กองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมมือตลาดหลักทรัพย์ ดึงแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบการออม พบคนไทยยังไม่รู้ออกผ่านกอช.แล้วรัฐบาลสมทบจนเกษียณ เผยแรงงานนอกระบบ 21 ล้านคนยังไม่มีการเก็บเงิน
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแรงงานในระบบมีอยู่ราว 40 ล้านคน เป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบ อยู่ประมาณ 21 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือสวัสดิการทางด้านการเงิน เพราะไม่ใช่ข้าราชการ จึงไม่เข้าเกณฑ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ไม่ได้อยู่กับภาคเอกชนจึงไม่มีสิทธิรับเงินสมทบจากจากนายจ้างของประกันสังคม
ฉะนั้นจึงเป็นกลุ่มที่ภาครัฐต้องเข้ามาสนับสนุน ผ่านทางกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งรัฐจะให้เงินสมทบ สามารถนำไปลดหย่อนภาษี และมีบำนาญหลังเกษียณอีกด้วย
*แต่คนส่วนใหญ่ยังขาดการรับรู้ ยังไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิในการเข้าไปออมกับ กอช.ได้ จึงต้องการรับรู้ให้มากขึ้น *
กอช.จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) เรื่อง "การส่งเสริมความรู้ทางการเงิน" ระหว่างตลาดหลัพทรัพย์แห่งประเทศไทย และกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นเพื่อเสริมสร้างระบบบำนาญให้แก่ผู้ที่เป็นแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ นักเรียน นิสิตและนักศึกษา ที่ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, มาตรา 39, มาตรา 40 ทางเลือก 2 กับ 3 ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงจะได้รับการสบทบ
ก่อนหน้านี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ ได้เข้าไปฝึกอบรมให้เป็นเทรนเนอร์เรื่องการเงินให้กับพนักงานทุกคนของ กอช.เริ่มจากพนักงานเองก่อน แล้วเดินสายไปสู่ผู้นำชุมชน เพื่อนำข้อมูลความรู้ไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งได้มีการทำในระยะแรกไปแล้ว 2 รุ่น ครั้งละ 80 คน และเป็นการเดินสายออกไปในภูมิภาคต่างๆ
"หลังจากลงพื้นที่ไปพบว่า ชาวบ้านเขาไม่รู้เลยว่าซื้ออะไรคือการลงทุน จัดพอร์ตอย่างไร บางคนทั้งพอร์ตมีแต่ประกันชีวิต กับกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ เราจึงต้องเร่งสร้างผู้นำชุมชนขึ้นมาให้ความรู้กับเขา ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งกองทุนหมู่บ้าน 15,000 หมู่บ้าน สถาบันชุมชน แก้หนี้ให้เขาก่อน แล้วเริ่มออมเงิน จากนั้นทุกอย่างจะตามมา"
ในปัจจุบันสมาชิก กอช. มีอยู่ราว 590,000 คน ตั้งเป้าหาสมาชิกเข้ามาลงทุนเพิ่มให้ได้ 1 ล้านคน ขั้นต่ำ 7 แสนคนในปีนี้ จากกลุ่มเป้าหมาย 21 ล้านคน
ด้านนายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาหลักทรัพย์มือเครื่องการเผยแพร่ความรู้ที่ค่อนข้างมาก การบริหารการเงิน จะเอาไปลงทุนได้อย่างไรบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ต้องทำร่วมกับพันธมิตร เพราะเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุน แต่ต้องส่งเสิรมให้ความรู้การเงินขั้นพื้นฐาน(Financial Literacy) ทำอย่างไรให้ประชาชนมีเงินหลังเกษียณ ซึ่งทาง กอช.เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญ เพื่อเป็นหลักประกันบำนาญไว้ใช้ยามเกษียณได้อย่างมั่นคง
ทางตลาดหลักทรัพย์จะให้ความรู้การเงิน ตั้งแต่สอนเรื่องการทำบัญชีรายรับรายจ่าย หรืออยากมีบ้าน อยากส่งลูกเรียนต้องทำอย่างไร เก็บเงินอย่างไรบ้าง และที่สำคัญคือทำอย่างไรให้มีรายได้หลังเกษียณ เปลี่ยนจากแนวคิดการหารายได้มากๆเข้าว่า เป็นการมีสินทรัพย์ที่เหมาะสมแต่ละคนเป็นองค์ประกอบของการลงทุน
ได้มีการพูดถึงการแก้กฎหมายในอนาคต เรื่องของการออม อาจจะมีการแก้ไขข้อกำหนดอายุให้มากกว่า 60 ปี จากสถานการณ์ปัจจุบัน คนที่อยากเก็บเงินมากๆ คือช่วงอายุ 58 ปี เพราะเมื่อเขารู้แล้วเงินไม่พอใช้ จะไม่มีเวลาเข้าแล้ว ก็ยิ่งอยากจะออมให้มากขึ้น
สำหรับ กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นช่องทางการออมขั้นพื้นฐานให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองให้ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบของ “บำนาญ” เพื่อเป็นการสร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการดูแลจากภาครัฐ
เกณฑ์ผู้ที่จะเป็นสมาชิก กอช. คือ 1. มีสัญชาติไทย 2. อายุไม่น้อยกว่า 15 ปี และไม่เกิน 60 ปี 3. ไม่อยู่ในกองทุนตามกฎหมายอื่นที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และ 4. ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน ทางข้าราชการและลูกจ้างเอกชนสามารถสมัครได้ แต่รัฐจะไม่สมทบเงินให้
สิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับคือ เงินสะสม ,เงินที่รัฐสมทบ อายุ 15-30ปี รัฐบาลให้เงินสมทบ 50%ของเงินสะสม แต่ไม่เงินปีละ 600บาท อายุ 30-50 ปี รัฐสมทบให้ 80%ไม่เกินปีละ 960บาท และ50 ปีขึ้นไปรัฐให้เงินสมทบ 100% แต่ไม่เกินปีละ 1,200บาท ,ดอกเบี้ยเงินฝาก(มีการค้ำประกันผลตอบแทนจากภาครัฐ ไม่ให้ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนของธนาคารออมสิน ธกส.) นอกจากนี้จะได้รับเงิน บำนาญ และนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ช่องทางการสมัครสมาชิกผ่านทาง ธนาคารออมสิน , ธนาคาร ธกส. , ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกรุงไทย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนการออมแห่งชาติ