กล้องตัวไหนที่ใช่คุณ? มาช่วยกันเลือกกล้องให้ตรงใจ

หลายท่านอาจเคยพูดว่า “อยากมีกล้องถ่ายรูปดีๆสักตัว จะได้ไปถ่ายรูปสวยๆตามสถานที่ต่างๆ” แต่จะเริ่มต้นหากล้องแบบไหน ที่ตรงกับสไตล์ของเรา วันนี้ NEW18 จะพามาเลือกกล้องตัวที่ใช่คุณ !!

ความรู้สึกนี้ ทุกคนที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวย่อมมีกันแน่นอน แต่จะเลือกกล้องตัวไหนดี ในเมื่อมีกล้องถ่ายรูปที่ออกมาในท้องตลาดนั้นมีมากมายหลากหลายยี่ห้อและหลายๆรุ่นก็ดูจะคล้ายๆกัน แล้วมือใหม่หัดถ่ายรูปอย่างเราจะเลือกกล้องตัวไหนดีละ ปัญหาโลกแตกของเหล่ามือใหม่ในการหัดถ่ายรูปจึงบังเกิดขึ้น
วันนี้พี่หมีจะมาแนะนำเริ่มต้นในเรื่องของการเลือกซื้อ “กล้องตัวไหนที่ใช่คุณ” ไว้เป็นแนวทางกันครับ

Cr. Tyler nix  , Cr. Robson hatsukami morgan
1. Lifestyle คุณเป็นแบบไหน ? 

Lifestyle ของคนปัจจุบันมีหลากหลาย ซึ่งกล้องในตลาดปัจจุบันมีการแบ่งไว้หลายประเภทมากเพื่อให้ตอบโจทก์ในแต่ละกลุ่ม เริ่มตั้งแต่ DSLR -> Mirrorless -> Compact-> Action Camera -> กล้องมือถือ ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน แบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆได้หลากหลาย เช่น
-กลุ่มถ่ายรูปเป็นอาชีพ : ถ้าคุณมือใหม่แบบไม่รู้อะไรเลยในเรื่องการถ่ายรูป และไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก พี่หมีขอบอกเลยว่า DSLR อาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณเนื่องจาก DSLR เป็นกล้องระดับมืออาชีพที่มีราคาสูงและต้องใช้ฟังชั่นในการควบคุมค่อนข้างเยอะ รวมถึงน้ำหนักที่มากที่สุดในกลุ่ม จึงทำให้การควบคุมกล้อง DSLR ไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่คุณภาพจากภาพที่ได้ถ่ายรูปมานั้นก็จะสูงมากตาม คนส่วนใหญ่ที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับจริงจังกับการถ่ายภาพหรือเป็นคนที่เริ่มถ่ายรูปมาสักระยะนึงแล้ว
-กลุ่มคนที่ชื่นชอบการกิน การท่องเที่ยว ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก : กล้อง Mirrorless กับ กล้อง Compact กล้องกลุ่มนี้เป็นกล้องที่น้ำหนักเบาเหมาะกับการพกไปเที่ยวได้ทุกที่ มีฟังชั่นที่ไม่ยุ่งยากและมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งกล้อง Mirrorless สามารถเปลี่ยนเลนส์ ได้เหมือน DSLR และราคาในตลาดมีราคาตั้งแต่หมื่นต้นๆจนไปถึงห้าหมื่นขึ้นไป ซื่งคุณภาพกล้องก็จะตามราคากันไปในแต่ละรุ่น
-กลุ่มคนชอบลุย สายท่องเที่ยวป่าเขา ดำน้ำ ลุยพื้นที่หนักๆ มีกิจกรรมเยอะ : กล้อง Action Camera ย่อมตอบโจทก์คนกลุ่มนี้ ด้วยน้ำหนักที่เบาที่สุดในกลุ่ม พกง่าย ทนทาน บางรุ่นสามารถกันน้ำได้ในตัวทำให้สามารถตอบโจทก์ในการถ่ายได้ในหลายๆพื้นที่
-กลุ่มคนเน้นสะดวก กล้องมือถือ ย่อมตอบโจทก์คนกลุ่มนี้ที่สุด ด้วยประสิทธิภาพของกล้องมือถือที่พัฒนามาในปัจจุบันไปไกลมาก ในบางรุ่นที่เป็นตัว TOP ของค่ายมือถือนั้น เซนเซอร์กล้องเกือบจะเท่ากล้อง Compact อีกทั้งยังมีฟังชั่นที่ถ่ายได้หลากหลายโดยที่ควบคุมไม่ได้ยาก ทั้งหน้าเบลอหลังชัด ถ่ายพาโนราม่า ถ่ายกลางคืน ถ่ายอาหาร ถ่ายดาว จึงทำให้กล้องมือถือก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

Cr. Sharon mccutcheo
2. งบประมาณ
ด้วยความที่กล้องในตลาดแบ่งประเภทใหญ่ๆ ออกเป็น DSLR, Mirrorless , Compact ,Action Camera ,กล้องมือถือ บรรดาค่ายต่างๆก็ยังแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆตามคุณภาพในแต่ละประเภทเพื่อให้ตอบโจทก์ตามงบประมาณของผู้ซื้ออีก แต่พี่หมีขอแนะนำเพิ่มเติมว่าในกรณีจะเลือกกล้องตามงบประมาณ จะต้องเตรียมเงินซื้อสิ่งอื่นๆเพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋ากล้อง , ฟิลเตอร์เลนส์ , อุปกรณ์ทำความสะอาด, เมมโมรี่การ์ด ซึ่งอาจะทำให้ไม่เพียงพอจากงบประมาณาที่ตั้งไว้ตอนแรก เพราะซื้อกล้อง มันไม่ได้มีแค่กล้องกับเลนส์คิท พี่หมีอยากให้เพื่อนๆลองรวมราคาสิ่งเหล่านี้เข้าไปคำนวนในงบที่จะซื้อกล้องด้วย

3.อ่าน Spec ให้เป็น
มือใหม่หลายๆคน มักจะตั้งคำถามว่า รุ่นนี้ดีกว่าอีกรุ่นอย่างไร เพราะลองดูจาก Life Style ก็แล้ว งบประมาณก็แล้ว มีตัวเลือกอยู่ 2-3 ตัว อีกตัวอาจจะแพงขึ้นอีกนิด มันต่างกันอย่างไร ซึ่งพอไปเปิดดู Spec แล้วจะตาลายหน่อยๆ ซึ่งศัพท์เทคนิคต่างๆเหล่านี้แหละคือตัวที่จะใช้เปรียบเทียบความคุ้มค่าในการใช้งาน ช่วยให้เราตัดสินใจได้ในระดับนึง สามารถดูออกว่าเทคโนโลยีกล้องที่เรากำลังจะซื้อเป็นรุ่นเก่าหรือใหม่ ตอบโจทก์ Lifestyle เราได้ครบหรือไม่

4.ไปลองเทสของจริง
ด้วยความที่ขนาดมือของคนเรานั้นไม่เท่ากัน การไปลองเทสของจริงที่ร้านขายกล้อง ทำให้รู้ว่ากล้องตัวไหนจับแล้วถนัดมือที่สุด สงสัยอะไรสามารถสอบถามที่เจ้าพนักงานได้ และทำให้รู้ว่าร้านไหนต้อนรับเราได้ดีกว่ากัน เพราะบางร้านแค่ถามคำถามยังไม่สนใจ ก็อย่าหวังถึงเรื่องการบริการหลังการขายเลยครับ

5.การรับประกันหลังการขาย

ในตลาดกล้องที่มีการซื้อขายกันอยู่นั่น มีการรับประกันอยู่ 2 แบบ คือ กล้องประกันศูนย์ กับ กล้องประกันร้าน ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยกล้องประกันศูนย์ จะเป็นกล้องที่ถูกจัดจำหน่ายโดยศูนย์ประเทศไทยที่ถูกแต่งตั้งจากบริษัทแม่ของค่ายกล้องอย่างเป็นทางการ กล้องที่จำหน่ายจะมีคู่มือภาษาไทย เมนูในกล้องเป็นภาษาไทย ส่วนกล้องประกันร้านจะเป็นกล้องหิ้วจากต่างประเทศ เมนูภาษาไทยไม่มี คู่มือก็ภาษาต่างประเทศ ซึ่งราคากล้องประกันร้านในตลาดนั้นมักถูกกว่าประกันศูนย์
แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือบริการหลังการขาย ซื้อเป็นประกันที่ไหนต้องส่งเคลมที่นั่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าประกันร้าน การบริการหลังการขายเป็นอย่างไร ในการส่งกล้องประกนร้านเข้าศูนย์แล้วนั้นจะไม่อยู่ในประกันของศูนย์ ราคาค่าซ่อมกล้องประกันร้านที่ส่งศูนย์ค่ายที่ประเทศไทยมักจะแพงกว่ากล้องจากประกันศูนย์

Cr. สมาคมถ่ายภาพธุรกิจ
6.รอดูที่งานแฟร์

กำเงินเอาไว้แน่นๆหากคุณอยากได้ของถูก ใน 1 ปี จะมีงานกล้องอยู่เป็นประจำ เท่าที่พี่หมีรู้ก็ 6 งาน แล้ว ในแต่ละงานจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ลด แลก แจก แถม และส่วนลดเงินสดจากบัตรเครดิตอีก บางคนเคยซื้อกล้องประกันศูนย์เท่ากับราคาประกันร้านก็มีมาแล้ว บางที่ในงานมีการประมูลกล้องในราคาเริ่มต้น 1 บาท แต่ๆๆๆ โปรดอย่าให้อำนาจมืดมาครอบนำ ย้อนกลับไปอ่าน ข้อ 1 – 5 อีกรอบ เพราะหากได้กล้องที่ราคาถูกมาแต่ไม่ถูกจริตกับ Lifestyle ของเรากล้องที่ซื้อมานั้นจะเป็นกล้องที่แพงกว่าที่ควร หรือไปได้กล้องแพงโปรถูกแต่ผ่อนไม่ไหวก็ทำให้การเงินเราแย่ได้

Cr. Jakob owens
7.กล้องมือสอง
กล้องมือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความที่ราคานั้นต่ำกว่ากล้องมือหนึ่งอยู่มาก แต่ในกรณีนี้มือใหม่ที่จะซื้อเป็นกล้องมือสองจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการเลือกซื้อมากๆ ควรนัดรับสินค้ามากกว่าโอนเงิน(ยกเว้นซื้อกับคนที่มีเครดิตน่าเชื่อถือ) เพื่อทำการเช็คสินค้าว่ามีปัญหาในด้านใดหรือไม่ ควรพาเพื่อนที่มีความรู้เรื่องกล้องไปช่วยดู เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง

Cr. Syd wachs
8.อย่าลืมศึกษาคู่มือ และพื้นฐานการถ่ายรูปเพิ่มเติม
หากคุณซื้อกล้องมาแล้ว อย่าลืมอ่านคู่มือ การซื้อกล้องไม่ได้ทำให้ ถ่ายรูปได้สวย ส่วนโหมด Auto ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ลองอ่านคู่มือและศึกษาพื้นฐานการถ่ายรูปเพิ่มเติมจะทำให้ได้รู้ว่ากล้องของเรามีความสามารถมากขนาดไหนที่จะทำให้เราสามารถถ่ายรูปได้ที่ต้องการครับ
สำหรับพี่ๆเพื่อนๆ ที่สนใจเทคนิคการถ่ายรูปสไตล์ต่างๆ อย่าลืมกด !!!   กดติดตามข่าวสารพี่หมี

หรือไปที่ https://www.facebook.com/BigBearJourney