาออกแต่ตัวฝ่ายชายเองก็ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ และได้คุยกับน้องเจ้าของปัสสาวะ น้องได้ถามว่าเป็นไงบ้าง มิ้งเลยส่งรูป ใบรับรองแพทย์ไปให้

หลังจากวันนั้นได้ปรึกษาเพื่อนสนิทและตัดสินใจจะบอกฝ่ายชายว่าไม่ได้เอาออก เพราะฝ่ายชายก็พูดว่าเป็นห่วงเพราะอันตรายและไม่อยากให้อีกฝ่ายมองเราแย่ เป็นคนใจร้ายด้วย แต่ความจริงแล้วคิดไว้ว่าจะเอาออกให้เร็วที่สุด เพราะนึกถึงอนาคตของ ตัวเอง ได้โทร.หาน้องคนเดิมไปว่าขอใบซาวด์ กับผลตรวจเลือด ซึ่งมีแพลนชีวิตว่าหลังจากเอาออกแล้วจะหายไปจากโซเชี่ยลและไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดซักพัก เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ความเคลื่อนไหวใดๆ และจะขอใบจากน้องมาเพื่อเอาไว้ส่งให้อีกฝ่ายดูว่าไม่ได้เอาออกจริงๆ คือคิดไว้ว่าจะทำให้เรื่องจบโดยเร็วที่สุดและไม่คิดจะบอกใครไปมากกว่านี้ แต่หลังจากนั้นมีกระแสข่าวเกิดขึ้นค่อนข้างแรง เลยไม่ได้ทำตามแพลนที่คิดไว้ เรื่องทั้งหมดคือเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนวันแถลงข่าว

วันที่ 11 มิ.ย. คือวันแถลงข่าว ตอนแรกมิ้งไม่ได้จะไปด้วย หลังจากวันแถลงกลายเป็นข่าวใหญ่มากและเริ่มมีสติ คิดว่าจะเก็บน้องไว้ มิ้งได้พิมพ์คุยไลน์กับน้องคนนั้นและสรุปว่าไม่เอาผลตรวจอะไรแล้ว หลังจากนั้นไม่ได้ มีการคุยอะไรกันต่ออีก และยังไม่ได้อธิบายเหตุผลใดๆ เนื่องจากตอนนั้นชีวิตวุ่นวายมาก เพื่อนก็ติดต่อมิ้งไม่ได้ เพราะเครียดมาก

วันที่ 13 มิ.ย. ได้เข้าไปร.พ.จริงในช่วงเวลา ทุ่มกว่าๆ และมีอาการไอหนักมากมาหลายวัน มิ้งเข้าไปทำประวัติและพบแพทย์ที่แผนกสูติฯ แต่แพทย์ไม่ได้จ่ายยาให้ เนื่องจากตั้งครรภ์อยู่และได้ปรึกษาเรื่องการฝากครรภ์ สอบถามเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ และคิวคุณหมอที่อยากฝากด้วย สำหรับอาการมดลูกต่ำ มิ้งไม่เคยให้สัมภาษณ์ในประโยคที่ว่าตรวจกับร.พ.นี้ถึงรู้ แต่มิ้งรู้มานานแล้วถึงสภาพร่างกายและโรคประจำตัวของตัวเองเพราะตรวจสุขภาพเกือบทุกปี หลังจากนั้นไม่กี่วันเริ่มมีข่าวว่าเจ้าของปัสสาวะเข้าไปพูดคุยกับอีกฝ่าย แต่มิ้งไม่รู้ว่าจริงไหม ซึ่งมิ้งชี้แจงถึงเหตุผลไปในข้างต้นแล้ว

วันที่ 18 มิ.ย. เป็นไข้และอาเจียนหนักมากจนต้องเข้าร.พ.จริงตามที่เป็นข่าว วันนั้นพยายาม ติดต่ออีกฝ่าย แต่ติดต่อไม่ได้ ทั้งโดยตรง ผ่านเพื่อนฝ่ายชาย และผ่านทางค่าย แต่ก็ติดต่อ ไม่ได้ วันที่ 22 มิ.ย. เริ่มมีเลือดจางๆ แต่ไม่ปวดท้องเลยไม่คิดอะไร วันที่ 26 มิ.ย. ช่วงเย็นมีอาการปวดท้องน้อยระหว่างกลับจากทำงานและเริ่มมีเลือดออกในช่วงเช้ามืด วันที่ 27 มิ.ย. ไปพบแพทย์ที่ร.พ.และบอกหมอถึงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีการอัลตราซาวด์และตรวจเลือด ผลการอัลตราซาวด์ตอนนั้นคือ ไม่พบการตั้งครรภ์แล้ว

“เหตุผลที่มิ้งไม่ออกมาพูดเรื่องแท้งคือ 1.กระแสสังคมค่อนข้างแรงมาตั้งแต่วันแรก ไม่ว่ามิ้งจะพูดอะไรไปคือผิดหมด หาว่าโกหกทุกอย่าง ยอมรับว่าไม่กล้าออกมาพูดเพราะ มีคนดักไว้ทุกทางว่าห้ามแท้งนะ ความเป็นจริงแล้วมิ้งไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้แท้งได้ แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่ายังไงก็ต้องโดนด่าอยู่ดี 2.มิ้งไม่ใช่ดาราและคิดว่าถึงเป็นดาราก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าออกมาพูดหรือชี้แจงให้คน นอกรับรู้”

“ส่วนสาเหตุที่คาดว่าทำให้แท้งคือ 1.สุขภาพ ของตัวมิ้ง รวมถึงโรคประจำตัวต่างๆ 2.ภาวะเครียดซึ่งเครียดมากจริงๆ ใครไม่มาอยู่จุดมิ้งคือไม่มีทางเข้าใจ ในโซเชี่ยลอาจจะดูปกติดี แต่ช่วงนั้นคือร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับ พยายามไม่เสพข่าว ไม่สนใจคนที่ด่า แต่ก็ยังเครียดอยู่ บางคนด่ากันเพราะความสนุกปาก แต่มันกระทบจิตใจของคนคนหนึ่งมาก เราไม่สามารถรู้หรอกว่าเขาเก็บมาคิดมากแค่ไหน นี่พูดถึงเหตุการณ์ของคนอื่นด้วย ไม่ใช่แค่มิ้ง 3.ทำงานเกือบทุกวัน เดินเยอะมาก นอนน้อย 4.ไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควร ยังติดนิสัยเดิมๆ ของตัวเองที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้คือไม่ชอบอยู่เฉยๆ 5.ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าตั้งครรภ์ประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ มิ้งดื่มแอลกอฮอล์ค่อนข้างบ่อย เรื่องนี้ไม่โทษใครทั้งสิ้น โทษตัวเองล้วนๆ รู้สึกผิดมากๆ รู้สึกแย่ เสียใจทุกอย่าง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากทำให้ดีกว่านี้ ซึ่งมิ้งต้องพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะกลัวกระแสสังคมที่จะมาโจมตีมิ้ง มันยากมาก อีกทั้งยังมีหลายงานค้างไว้ที่ต้องทำและไม่ได้รับงานเพิ่มใดๆ เลย ที่ลงคืองานที่ติดต่อ ไว้นานแล้ว”

ส่วนประเด็นเรื่องการฝากไข่ที่บอกว่ามิ้งฝากไข่และรับเงินมัดจำมา 60,000 บาทผ่านเข้าบัญชีที่เป็นชื่อศวภัทรนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่เคยได้รับเงินมัดจำจากใคร สามารถเช็กได้ว่าไม่เคยมียอดเงิน 60,000 บาทเข้ามาในที่ 16 มิ.ย. เลย รวมถึงของทั้งเดือนด้วย ซึ่งบัญชีที่มิ้งใช้อยู่ปัจจุบันเป็นชื่อนางสาวกานต์รวีทั้งหมด เนื่องจากมิ้งเปลี่ยนชื่อ 2 ปีที่แล้วและเพิ่งเปลี่ยนชื่อบัญชีธนาคารเมื่อวันที่ 16 ก.ค. แต่มีเพียงบัญชีเดียวของธ.ไทยพาณิชย์เท่านั้นที่ใช้ชื่อศวภัทรและไม่มีรายการเดินบัญชีมาเกือบปีแล้ว

“ซีเรียสกับเรื่องนี้มากพอสมควรเพราะ ไม่ได้ทำและไม่ทราบกฎหมายเรื่องนี้โดยละเอียด ที่ออกมาพูดเรื่องนี้เพราะแอ๊กเคาต์นั้นมีการพูดถึงร.พ.ในทางเสียหาย กล่าวอ้างว่าคลินิกฝากไข่ส่งมิ้งไปตรวจร่างกายที่นี่ซึ่งไม่เป็นความจริง ส่วนร.พ.จะดำเนินการกับแอ๊กเคาต์ รวมถึงสื่อที่กล่าวอ้างและลงข่าวเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไรนั้น ไม่ทราบและไม่ขอยุ่งเกี่ยวใดๆ เพราะถือว่ามิ้งเคลียร์ชัดเจนมากที่นี่แล้ว”

ด้านตัวแทนทีมที่ปรึกษาของครอบครัว นักแสดงหนุ่ม “กัปตัน” เผยว่า เมื่อวานคุยกับครอบครัวน้องกัปตันไปบางส่วนแล้วว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะสื่อสารกับทุกคนอย่างไรดี เพราะทุกคนก็ต้องการทราบฟีดแบ็กจากเรา ยังคิดกันอยู่ว่าจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว หรือโพสต์ชี้แจงทางโซเชี่ยลดี ตอนนี้ต้องรอน้องกัปตันก่อน เพราะเขาไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า จ.เลย และเพิ่งทราบข่าวตอนจะเข้าวัด ภายในวันจันทร์คงมีคำตอบที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ กัปตันวางแผนไว้นานหรือยัง ตัวแทนทีมที่ปรึกษาของทางครอบครัวนักแสดงหนุ่ม ตอบว่า “วางแผนไว้นานแล้ว เขาไปกับป้าซึ่งประจวบเหมาะกับที่น้องมิ้งโพสต์ หลังทราบข่าวนี้ คนที่ดูกังวลที่สุดคือแม่ของน้องกับตัวกัปตัน ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับความชัดเจนจากทางน้องมิ้ง จะบอกว่าแท้ง เราก็อยากขอดูใบรับรองแพทย์ว่ามีการขูดมดลูก ตั้งแต่วันแถลงข่าวเราก็ไม่ได้ติดต่อกับทางน้องมิ้ง เพราะชวนไปฝากท้องด้วยกัน เขาก็ไม่ไป แล้ว หลักฐานต่างๆ ที่น้องบอกว่ามี แต่ไม่สามารถแสดงให้ดูได้ ก็ยังไม่เคยเห็น

ส่วนพื่อนสนิทของ “กัปตัน” เผยกับข่าวสด ว่า เรื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. มิ้งมาคุยกับตน และบอกว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า แล้วกัปตันก็บล็อกไลน์ หายไป เขาไม่สามารถติดต่อ กัปตันได้ ให้ช่วยติดต่อกัปตันให้หน่อย ตนจึงไปคุยกับกัปตัน ซึ่งกัปตันก็บอกว่าไม่อยากยุ่งกับมิ้งแล้ว หลังจากนั้นตนไม่ได้คุยกันอีก จนมิ้งโพสต์ ไอจีบอกว่าตัวเองท้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค.

เมื่อถามว่ามิ้งออกมาโพสต์ไอจีบอกว่าแท้งแล้ว จริงๆ เป็นอย่างไร เพื่อนสนิทนักแสดงหนุ่ม เผยว่า เรื่องจริงไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก แต่หลักฐานที่ว่าเขาไม่ท้อง ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่ ทางบ้านกัปตันอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงมั่นใจว่า “มิ้ง” ไม่ได้ท้อง เพื่อนสนิทคนเดิมตอบว่า ตัวกัปตันบอก เพราะตนต้องถามความมั่นใจจากเพื่อน ก่อนออกมาพูด กัปตันมั่นใจว่ามิ้งไม่ได้ท้อง

ขณะ “กัปตัน”ชลธร เผยกับสื่อว่า ยอมรับว่าทราบข่าวพร้อมกับสื่อและทุกคน แต่ไม่ขอแสดงความรู้สึกและความเห็นใดๆ เร็วเกินไปที่จะพูดอะไรตอนนี้ เนื่องจากยังสับสนกับเรื่อง ที่เกิดขึ้น

ด้าน “ข่าวช่องวัน” เผยข้อมูลเอ็กซ์คลูซีฟฝั่งของหนุ่มกัปตัน ระบุว่า การออกมาประกาศ ว่าแท้งของมิ้งครั้งนี้ ยังไม่ใช่บทสรุปของมหากาพย์มิ้งโป๊ะแตกแน่นอน ส่วนข้อมูลจริง จะเป็นอย่างไร ต้องรอฟังเรื่องเซอร์ไพรส์กว่านี้ แน่นอน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0