สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงยืนหยัดข้างพระโอรสหรือเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พร้อมตรัสชื่นชมการทำงานของฝ่ายตุลาการซาอุดีอาระเบีย อันถือเป็นการปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรมจามัล คาช็อกกิ
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียตรัสในการปราศรัยประจำปีต่อสภาที่ปรึกษาชูรา (Shura Council) ว่าราชอาณาจักรก่อตั้งขึ้นบนหลักความยุติธรรมและความเสมอภาพของอิสลาม และซาอุดีอาระเบียก็ภาคภูมิใจกับความพยายามพิจารณาคดีและการดำเนินคดีอาญาโดยรัฐที่เกิดขึ้น
พร้อมทรงรับรองว่าประเทศซาอุดีอาระเบียจะไม่มีวันเลิกบังคับใช้กฎหมายของพระเจ้าโดยไม่แบ่งแยก แต่พระองค์ไม่ได้ตรัสถึงเหตุฆาตกรรมคาช็อกกิ นักข่าวของวอชิงตันโพสต์โดยตรง
อัยการของซาอุดีอาระเบียชี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมคาช็อกกิในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียที่เมืองอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม แต่สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) สรุปว่าเจ้าชายทรงเป็นผู้สั่งการสังหารครั้งนั้น
ขณะที่อัยการซาอุดีอาระเบียเรียกร้องโทษประหารชีวิตต่อชาย 5 คน พร้อมสั่งฟ้องบุคคลอีก 11 คนและกล่าวว่ามีบุคคลทั้งหมด 21 คนที่ถูกควบคุมฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม
ทั้งนี้ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของประเทศซาอุดีอาระเบียทำให้มีเพียงกษัตริย์เท่านั้นที่ทรงมีอำนาจปลดมกุฎราชกุมาร ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานทรงย้ำว่าทรงไม่มีพระราชประสงค์จะทำเช่นนั้น
สถานีโทรทัศน์อัล-อาราบียาของซาอุดีอาระเบียรายงานว่าเจ้าชายจะทรงเข้าร่วมการประชุมจี 20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นเสด็จเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรม โดยพระองค์จะทรงพบกับเหล่าผู้นำนานาชาติทั้งตุรกี สหรัฐฯ และประเทศยุโรปอื่น ๆ ด้วย
ซึ่งคริสเตียน อุลริชเซนจากสถาบันเบเกอร์ของมหาวิทยาลัยไรซ์ในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “มกุฎราชกุมารทรงส่งสารที่ชัดเจนมากต่อประชาคมนานาชาติว่าไม่ว่าพวกเขาจะพูดหรือทำอะไรเรื่องคาช็อกกิ ก็จะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของซาอุดีอาระเบีย” และเสริมว่า “จริง ๆ แล้วก็คือพระองค์ทรงท้าให้นานาชาติเอาคำวิจารณ์มาปฏิบัติจริงเลย และพนันด้วยว่าพวกเขาจะไม่ทำอย่างนั้น”