จากกรณีที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ออกมาระบุว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและมีการเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 40% และไม่มีการควบคุมราคา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่าที่ผ่านมากรมสรรพสามิตไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40% ตามที่เป็นข่าวแน่นอน เนื่องจากสินค้าชนิดนี้ไม่ได้ถูกระบุในพิกัดการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต ดังนั้น ภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต ตามราคาของสินค้าเหมือนสินค้าชนิดอื่นๆ
นายพชร ยังกล่าวต่อด้วยว่า สินค้าฟุ่มเฟือยหมายถึงสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นกับชีวิตหรือไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน แต่ผ้าอนามัยจัดอยู่ในสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีการเก็บภาษีโดยใช้หลักเกณฑ์ภาษีฟุ่มเฟือย และที่ผ่านมากรมสรรพสามิตก็ไม่มีการไปตรวจจับสินค้าชนิดนี้หน้าโรงงานเพื่อคิดภาษีฟุ่มเฟือยที่แต่อย่างใด