โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กรุงไทย ชี้ อุ้มลูกค้าฝ่าโควิดผ่าน 5 มาตรการเยียวยา วงเงินรวม 5.95 แสนล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 25 พ.ค. 2563 เวลา 07.44 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. 2563 เวลา 07.44 น.
99413775_559896678292401_1782610018537832448_n

ธนาคารกรุงไทย เผยยอดช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 5 มาตรการเยียวยา ระบุกว่า 90% เป็นลูกค้าบุคคล ธุรกิจรายย่อย และ SME ด้านแคมเปญ #ร้านข้างทางต้องอยู่ข้างกัน ช่วยร้านอาหารรายเล็กๆ ให้สามารถอยู่รอด มีการรีวิวในโซเชียลมีเดียไปแล้วมากกว่า 10,000 ร้านค้า อีกทั้งให้พนักงานทั่วประเทศ 6,500 คนร่วมทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ ลงพื้นที่ยืนยันสิทธิ์ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา และให้สาขาเป็นจุดรับร้องเรียนกับผู้ขอทบทวนสิทธิ์

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ธนาคารในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาครัฐเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตรการต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งมาตรการของกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และของธนาคารเอง รวมทั้งสิ้น 5 มาตรการ เพื่อเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้สามารถเดินหน้าและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิดทั่วประเทศ ซึ่งได้ช่วยเหลือลูกค้าผ่าน Soft Loan ธนาคารออมสิน ในวงเงิน 5,058 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 382 ราย ผ่าน Soft Loan ธนาคารแห่งประเทศไทย ในวงเงิน 10,851 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 3,364 ราย และได้ปรับโครงสร้างหนี้ โดยการพักการชำระหนี้ รวมถึงให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม เป็นวงเงิน 580,077 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 167,981 ราย รวมวงเงินที่ธนาคารได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วทั้งสิ้น 595,986 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 171,727 ราย โดยมาตรการที่ได้ดำเนินไป ลูกค้าที่ได้ประโยชน์มากที่สุด เป็นลูกค้าบุคคล ลูกค้าธุรกิจรายย่อย และลูกค้าขนาดกลาง หรือ SME คิดเป็นกว่า 90% ของลูกค้าทั้งหมด

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME โดย บสย. เพื่อเสริมสภาพล่องและช่วยให้ SME ที่ขาดหลักประกันสามารถเข้าถึงเงินทุน โดยธนาคารได้ให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการ SME ในโครงการดังกล่าวไปแล้วในวงเงินรวมกว่า 10,636 ล้านบาท

สำหรับ 5 มาตรการของธนาคาร ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 ลูกค้าสินเชื่อบุคคล และลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิม 4 เดือน มาตรการที่ 2 ลูกค้าบุคคลและลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น 6 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิม 6 เดือน มาตรการที่ 3 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนอัตโนมัติ มาตรการที่ 4 ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระหนี้เงินต้นวงเงินสินเชื่อระยะยาว สูงสุด 12 เดือน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินและสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ สูงสุด 6 เดือน มาตรการที่ 5 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท สนับสนุนสินเชื่อ Soft Loan อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2% ต่อปี พักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรก

นายผยง ศรีวณิช กล่าวต่อไปว่า ธนาคารยังได้จัดแคมเปญ #ร้านข้างทางต้องอยู่ข้างกัน เพื่อช่วยให้ร้านอาหารข้างทางที่เรารัก สามารถอยู่รอด ซึ่งมีการรีวิวร้านอาหารข้างทางในโซเชียลมีเดียไปแล้วมากกว่า 10,000 ร้านค้า และเป็น Hashtag ที่ถูกพูดถึงอย่างมากใน Facebook Instagram ติด Trend Twitter อันดับ 1 อย่างรวดเร็ว ในวันที่ 27 เมษายน วันที่ 11 และ 12 พฤษภาคม 2563 มี Mention มากกว่า 300,000 ครั้ง และมีผู้เข้ามา Engagement กว่า 1 ล้านครั้ง

ทั้งนี้ ธนาคารยังได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเราไม่ทิ้งกัน โดยร่วมพัฒนาและสนับสนุนแพลตฟอร์ม รวมทั้งระบบประมวลผลของเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ส่งพนักงานทั่วประเทศ จำนวน 6,500 คน เข้าร่วมทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ ช่วยประชาชนยืนยันสิทธิ์ ตลอดจนให้สาขาทั่วประเทศ เป็นจุดบริการในการให้ความช่วยเหลือตอบคำถาม ดำเนินการแก้ไขข้อมูลของผู้ขอเยียวยา เป็นจุดร้องเรียนของผู้ขอทบทวนสิทธิ์ กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือไม่ได้สิทธิ์ ทำให้ขณะนี้มีประชาชนได้รับเงินเยียวยาจากกระทรวงการคลังแล้ว 15 ล้านคน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0