โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กรณียายเก็บเห็ดศรีสะเกษ แม้ถอนแจ้งความบุกรุก แต่ ตร.ดูหลักฐานอ่อนจึงสั่งไม่ฟ้อง

สยามรัฐ

อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 03.10 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 03.01 น. • สยามรัฐออนไลน์
กรณียายเก็บเห็ดศรีสะเกษ แม้ถอนแจ้งความบุกรุก  แต่ ตร.ดูหลักฐานอ่อนจึงสั่งไม่ฟ้อง

วันที่ 10 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูก นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งความจับกุมดำเนินคดี ว่าทั้ง 3 คน ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยาน หลักฐาน ดำเนินการในขั้นตอนของชั้นสอบสวน ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดี ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 ก.ค.63 ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ และแจ้งว่า ไม่ติดใจที่จะประสงค์ดำเนินคดีกับ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ อีกต่อไป เนื่องจากเข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาตเท่านั้น และไม่มีทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่าใด ๆ ของทางราชการได้รับความเสียหาย ซึ่งนายประธาน ได้พิจารณาว่า บุคคลทั้ง 3 คนไม่มีเจตนาที่จะบุกรุก และเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน นายประธานจึงได้มาขอถอนเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งแล้ว ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี สภ.เมืองศรีสะเกษ ข้อที่ 21 ลงวันที่ 09 ก.ค.2563 เวลา 14.00 น.

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า คดีนี้จากการสอบสวนแม้ นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ผู้กล่าวหาที่ 2 มอบอำนาจให้ น.ส.ฐรัชญ์ เนียมคำ ผู้กล่าวหาที่ 1 ร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกในพื้นที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษและเข้ามาเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาผู้กล่าวหาที่ 2 ได้มาถอนคำร้องทุกข์ไปจากพนักงานสอบสวน ก็ไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป เนื่องจากเป็นการกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) แต่จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ในภาวะปัจจุบันอยู่ในภาวะป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการผ่อนปรนระยะ 5 ประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรและรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ ทำให้เพิ่มความยากลำบากในการประกอบอาชีพ การเก็บเห็ดในป่าบ้านหนองม่วง-หนองสวง ตำบลหนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติมาได้เพียงเล็กน้อย ก็แวะเข้าไปในสถานีเพาะกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ที่เกิดเหตุ ซึ่งสภาพพื้นที่เป็นป่าเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มีต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ต้องหา 3 คนเข้าใจว่าน่าจะมีเห็ดขึ้นอยู่อยากเก็บเห็ดเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทันได้เก็บเห็ดก็มาพบกับผู้กล่าวหาที่ 2ซึ่งสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามถึงสาเหตุที่เข้ามาในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงยืนยันที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสาม กรณีเข้ามาบุกรุกเข้ามาเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ กล่าวด้วยว่า แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันไกล่เกลี่ยแล้วแต่ไม่เป็นผล ผู้กล่าวหาที่ 2 ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้กล่าวหาที่ 1 มาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสาม พิจารณาจากสถานที่เกิดเหตุแล้วพบว่า ไม่มีการ สร้างหรือเผา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน และไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหายจากการกระทำของผู้ต้องหาทั้งสาม อีกทั้งสิ่งของที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาทั้งสามมีเพียงตะกร้าไม้จักสานคนละ 1 ใบ ภายในมีเห็ด(เห็ดขม)ซึ่งนำมาจากที่อื่นเพียงเล็กน้อย และเสียมขนาดเล็กคนละ 1 เล่ม อันเป็นอุปกรณ์เครื่องมือในการประกอบอาชีพในฐานะเกษตรกรเท่านั้น และผู้ต้องหาทั้งสามก็มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอน้ำเกลี้ยง ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางและไม่ทราบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการ เนื่องจากมีสภาพเป็นผืนป่าจำนวน 100 ไร่ แม้ข้อเท็จจริงจะครบองค์ประกอบภายนอก แต่พิจารณาจากพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นเห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 มิได้มีเจตนาอันเป็นองค์ประกอบภายใน อันจะเป็นการกระทำผิดร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดดังกล่าว ทางคดีจึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2)

ล่าสุดนายวุฒิพงษ์ อิสาน ผอ.สนง.ทสจ.ศรีสะเกษได้รายงานผู้บังคับบัญชาว่า ตามที่ปรากฏในหน้าข่าวหลายสำนัก เรื่อง หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ศรีสะเกษ (นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ) แจ้งความดำเนินคดีจับชาวบ้าน 3 คนที่เข้าไปเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต ในเขตสถานีเพาะชำกล้าไม้ ข้อหาบุกรุกและเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ และผู้แทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้พยายามไกล่เกลี่ยขอร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา แต่นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ไม่ยินยอม ได้ทำหนังสือราชการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสาม นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ได้ถอนแจ้งความ ไม่ดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสามแล้วโดยมีหลักฐานแสดงไว้ด้วยว่าถอนแจ้งความแล้วและล่าสุด นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ขอเชิญสื่อมวลชนรับฟังการแถลงข่าวการจับกุมชาวบ้านในวันนี้เวลา 14.00 น.

เพียงฤทัย เกียรติชนนาวี / ศรีสะเกษ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0