โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กับดักหนี้รถไฟความเร็วสูงจีน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

เผยแพร่ 22 เม.ย. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำคณะบินไปยัง กรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมประชุม นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางครั้งที่ 2 หรือ Belt and Road Cooperation : Shaping a Bright Shares Future ร่วมกับผู้นำอีก 38 ประเทศในเส้นทาง Belt and Road เส้นทางสายไหมใหม่จีน รองรับการแผ่อิทธิพลครั้งใหญ่ของจีนในยุค ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ท่ามกลางความวิตกของหลายประเทศในเส้นทางนี้ อาจจะต้องตกอยู่ใน “กับดักหนี้จีน” ไปอีกนานแสนนาน

การประชุมรอบนี้จะมีขึ้นในวันที่ 26–27 เมษายน ที่ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

การไปร่วมประชุม Belt&Road ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจสำคัญคือ การร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือการเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง 3 ประเทศ จีน สปป.ลาว และไทย ซึ่งเป็นการผูกพันอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย กับ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ที่จีนจะสร้างจาก เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ลงมาทางใต้ผ่าน สปป.ลาว และ ประเทศไทย ลงใต้ไปถึง มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ไปออกทะเลที่ ช่องแคบมะละกา เส้นทางเดินเรือที่สำคัญในภูมิภาคนี้

รัฐบาลไทย อาจจะฉลาดกว่ารัฐบาลประเทศอื่นที่ ไม่ยอมตกอยู่ในกับดักหนี้จีน จึงไม่กู้เงินจากจีน แต่ควักเงินงบประมาณของคนไทยบวกกับเงินกู้อีกก้อนใหญ่ เพื่อลงทุนสร้าง รถไฟความเร็วสูงไทยจีน เฟสแรก กรุงเทพฯ–นครราชสีมา มูลค่ากว่า 179,000 ล้านบาท เองและเฟส 2 นครราชสีมา–หนองคาย อีกหลายแสนล้านบาท เพื่อไปเชื่อมกับลาว

ไม่รู้เป็นเพราะไทยไม่ยอมกู้เงินจากจีนหรือเปล่า จึงทำให้การซื้อรถไฟความเร็วสูงจากจีนมีราคาแพงเว่อร์ เจรจากันหลายยกก็ยังจบกันไม่ลง มีข่าวว่าเมื่อเย็นวานนี้ 22 เมษายน คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีคมนาคม ก็ยังวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เจรจากับ นายนิ่งจี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ต่อรองราคาในร่างสัญญาฉบับ 2.3 ให้จีนลดราคาลงมา 1,000 ล้านบาท หลังจากที่เจรจากันหลายยก คงเป็นเพราะรัฐบาลไทยใจดี สั่งซื้อรถไฟความเร็วสูงจากจีนหลายหมื่นล้านบาท โดยไม่มีการประมูลตามกติกาสากล จึงทำให้จีนขายไทยในราคาแพงจนปิดงบไม่ลง

การเจรจาถูกบีบด้วยเวลาให้ต้องจบเมื่อคืนนี้ เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติในวันนี้ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะบินไปเซ็นบันทึกข้อตกลงกับจีนที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 26-27 เมษายน

รัฐบาลที่ฉลาดในการเจรจากับจีน ต้องยกให้ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกฯวัย 93 ปี ของมาเลเซีย เพื่อนบ้านไทยที่ต้องรับภาระสร้างรถไฟความเร็วสูงจีนต่อจากไทยไปมาเลเซียในอนาคต ทันทีที่ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ ดร.มหาธีร์ สั่งยกเลิกโครงการรถไฟจีน 20,000 ล้านดอลลาร์ 640,000 ล้านบาท พร้อมกับโครงการจีนอีก 2 โครงการทันที

ทำให้จีนต้องรีบไปเจรจาเอาอกเอาใจมาเลเซีย

จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ก่อน ก่อนที่ ดร.มหาธีร์ จะเดินทางไปร่วมประชุม B&R ครั้งนี้ด้วย ดร.มหาธีร์ก็ยอมฟื้นโครงการรถไฟความเร็วสูงจีนอีกครั้ง โดย รัฐบาลจีนยอมลดราคาโครงการลงไปถึง 1 ใน 3 ของราคาเดิม จากราคาเดิม 65,500 ล้านริงกิต เหลือเพียง 44,000 ล้านริงกิต ลดราคาไปถึง 21,500 ล้านริงกิต 1 ริงกิตเท่ากับ 7.70 บาท ผู้นำมาเลเซียลดราคารถไฟความเร็วสูงจีนลงไปรวดเดียว 165,550 ล้านบาท สุดยอดจริงๆ

ของไทยแค่ 1,000 ล้านบาท ต่อรองกันแทบเป็นแทบตายจีนไม่ยอมลดให้สักบาท

ประเทศที่ตกอยู่ใน “กับดักหนี้ B&R จีน” ไปแล้วก็คือ ศรีลังกา ต้องยอมให้จีนเช่าท่าเรือยุทธศาสตร์เป็นเวลา 99 ปี เพราะไม่มีเงินใช้หนี้ค่าก่อสร้างท่าเรือมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์ 44,800 ล้านบาท ประเทศที่สองที่กำลังจะตกอยู่ใน “กับดักหนี้ B&R จีน” ในอนาคต น่าจะเป็น สปป.ลาว เพราะโครงการรถไฟความเร็วสูงจีนลาว ที่จะมาเชื่อมกับไทยที่หนองคาย มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 6,700 ล้านดอลลาร์ 214,400 ล้านบาท มูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศลาวเลยทีเดียว แล้วจะเอาเงินจากที่ไหนไปใช้หนี้.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0