บทสัมภาษณ์พิเศษ “ยาสึชิ นากามูตะ” ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานการออกแบบ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมงาน Mazda ASEAN Design Forum 2018 ที่กล่าวถึงแนวคิดและกระบวนการดีไซน์รถยนต์ของมาสด้า ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคต
-สิ่งที่ยากที่สุดและระยะเวลาในการออกแบบ
สำหรับสิ่งยากที่สุดในการออกแบบ คือ แสงและเงา การสร้างรถให้สะท้อนแนวคิดและมีแสงเงาที่สวยงาม ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการออกแบบ จากการทำงานที่ผ่านมา เราทำสำเร็จมาแล้วกับมาสด้าทุกรุ่น โดยแต่ละเฟส จะใช้เวลาในการออกแบบราว 10 ปี และปีหน้า จะเริ่มเฟสที่ 2 ของโคโดะ ดีไซน์
-เฟสที่2 จะแตกต่างอย่างไร
มาสด้าจะไม่หยุดการดีไซน์ที่ดีที่สุด โดยเฟสที่ 2 ของโคโดะ ดีไซน์ จะยังคงคอนเซ็ปต์หลักในเรื่องของแสงและเงาเอาไว้ ซึ่งถ่ายทอดมาจากแนวคิดหลักของคนญี่ปุ่น อันเกิดจากความเรียบง่าย หรือ less is more
-จะมีการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบหรือไม่
เราจะไม่เปลี่ยนแกนหลักในการดีไซน์ จะยังคงใช้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เป็นหลักในการออกแบบรถยนต์ทุกรุ่นของเรา ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ทำให้เราประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก โดยจะสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์และตัวตนของผู้ครอบครอง
-เลือกสีอย่างไร
สี คือ สิ่งสำคัญมาก เราเลือกจากตัวรถและการดีไซน์ เช่น สี soul red มากับแนวการออกแบบของ โคโดะ ตั้งแต่แรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเส้นสายของตัวรถได้เป็นอย่างดี ส่วนในเฟสที่2 กำลังเลือกสีใหม่อยู่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
-รถรุ่นต่อไป
สำหรับประเทศไทย จะมีมาสด้า 3 เปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งจะมากับแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่มีความหรูและสง่างาม เฉกเช่นงานศิลปะชิ้นเอก