จากที่เริ่มคลายกังวลว่า การแพร่ระบาดระลอกที่ 1 ของไทยน่าจะหมดไปแล้ว หลังไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันเป็นวันที่ 49 แต่ หลังจากที่ ศบค. แถลงวันนี้ว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อ 3 ราย เป็นผู้ที่มาอยู่ใน state quarantine ของไทยทั้งหมด โดย 1 ใน 3คนนั้น มีประวัติเดินทางไปห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ ระหว่างกักตัวที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง จากนั้นเมืองระยองก็ป่วน เพราะผู้คนเกิดความตระหนก เนื่องจากไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รู้เลยว่า โรงแรมไหน ห้างไหน และเวลาไหน
ด่วน! 2 ราย หลุดกักกันตัว เดินห้าง พักคอนโดฯ 'กรุงเทพฯ - ระยอง' พื้นที่เสี่ยงโควิด-19
ผู้ป่วยรายนี้เป็นเพศชาย อายุ 43 ปี หนึ่งในคณะทหาร ซึ่งเป็นลูกเรือเครื่องบินทหาร มีประวัติไปหลายประเทศ ก่อนเดินทางมายังประเทศไทย เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่กักตัวในจังหวัดระยอง แต่ในระหว่างที่กักตัวนั้น ยังมีประวัติเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ จังหวัดระยอง
วันที่ 6 กรกฏาคม ชายคนนี้เดินทางออกจากสนามบินประเทศอียิปต์ ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
วันที่ 7 กรกฎาคม เดินทางต่อไปที่ประเทศปากีสถาน
วันที่ 8 กรกฏาคม เดินทางเข้าประเทศไทยที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดระยอง
วันที่ 9 กรกฏาคม คณะทหารได้เดินทางระยองไปปฏิบัติภารกิจทางการทหาร ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน และกลับมาประเทศไทยในวันเดียวกัน และเข้าพักที่โรงแรมเดิม
วันที่ 10 กรกฏาคม ทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ได้เข้าคัดกรองอาการ และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ
วันที่ 11 กรกฏาคม พบว่าผลตรวจที่ออกมายังไม่ชัดเจน จึงนำเชื้อไปตรวจซ้ำอีกครั้ง
วันที่ 12 กรกฏาคม ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรน่า แต่ชายคนนี้ก็ได้เดินทางกลับไปประเทศอียิปต์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคม แต่ปัญหาอยู่ที่ ลูกเรือชาวอียิปตคนนี้์ ไม่ได้อยู่แค่ในสถานที่กักตัว แต่ได้ออกนอกโรงแรมไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยองด้วย นี่คือความเสี่ยงที่การระบาดในรอบที่ 2 อาจกลับมา
เปิดไทม์ไลน์ ทหารอียิปต์ติด โควิด-19 พบพักโรงแรม-เดินห้างในจ.ระยอง
ทั้งนี้แม้ในการแถลงข่าว นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. จะระบุว่า ทีมสอบสวนโรค จะเร่งเข้าไปตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดและสอบสวนโรค ทั้งโรงแรมที่ผู้ป่วยเข้าพัก และห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ลูกเรือคนนี้ไป แต่ที่ทำให้คนไทยรู้สึกไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวระยอง ก็คือการที่ สบค.ไม่เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รู้ว่า พื้นที่เสี่ยงจริง ๆ แล้ว คือ จุดไหน โรงแรมอะไร หรือ ห้างสรรพสินค้าใด เพื่อที่ประชาชนจะได้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
นอกจากนี้ มีคนพยายามโทรไปที่สายด่วน 1422 ของสบค. แต่ก็ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่สามารถเปิดเผยชื่อสถานที่ได้เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง จึงมีคำถามจากประชาชนว่า ทำไมจึงมีการปกปิดข้อมูลเช่นนี้ ทั้งที่สบค.เรียกร้องให้คนไทยสแกน “ไทยชนะ” เพื่อที่ว่าหากมีการแพร่ระบาดก็จะได้มีการตามตัวหรือเตือนกลุ่มเสี่ยงได้ทันท่วงท แล้วเหตุการทื่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะอธิบายได้อย่างไร
เที่ยวบินเด็ก 9 ขวบคณะทูต ติดโควิด 12 คน สแกนที่พัก เช็กวงจรปิด ครอบครัวยังไม่ติด
ด่วน! สั่งปิด 10 สถานศึกษาระยอง พบลูกแม่บ้านโรงแรม 'ทหารอียิปต์' พักไปเรียน
ล่าสุด นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ออกมาเปิดเผยว่า ทางจังหวัดระยอง ได้ให้ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่สอบสวนบุคคลที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิด รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทั้งโรงแรม และในส่วนของห้างสรรพสินค้า คาดว่าวัน 2 วันนี้น่าจะชัดเจนว่าผู้ติดเชื้อ ไปที่ไหนมาบ้าง เบื้องต้นขณะนี้ได้มีการสั่งปิดห้องพัก และพื้นที่ชั้นบนสุด 2 ชั้น ที่กลุ่มทหารอียิปต์เข้าพัก และสั่งกักตัวพนักงานโรงแรม ให้บริการอย่างใกล้ชิด เช่นพนักงานที่ขึ้นไปเสิร์ฟอาหารบนห้องพักของกลุ่มทหารอียิปต์แล้ว
แม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อสถานที่อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการเผยแพร่เอกสาร กำหนดการมาเยือนไทยของคณะทหารอียิปต์ ว่ามาพักที่โรงแรมบนถนนสุขุมวิทใจกลางเมืองระยอง ซึ่งก็คือโรงแรมดีวารี และโรงแรมนี้ก็อยู่ใกล้กับห้าง Passione Shopping Destination หรือห้างแหลมทองเดิม
เผย 'ทหารอียิปต์-คณะทูต' อยู่ใน 11 กลุ่มยกเว้น ย้อนดูมาตรการคุม ก่อนหลุด!
โรงแรมและห้างดัง ระยองแจงมาตรการป้องกันโควิดเข้มข้น
ทางด้าน แฟนเพจเฟซบุ๊ก Passione Shopping Destination โพสต์ข้อความระบุว่าโรงแรม Holiday Inn & Suites Rayong City Centre ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับลูกเรือ, ทหารทีมที่เป็นข่าว และขอยืนยันว่าทางโรงแรม ไม่มีนโยบายรับลูกเรือ และ ชาวต่างชาติที่ไม่ผ่าน State Quarantine กักตัวไม่ถึง 14 วันเข้าพัก และที่โรงแรมไม่ใช่ State Quarantine ของทางภาครัฐบาล
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้งเดสติเนชั่น ยังคงดำเนินมาตรการฉีด พ่น ฆ่าเชื้อ ทั้งศูนย์ฯ ร้านค้า, ร้านอาหาร ทุกวันศุกร์อย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการคัดกรอง และการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
กรมควบคุมโรค เร่งค้นหาผู้สัมผัส “ทหารอียิปต์” ติด โควิด-19
โลกโซเชียลเรียกร้องผบ.ทบ.รับผิดชอบ ทหารอียิปต์แพร่เชื้อ
ขณะที่โลกโซเชียลตั้งคำถามกันอย่างถล่มทลาย และเรียกร้องความรับผิดชอบ จาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เนื่อจาก ทหารสัญชาติอียิปตทีติดโควิด -19 เดินทางเข้าประเทศไทย ในฐานะ เป็นหนึ่งใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ ที่ก่อนหน้านี้ ผบทบ.ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดบุคคลและคณะวีไอพีจากต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน
ล่าสุด ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ก็ได้ออกมา ชี้แจงขั้นตอนคัดกรองโรคในคณะ ทหารอียิปต์ ว่า ได้ทำตามคัดกรองตามขั้นตอน สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภาต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ศบค.กำหนด โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของศบค.
โดยอู่ตะเภาจะมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงาน ที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาปฏิบัติงาน ร่วมกับทาง ตม.ทำการคัดกรองโรคหรือสอบสวนโรค PUI หากไม่พบผู้ต้องสงสัย หรือไม่มีผู้ใดพฤติการณ์ที่เสี่ยงต่อการติดต่อของโรค หรือไม่พบภาวะผิดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลง และส่งต่อไปเข้าที่พัก ส่วนที่รับผิดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อรอการประเมินการคัดกรองทาง State Quarantine ก็จะรับไป
อย่างไรก็ตามทราบว่าคณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่ามีเพียงหนึ่งคนในคณะนั้นที่หนีออกมาข้างนอกระหว่างที่เข้าพัก แต่ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ตรวจสอบกับทางศบค.อีกครั้ง
เมื่อถามว่า คาดว่าคนที่หนีออกมาคือคนที่ตรวจพบเชื้อหรือไม่ พล.ร.ท.กฤชพล กล่าวว่า ตนไม่ทราบ คงต้องถามรายละเอียดจากทางศบค.ทั้งหมด ทั้งนี้ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจสนามบินไม่พบความผิดปกติ ซึ่งการตรวจสอบก็ทำด้านนอกเทอร์มินอล ไม่ได้เข้ามาปะปนกับในอาคารผู้โดยสาร เพราะเป็นลักษณะของ State aircraft มีการแจ้งเข้า-ออก ในประเทศล่วงหน้าและต้องรับอนุญาตในเรื่องแผนการบิน และตารางการอยู่ในประเทศ ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วที่ประเทศต้นทางจะต้องประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นขั้นตอนทางการทูต หรือ diplomatic clearance ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่มีอำนาจในการตรวจสอบตามมาตรการที่กำหนดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
กทม.ยังมึน ไม่มีข้อมูล คณะทูตหลุดกักกันพักคอนโดกลางกรุง โบ้ย 'ศบค.'
เด็กหญิง 9 ขวบในคณะฑูตติดเชื้อโควิด-19
ส่วนอีกกรณีหนึ่ง ก็เป็นเรื่องใหญ่พอกัน เพราะเป็นกลุ่มบุคคลและคณะวีไอพีจากต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เช่นกันเมื่อเด็กหญิง 9 ขวบ เดินทางจากภูมิภาคแอฟริกามาพร้อมครอบครัว ซึ่งเป็นคณะทูต ตรวจพบติดเชื้อโควิด และนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่สมาชิกครอบครัวที่เหลือ กลับไปพักที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
โดยครอบครัวนี้ เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม มารดานำทั้งครอบครัวไปตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางผลไม่พบเชื้อ เดินทางมาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 10 กรกฏาคม เข้าคัดกรอง พบทุกคนไม่มีอาการ จากนั้้นจึงนำเชื้อส่งตรวจ จึงพบว่าเด็กหญิง 9 ขวบคนนี้ มีผลติดเชื้อโควิดดังกล่าว ซึ่งทาง ศบค.วันนี้ก็ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดว่า ครอบครัวนี้ นอกจากจะไปพักคอนโดฯ แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครแล้ว ได้มีการเดินทางไปที่ไหนหรือไม่
