โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

กบ สุวนันท์ ภูมิใจ ณดา ล้มแล้วลุก - จากบทเรียนลูกสู่ตัวเอง สอนแม่ให้ก้าวข้าม

Khaosod

อัพเดต 12 ธ.ค. 2561 เวลา 15.47 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2561 เวลา 15.47 น.
h1

กบ สุวนันท์ ภูมิใจ ณดา ล้มแล้วลุก – จากบทเรียนลูกสู่ตัวเอง สอนแม่ให้ก้าวข้าม

วันที่ 12 ธ.ค. ที่ศูนย์การค้าสุพรีม คอมเพล็กซ์ ในงานเปิดตัวแคมเปญ “สก๊อตดีปีใหม่” นักแสดงมากฝีมือกบ สุวนันท์ ปุณณกันต์ มาร่วมงาน พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ได้ไปดู น้องณดา ลูกสาวแข่งกีฬายิมนาสติก แล้วมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน

โดย กบ เผยว่า “สำหรับเราเองเป็นนักกีฬาเก่า ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน เมื่อลูกจะลงแข่งขัน เราเองก็ลุ้นและก็อยากให้เขาทำได้ดีและเต็มที่ที่สุด แต่การที่เขาพลาดในวันจริง เราก็ใจเสียและเสียดาย เพราะอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์ที่ถ้าตกลงมาจะถูกตัดคะแนนเยอะที่สุด เราก็เสียดาย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เขาถนัดที่สุด และทำคะแนนได้ดีที่สุดด้วย 

 แต่ว่าสิ่งที่รู้สึกว่ามันดีสำหรับเขา คือการที่เขาได้รู้จักการล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ต่อ มันทำให้เรารู้สึกว่านี่คือกฎ สำหรับกบคิดว่ามันคือข้อดีของกีฬา ที่เราจะสามารถมาสอนเขาได้ว่าในชีวิตคนทั่วไปล้มแน่นอน ไม่มีใครที่ไม่ล้ม แพ้แน่นอนไม่มีใครที่ไม่แพ้ แต่เวลาแพ้แล้วคุณจะลุกขึ้นมาต่อสู้ และกลับมาทำให้มันดีได้อีกครั้งได้ยังไง คุณจะตกลงมาไม่ว่าจะอุบัติเหตุหรือไม่อุบัติเหตุ การผิดพลั้งบางอย่างในชีวิตมันเกิดขึ้นได้เสมอ

 แม้ว่าเขาจะอายุแค่ 7 ขวบครึ่ง แต่สิ่งนี้จะปลูกฝังเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาต่อไปในอนาคต วันหนึ่งถ้าเขาเรียนหนังสือไม่ดีขึ้นมาตามที่หวัง ถ้าหลายๆ คนเอ็นทรานซ์แล้วไม่ได้ กบว่าการที่เด็กมีพื้นฐานด้านกีฬารู้จักแพ้บ้าง ลุกขึ้นมาสู้บ้าง รู้จักผิดพลั้งบ้าง มันก็ดีสำหรับเขา แต่ตอนนั้นสำหรับแม่นี่ใจแบบ (หัวเราะ) คำถามแรกที่ถามว่าหนูเจ็บมั้ย เขาตอบว่าเจ็บที่สะโพก เพราะว่าก้นกระแทกลงไป เราถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบว่า มือหนูเหงื่อลื่น แล้วเราถามโค้ช โค้ชตอบว่ามือน้องมีแต่เหงื่อ แล้วก็นั่งรอนาน เพราะทีมหนึ่งแข่ง 6 คน เขาแข่งเป็นคนสุดท้าย เขานั่งรอและเหงื่อลื่น เราก็เพลย์ดูกับณดาว่าพลาดตรงไหน และเขาจะมีแข่งอีกทีมกราคม เราก็บอกเขาว่าถ้าพลาดตรงนี้ก็ต้องระวังนิดนึง”

แล้วมีการพูดคุยกันหลังจบการแข่งขันหรือกลับมาคุยที่บ้านอะไรยังไง?
“คุยค่ะ แม่ก็ยังใจเสียอยู่เลย เสียดาย ความรู้สึกคือนี่เป็นอุปกรณ์ที่เขาถนัดที่สุด เราแค่รู้สึกเสียดาย แต่มันก็ฝึกแม่ด้วยอย่างหนึ่งว่าอะไรที่เกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว เราก็หันไปมองข้างหน้า แม้กระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา แม่จะมองไปข้างหลัง รีภาพตกไปตกมาอยู่อย่างนั้น แต่มันก็สอนแม่เหมือนกัน แม่ก็ต้องก้าวข้ามตรงนี้ไปให้ได้ แล้วก็เดินไปข้างหน้ากับเขาให้ได้”

ลูกดูมีเลือดนักสู้ขึ้นเยอะเลยไหม?
“เราเคยเห็นเพื่อนเขาในการแข่งขัน เคยตกมาแล้ว สิ่งที่รู้สึกคือโหหนูเก่งจังเลยที่หนูลุกขึ้นมาได้ เรารู้สึกว่านักกีฬา พอไปถึงจุดๆ นั้น เขาก็ลุกขึ้นมาเองกันทุกคน ก็ภูมิใจในจุดนี้ของเขาเหมือนกัน”

ถามเรื่องละครกันบ้าง มีแพลนที่จะกลับไปเล่นละครช่อง 7 บ้างไหม?
“ช่อง 7 ยังไม่มีการพูดคุย แต่ช่องอื่นพูดคุยแล้ว มีการพูดคุยกันหลายๆ ช่องหลายๆ ค่าย อาจจะเป็นเพราะว่าละครเรื่องล่าสุดมาเล่นกับช่องวัน และเปิดตัวว่ารับละครในช่องอื่นๆ บ้าง ก็จะมีหลายๆ ค่ายหลายๆ ช่องติดต่อมา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอบทที่พอดีกับเรา”

ก่อนหน้านี้ช่อง 7 ได้มีการทาบทามให้กลับมาเล่นอีกครั้งแล้ว?
“มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ทางดาราวีดีโอ ว่าอยู่ในช่วงที่กำลังหาเรื่องให้อยู่”

แต่ยังไม่มีการพูดคุยว่าจะเล่นเรื่องนี้?
“ยังค่ะ รายชื่อเรื่องที่ออกมายังไม่มีชื่อกบค่ะ”

ถ้าอะไรลงตัว ก็พร้อมรับใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ พร้อมรับ สำหรับเราช่อง 7 คือบ้าน แล้วก็เป็นบ้านที่รัก เป็นบ้านที่เราอยู่มานานมาก แล้วเราพร้อมที่จะทำงานให้กับช่อง 7 ก่อนที่อื่นอยู่เสมอ แต่ด้วยจังหวะ โอกาสในช่วงระยะเวลา ถ้ายังไม่มีโอกาสที่ได้ร่วมงานกัน ถ้านานเราก็เปิดรับโอกาสกับทางช่องอื่นบ้าง ส่วนกับทางโมโนอีกแป๊ปหนึ่งละครจะออกแล้ว ละครของพี่บรู๊ค(ดนุพร) ไปรับเชิญไว้ตอนเดียว แต่เกือบๆ ปีแล้ว ถ่ายนานมากแล้วคงใกล้จะได้เห็นกันแล้วในช่องโมโน แต่เป็นรับเชิญเฉยๆ ค่ะ”

อย่างช่อง 7 จะทราบผลเมื่อไหร่ว่าเราจะรับหรือเปล่า?
“แค่พูดคุยในเบื้องต้น ยังไม่มีละครหรือว่าเรื่องอื่นมาให้อ่าน ยังไม่มีเรื่องยื่นมาเสนอก็เลยรอ ยังรออยู่ค่ะ”

บทที่จะกลับมารับเล่นจะต้องแตกต่างอย่างไร?
“สำหรับกบ ก่อนหน้านี้จะเป็น น้ำเซาะทราย ซึ่งก็ร้องไห้ค่อนข้างหนักเป็นชีวิต มา บาปรัก นี่ก็ร้องไห้รุนแรงมาก ค่อนข้างจะดราม่าเยอะ ณ ตอนนี้กบได้มีโอกาสเจอพี่ป้อน(นิพนธ์) ในงานศพคุณพ่อพี่อ้อม(พิยดา) พ่อเปี๊ยก(พิศาล) เจอพี่ป้อนก็บอกว่าเรื่องหน้าไม่ร้องไห้แล้วนะ ขอยิ้มทั้งเรื่องแบบคนบ้าเลยก็ได้ (หัวเราะ) คือรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ใช้พลังงานเยอะ ถ้าถามเราในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง เรารู้สึกว่าการที่เล่นเรื่องเดิมซ้ำๆ มันจะต้องร้องไห้เพิ่มขึ้นๆ ซึ่งรู้สึกว่าถ้าเราร้องน้อยคนจะรู้สึกว่ามันได้แค่นี้เหรอ เราอยากจะเปลี่ยนภาพของดราม่าไปบ้าง และเวลาเราทำงานดราม่าร้องไห้ บางทีเราเหนื่อยมาก รู้สึกหน้าไม่ยิ้มเลยทั้งเรื่อง ออกไปข้างนอกกองมันก็ไม่สามารถยิ้มได้ มันเป็นวังวนของคาแร็กเตอร์นั้น อย่างที่บอกถ้ามีคอมเมดี้สนใจติดต่อมีแววรับก่อนเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าอยากอยู่ในกองถ่ายแล้วสนุกบ้าง”

พี่ป้อง-ณวัฒน์ ก็ลงรูปว่าอยากร่วมงานด้วย?
“ก็ได้มีโอกาสเจอกันในงานศพคุณพ่อของพี่อ้อม ก็ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันก็จะดีใจมากเหมือนกัน เพราะพระเอกที่จะมาคู่กับเราหายาก (หัวเราะ) และที่สำคัญคือ ป้องก็เป็นคนที่มีฝีมือ แล้วก็เป็นคนที่ไม่เคยร่วมงานด้วยเลยในชีวิต เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันก็ดีใจ ดีใจกับทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงานกันอยู่แล้ว เราโอเคทำงานด้วยกันได้ แต่ขอยิ้มเป็นบ้าไปเลย (หัวเราะ) เหนื่อยมาก”

อย่างปี 2562 จะรับมากกว่า 1 เรื่องไหม?
“ยังบอกไม่ได้ค่ะ จากการทำงานครั้งที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้มีโอกาสได้อยู่กับลูกเยอะ ตอนนี้ใครถามก็จะตอบว่าขอกลับไปดูไปใช้ชีวิตอยู่กับเขานิดนึง เพราะเราเป็นคุณแม่ แล้วก็มีหน้าที่ในด้านของการเป็นคุณแม่ที่ต้องทำอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะเป็น 1 เรื่องหรือ 2 เรื่อ แล้วแต่จังหวะ โอกาส แต่ว่าการที่ได้มีโอกาสได้กลับมาทำงานถือว่าเป็นความสุขมากๆ อย่างหนึ่งของเรา เพราะว่ามันได้ออกไปจากรูทีนเดิมของชีวิตที่แบบเลี้ยงลูก ส่งลูก กลับมาออกกำลังกาย รับลูกตอนเย็นไปเรียนพิเศษ แล้ววนอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ บางทีเราก็รู้สึกว่าอยู่ในวังวนนี้เยอะมาก มาทำงานมาเจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็สนุกดี”

ขอบคุณภาพจากไอจีkob_nada_nadol

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0