โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กล่อมสมาคมส่งออก 3 สารเคมี

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 21 พ.ย. 2562 เวลา 13.55 น.

จากกรณีที่ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีหนังสือเชิญให้ผู้ประกอบการทั้ง 3 สมาคมได้แก่ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย เข้าพบหารือตามจดหมายขอเชิญประชุม โดยมีวาระสำคัญ เพื่อแจ้งมาตรการส่งออกวัตถุอันตรายที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ เพื่อทราบความเห็นผู้เข้าร่วมประชุมในประเด็นเกี่ยวกับวัตถุอันตรายดังกล่าว

วันที่ 21 พ.ย.62 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ได้ทำสุดแล้ว ประกอบกับข้อมูลด้านสาธารณสุขก็ออกมาแล้วว่า เป็นสารที่มีพิษ และที่ได้เชิญสมาคมต่างๆ มาร่วมหารือเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ถึงแนวทางการดำเนินการภายหลังที่จะมีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี ได้แก่ พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส โดยได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าหากบริษัทใดมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งออก 3 สารดังกล่าวนี้ จะสามารถดำเนินการได้ใน 3 วันทำการ

ปัจจุบันมีบริษัทได้แจ้งความจำนงจะขอส่งออกแล้วหลายบริษัท แล้วจะรีบอนุมัติให้ส่งออกไปโดยเร็ว ส่วนสต็อกที่ยังเหลือ 3.8 หมื่นตันตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าบริษัทขายสารไม่ได้หรือ แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คือยังไม่ได้ส่งออก คาดว่าส่งออกไปแล้วสต็อกจะเหลือน้อยลงไปเรื่อย

ทั้งนี้ จากการตรวจสต๊อก สารเคมี 3 ชนิด พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง โดยในวันที่ 30 มิ.ย.2562 พบมีสต็อกคงเหลือ 36,243 ตัน จาก 103 บริษัท, วันที่ 5 ก.ค.2562 พบ 34,688 ตัน, วันที่ 30 ก.ย. 2562 เหลือ 29,669 ตัน, วันที่ 31 ต.ค.2562 เหลือ 23,263 ตัน แต่จากการรายงานตัวเลขสต๊อก ณ วันที่ 12 พ.ย.2562 กลับเพิ่มมา 38,855 ตัน ก็เป็นเรื่องที่แปลก

ในส่วนของเกษตรกรก่อนหน้านี้ที่บริษัทไปเอาไปลด แลก แจก แถม คงจะไม่ซื้อเก็บสต็อกเอาไว้มาก แล้วได้ข่าวจากเกษตรกรว่ามีบริษัทใหญ่ไปรับรองว่าจะไม่แบน 3 สารนี้ อ้างว่ามีการจ่ายเงินให้รัฐมนตรีช่วยฯแล้ว ซึ่งไม่จริง แล้วการแบนก็เป็นเจตนารมย์ตั้งแต่รับตำแหน่งได้ 3 วัน ก็ประกาศแล้ว ดังนั้นเกษตรกรก็คงได้ยินข่าวอยู่แล้วว่าจะมีการแบน ไม่ใช่เพิ่งจะทราบข่าว และช่วงนี้ไม่ได้ช่วงฤดูในการปลูก แต่เป็นหน้าเก็บเกี่ยวก็ไม่ใช่สารเคมีอยู่แล้ว คาดว่าเกษตรกรก็คงไม่น่าที่จะเก็บสต็อกเอาไว้ เมื่อเกษตรกรมาคืนที่กรมวิชาการเกษตรแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะไปที่บริษัทนั้นๆ ก็ต้องรับผิดชอบ

“ส่วนสารทดแทนเป็นหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรที่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยศึกษาอย่างน้อย 2-3 ปี แต่เชื่อว่ายังมีสารทดแทนตัวอื่นในประเทศที่มี จึงไม่ได้สนับสนุนให้นำเข้ามาใหม่ทดแทน อย่างไรก็ดีในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานที่ประชุมในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 นี้ ว่าจะมีมติเช่นไรก็ต้องตอบคำถามของสังคม"

นายสกล มงคลธรรมากุล ประธานที่ปรึกษาสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรและสมาคมอารักขาพืชไทย กล่าวว่า ให้ส่งออกกลับคืนประเทศต้นทาง หรือประเทศที่ 3 นั้นเป็นไปไม่ได้เพราะการนำเข้ามาแล้วมีการนำมาปรับสูตรเพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของศัตรูพืชในประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อปรับให้เป็นวัตถุอันตรายประเภท 4 ซึ่งถือเป็นของผิดกฎหมาย จะไม่มีประเทศใดรับให้นำเข้าประเทศได้ 

ดังนั้น เงื่อนไขต่างๆ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามจริงและไม่ได้เป็นการกำหนดที่มีสมมุติฐานมาจากความเข้าใจถึงการปฏิบัติจริงแต่อย่างใด ทั้ง 3  สมาคม จึงได้มีแถลงการณ์ความเห็นร่วมและได้แสดงจุดยืนต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดังนี้ 1.สมาชิกทั้งสามสมาคมขอยืนยันจุดยืนที่ยังมีความจำเป็นสำหรับภาคเกษตรอุตสาหกรรมในการใช้สารทั้ง 3 ชนิด ซึ่งยังมีการใช้อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว

2.สมาชิกทั้ง 3 สมาคมยินดีปฏิบัติตามหลักกฎหมายโดยใช้แนวทางปฏิบัติของกรมวิชาการเกษตร ดังที่ได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายของกรมวิชาการเกษตรอย่างดีตลอดมา ตั้งแต่การลดปริมาณการนำเข้า ฝึกอบรมผู้ใช้ ผู้ขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติตามสากล ดังนั้นการจัดการสินค้าทั้งระบบซึ่งมีปริมาณมากกว่า 30,000 ตัน จะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจัดการสินค้าประมาณ 2 ปี ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในฤดูหลักและลดความเสียหายสำหรับภาคเกษตรอุตสาหกรรม 

นายสกล กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นคาดว่าในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ที่มีนายสุริยะ เป็นประธาน อาจจะมีพลิกมติที่จะขยายเวลาออกไปโดยที่ไม่ได้แบนทันที ยังมีความหวังอยู่

รายงานข่าวว่าในวันที่ 22 พ.ย.62 เวลา 10.00 น. จะมี 6 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย กลุ่มผู้ปลูกข้าวโพดหวาน สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย จะมีแถลงข่าวผลกระทบจากการแบนสามสารต่อภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมไทย และในวันที่ 26 และ 28 พ.ย.จะมีงานรวมพลังเกษตรไทย “แต่งชุดดำ เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการแบน 3 สาร ณ ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0