ชัยภูมิ- กลุ่มวัยรุ่นชัยภูมิ นัดกันทางเฟซบุ๊กไปซิ่งปิกอัพเที่ยววันหยุด พุ่งอัดต้นไม้พังยับเยินดับคาซากรถ 1 ศพ สาหัสอีก 7 ราย จนท.นำอุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือนำร่างทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดคาซากออกมาได้อย่างทุลักทุเล ส่งโรงพยาบาล
เมื่อเวลา 18.34 น.วันนี้ ( 23 ก.พ.) พ.ต.ท.ไตรวิทย์ แก้วชนะ สว.(สอบสวน)สภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ รับเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนต้นไม้มีผู้บาดเจ็บหลายรายและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนสายบ้านพลับ-กุดตะเคียน ช่วงก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านพลับ หมู่5 ต.หนองโดน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลจัตุรัส และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม จุด อำเภอจัตุรัส
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน ยจ 3932 นครราชสีมา พุ่งชนติดอยู่กับต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณข้างทาง สภาพพังยับเยินและมีผู้ติดอยู่ภายในรถจำนวนมาก จึงประสานขออุปกรณ์ตัดถ่างเร่งเข้ามาช่วยเหลือ พบว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในซากรถทั้งหมด 7 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเร่งช่วยเหลือคนบาดเจ็บออกมาได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลจัตุรัส
ส่วนผู้เสียชีวิตที่ยังติดอยู่ภายในรถอยู่บริเวณด้านหลังเบาะของคนนั่งซึ่งเป็นแค็บ ทราบต่อมาชื่อ นายพร้อมพงษ์ ชุ่มพะลัย อายุ 18 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 98หมู่ที่ 3 ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกจากซากรถออกมาได้อย่างทุลักทุเล และส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลจัตุรัส
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายถกลเกียรติ ชุ่มพะลัย อายุ 21 ปี(คนขับ) 2. นายณัฐพล กลิ่นศรีสุข อายุ 18 ปี 3. นายณรงค์เดช โสนนอก อายุ 18 ปี 4. นายธีรายุทธ นิตยารส อายุ 16 ปี 5. นายชัชชัย น้อยสุวรรณ์ อายุ 14 ปี 6. นายสุรียันต์ แสนพรม อายุ 18 ปี และ 7.นายรัฐพงษ์ สามารถ อายุ 15 ปี
สอบถามเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บที่มาดูเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มเพื่อนทั้ง 8 คน ได้ชักชวนกันผ่านทางเฟชบุ๊ก เพื่อไปเที่ยวช่วงวันหยุดเรียน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา คาดว่าช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงขากลับ คนขับน่าจะขับมาด้วยความเร็วรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางจนทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ไตรวิทย์ แก้วชนะ สว.(สอบสวน)สภ.จัตุรัส หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้น สาเหตุนา จะพากันขับขี่มาด้วยความเร็วสูงจนรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ดังกล่าว และเดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดที่โรงพยาบาล ซึ่งยังอาการสาหัส จึงต้องรอให้ผู้บาดเจ็บทั้งหมดมีอาการดีขึ้น ก่อนที่จะเชิญตัวไปสอบสวนหาสาเหตุ การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่ชัดเจนต่อไป
