เมื่อวันที่ (22 ม.ค. 62) กรมควบคุมมลพิษ รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 22 มกราคม โดยอ้างอิงจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า อากาศลอยตัวไม่ดี มีสภาพอากาศปิด ลมสงบ ความเร็วลมส่วนใหญ่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีฝน ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเวลา 7 นาฬิกา วันนี้ สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยบริเวณพื้นที่ริมถนน คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานอยู่ในโซนสีแดง คือ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” 7 สถานี ได้แก่
1.ริมถนนพระราม 3 – เจริญกรุง เขตบางคอแหลม วัดค่าได้ 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์
2.ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3.ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4.ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5.ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
6.ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
7.ริมทางคู่ขนานถนนพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนพื้นที่ริมถนนที่มีสถานีตรวจวัดที่เหลืออีก 18 สถานีพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนสถานีตรวจวัดในพื้นที่ทั่วไปที่อยู่ห่างจากถนน 16 สถานี คุณภาพอากาศอยู่ในโซนสีส้ม คือ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”
ขณะที่สถานีตรวจวัดของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศริมถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 9 นาฬิกาวันนี้ พบพื้นที่ริมถนนที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในโซนสีแดง คือ มีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 จุด ได้แก่
1.ริมถนนบริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก เขตบางคอแหลม
2.ริมถนนหน้ามหาวิทยาลัยสยาม ซ.เพชรเกษม 36 เขตภาษีเจริญ
3.ริมถนน สำนักงานเขตบางขุนเทียน
4.ริมถนนบริเวณสนามหลวง เขตพระนคร
5.ริมถนนบริเวณป้ายรถเมล์ แยกมไหศวรรย์
6.ริมถนน สำนักงานเขตบางพลัด
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ จากการพยากรณ์อากาศ และแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา การลอยตัวของอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อย ลมพัดแรงขึ้น อาจทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสเจือจางลงได้บ้าง แต่ค่าฝุ่นก็ยังคงอยู่ในโซนสีส้ม คือ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”