กรณีศึกษาใหม่ที่เผยออกมาเมื่อวันจันทร์ชี้ว่าหากโรงแรมต่าง ๆ ติดตั้งอุปกรณ์ที่แสดงค่าพลังงานที่แขกใช้ไปแบบเรียลไทม์จะช่วยประหยัดพลังงานลงได้มาก ถึงแม้ลูกค้าจะไม่ได้ต้องจ่ายค่าไฟอยู่แล้วก็ตาม
ทีมผู้อยู่เบื้องหลังกรณีศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากการติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะที่ฝักบัวของโรงแรม 6 แห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และผลสรุปออกมาได้ว่ามาตรการสั่งเก็บค่าไฟอย่างเดียวไม่ช่วยควบคุมปริมาณพลังงานที่เราใช้ แต่เวเรนา ทีเฟนเบ็ค นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยอีทีเอชซูริชกล่าวว่าการติดตั้งเทคโนโลยีที่แสดงค่าพลังงานแบบเรียลไทม์ต่างหากที่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานได้อย่างดีเยี่ยม
โดยจากการติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะที่ฝักบัวเกือบ 20,000 อัน พบว่าแขกที่มาพักในห้องที่มีอุปกรณ์แสดงค่าพลังงานแบบเรียลไทม์ดังกล่าวจะใช้พลังงานน้อยกว่าแขกที่พักในห้องที่ไม่มีอุปกรณ์เฉลี่ยร้อยละ 11.4 ทั้งนี้ ค่าไฟสำหรับทำนำ้ร้อนและปั๊มน้ำถูกวัดเป็นหน่วยกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)
ทีเฟนเบ็คกล่าวว่าการติดมิเตอร์วัดค่าพลังงาน เป็นกลไกการทำงานแบบเดียวกับการทิ้งป้ายเขียนข้อความขอให้แขกใช้ผ้าเช็ดตัวซ้ำเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ในห้องน้ำโรงแรม
นอกจากนี้ เธอยังกล่าวอีกว่าการค้นพบครั้งนี้สามารถปรับใช้กับความพยายามลดการใช้พลังงานในรูปแบบอื่นด้วยก็ได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะกรณีเช่นนี้ซึ่งลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าไฟที่ใช้อยู่แล้ว และเสริมว่าการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องมุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์ทางการเงินเท่านั้น เพราะอาจเป็นการกดดันคนยากจนและอาจส่งผลในทางกลับกัน เพราะคนจำนวนมากอาจบอกว่า “ฉันไม่สน ฉันจ่ายได้”