จากกรณี กลุ่มคนร้ายก่อเหตุลักพาตัว นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 67 ปี พี่ชายนางสาวพนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งกำลังเดินอยู่บริเวณหน้าศาล เพื่อนำตัวมาต่อรองทางคดีให้พิพากษายกฟ้อง พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊งมูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 6 ราย โดยมีพันตำรวจโทบรรยิน เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2563) ที่บริเวณด้านข้างศาลแพ่งกรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม และชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ได้คุมตัวนายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ , นายชาติชาย เมณฑ์กุล และ นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ไปทำแผนชี้จุดประกอบการรับสารภาพรวม 3 จุด ประกอบด้วย
1.บริเวณบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งอยู่บริเวณซอยรัชดา 33 หลังด่านเก็บเงินค่าทางด่วนย่านรัชดา โดยกลุ่มผู้ต้องหาใช้เป็นที่พักและรวมตัวกันก่อนลงมือก่อเหตุ และคาดว่าได้วางแผนล่วงหน้าก่อนหลายวัน ทั้งนี้ทางนายณรงค์ศักดิ์ ยืนยันว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของพ.ต.ท.บรรยิน
2.บริเวณจุดรวมพลหน้าศาลแพ่งใต้ ซอยเจริญกรุง 63 เป็นจุดที่มาดักรออุ้มตัวขึ้นรถเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนายณรงค์ศักดิ์ รับว่าเป็นคนล็อคตัว นายชาติชาย เป็นคนผลักตัวขึ้นรถ ส่วนนายประชาวิทย์ เป็นคนคุมเชิง
และจุดสุดท้าย 3.ริมถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เป็นสถานที่สุดท้ายที่คาดว่าผู้ตายอาจหมดสติก่อนจะเสียชีวิต
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาชี้จุดประกอบคำให้การ 2 จุดคือบริเวณบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยินย่านรัชดา และบริเวณจุดรวมพลหน้าศาลแพ่งใต้ ซอยเจริญกรุง 63 ก่อนจะควบคุมตัวกลับกองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ พ.ต.ท.บรรยิน , นายมานัส ทับนิล และนายธงชัย วจีสัจจะ ยังคงยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน และพวกรวม 6 คน ไปฝากขังศาลอาญา รัชดา ใน 6 ความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ซ่องโจร,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ”
