ในสภาวะดอกเบี้ยฝากแบงก์ลดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำให้มีกองทุนใหม่ ๆ ออกมาเป็นทางเลือกลงทุนให้แก่ผู้มองหาช่องทางการลงทุนในสถานการณ์โควิด-19 ที่สร้างความผันผวนในเรื่องผลตอบแทนการลงทุน
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข็นกองทุนใหม่เป็นทางเลือกลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยฝาก แต่เสี่ยงน้อยกว่าหุ้น
บลจ. กรุงไทย เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 ( KTSIV3M3) ในวันที่ 1-5 มิ.ย. 2563 อายุโครงการประมาณ 3 เดือน มีระดับความเสี่ยงของกองทุนที่ระดับ 4 คือ ปานกลางค่อนข้างต่ำ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เงินฝาก/ตราสารหนี้ธนาคารพาณิชย์ และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย
ตราสารที่คาดว่าจะลงทุน คือ หุ้นกู้ระยะสั้น บริษัทภัทรลิสซิ่ง จำกัด ในสัดส่วนโดยประมาณ 9% และพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนโดยประมาณ 91%
“คาดว่าผลตอบแทนของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 0.40% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับไม่เสียภาษี ยกเว้นนิติบุคคลต่างประเทศที่ไม่ประกอบกิจการในประเทศไทย “นางชวินดา หาญรัตกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย กล่าว
ทั้งนี้ กองทุน KTSIV3M3 อาจมีการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนตามความจำเป็นและเหมาะสม
สำหรับสภาวะตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ 15-22 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลง เกือบทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศและตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี เป็น 0.50% ต่อปี ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ออกมาติดลบ -1.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ( YoY) น้อยกว่าคาดที่ -3.9%
“ภาวะตราสารหนี้เอกชน Credit/Liquidity Spread ยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการ สกัดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ต่อความสามารถในการชําระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้” นางชวินดา กล่าว
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 6,427 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 3bps. ( 0.03%) มาอยู่ที่ 0.54% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 9bps. ( 0.09% ) มาอยู่ที่ 0.72% ต่อปี และอายุ คงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. (0.06%)มาอยู่ที่ 1.11% ต่อปี
ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ ท่ามกลางกระแส Risk on จากความเชื่อมั่นว่าการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และขานรับผล การทดสอบวัคซีนจาก Moderna Inc.
“ตลาดเริ่มได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่าง สหรัฐอเมริกากับจีน “นางชวินดากล่าว
โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps.มาอยู่ที่ 0.17% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. (0.02%) มาอยู่ที่ 0.33% ต่อปี และอายุ คงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps.(0.02%) มาอยู่ที่ 0.66% ต่อปี
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงประมาณ 3 เดือน
