วันนี้( 18 ก.พ. 62 )นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงกระแสข่าวต่อร่างพระราชบัญญัติข้าว ที่การยกร่างในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการ สนช. ในวาระ 2 ห้ามชาวนาเก็บพันธุ์ไว้ใช้เองว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่ร่างของรัฐบาล แต่ร่างที่สมาชิกสนช. เสนอกันมาเองซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีเพียงอธิบดีกรมการข้าวที่ร่วมเป็นกรรมาธิการด้วยพร้อมยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว จึงให้อธิบดีกรมการข้าว เสนอความเห็น 2 เรื่อง คือ ยังไม่ควรให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการค้าพันธุ์ข้าว และรับรองพันธุ์ข้าว เพราะจะมีผลกระทบต่อชีวิตชาวนาพร้อมการพัฒนาพันธุ์ข้าว
อีกทั้งกรมการข้าว เป็นหน่วยงานวิชาการ ไม่ใช่กรมที่มีอำนาจบังคับใช้ตามกฎหมาย จึงเกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้ และขณะนี้มีกฎหมายรักษาพันธุ์พืชควบคุมอยู่แล้ว จึงหวังว่าคณะกรรมาธิการ จะรับฟังความคิดเห็นของชาวนาอย่างหลากหลาย ขอเสนอให้ขยายเวลา ปรับแก้ร่างกฎหมายเพิ่มไปอีกกว่า 10 วัน
ส่วนประเด็นการขยายเวลาการยกเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีพาราควอตออกไปเป็นเดือนมกราคม 2563 นั้น นายกฤษฎา ปฏิเสธว่าไม่ใช่การขยาย แต่ให้กลับไปใช้มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ให้จำกัดการใช้พาราควอต และเรื่องนี้หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ คือ คณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งมีตัวแทนของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เพียง 5 คน จาก 29 คน
ดังนั้นจึงอยากให้สังคม ดูรายละเอียดให้ชัดเจนว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีอำนาจที่จะไปขอขยายเวลาการยกเลิกใช้พาราควอต และกระทรวงเกษตรฯ เอง ได้ส่งร่างขั้นตอนการจำกัดการใช้สารพาราควอต ให้คณะกรรมการไปพิจารณาแล้ว ซึ่งหากประชาชนเห็นว่า กรรมการคนใดขาดคุณสมบัติ และมีส่วนได้ส่วนเสีย ก็สามารถไปยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมได้
