โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

 อาต๋อย ไตรภพ เปิดเรื่องจริงสู่การเป็นพิธีกรระดับแนวหน้า เผยไม่เคยรักการเป็นพิธีกร!?

daradaily

อัพเดต 17 ก.พ. 2563 เวลา 11.44 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 14.30 น.

"อาต๋อย ไตรภพ" เปิดเรื่องจริงสู่การเป็นพิธีกรระดับแนวหน้า เผยไม่เคยรักการเป็นพิธีกร!?

           เป็นอีกหนึ่งพิธีกรระดับมืออาชีพของเมืองไทย “อาต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะมาถึงจุดๆ นี้น้อยคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า “อาต๋อย” เคยทำอาชีพทนายมาก่อนแถมยังบอกอีกว่าไม่เคยชอบหรือรักงานพิธีกรเลย ล่าสุดวันนี้ DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่พร้อมพาไปเปิดใจเรื่องจริงจากปาก โดยเผยผ่านรายการว่า

 

ก่อนมาเป็นพิธีกรเคยเป็นทนายมาก่อน

เป็นทนายมาก่อนที่จะมาเป็นพิธีกร พี่ต้นก็มาชวนให้เป็นพิธีกรตอนแรกก็ไม่ทำหรอกเพราะเป็นทนายความอยู่ดีๆ จะให้ไปเป็นพิธีกร กลับไปบ้านก็ไปเล่าให้ภรรยาฟัง ถามภรรยาว่า ตลกไหม ภรรยาก็ตอบว่า อันนี้เหมือนราชรถมาเกยแล้วการปฏิเสธอ่ะ ถือว่าเป็นตลก แต่เราก็ปฏิเสธไป จากนั้นพี่ต้นก็ติดต่อมาอีก ผมก็เลยโอเค

นอนน้อยสุดในชีวิต คือ 1 ชั่วโมงต่อวัน

คือในช่วงแรกที่ทำงานต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองก็ไม่ได้จบนิเทศฯ มาเราก็เลยต้องทำหนักกว่าคนอื่น 2 เท่า เพราะต้องคุมเรื่องตัดต่อเองด้วยซึ่งยากกว่าสมัยนี้มาก บางที 3 วัน 2 คืน ที่เราอยู่ในห้องนั้น มันเป็นนิสัยเรามากกว่าที่ทำอะไรแล้ว ‘ไม่รู้ไม่ได้’ แต่เรื่องการนอน 1 ชั่วโมงก็อาทิตย์หนึ่ง มีบ้างหนสองหน แต่เดี๋ยวนี้ก็นอนมากกว่าเดิมแล้ว 4 ชั่วโมง

 

ดูแลครอบครัวยังไงบ้าง

ตอนแต่งงานผมถามภรรยาว่าต้องการชีวิตแบบไหน บ้านหลังเล็กๆ มีสวนหรือบ้านหลังโตมีรถหลายคัน เขาตอบอย่างที่ 2 ผมก็ทำแบบนั้นจนตอนนี้ผมมีทุกอย่าง จนวันหนึ่งเขาบอกว่าให้เลิกทำมีครบแล้วให้มีเวลามาอยู่กับครอบครัว ‘แต่ผมเลิกไม่ได้เพราะผมมีคนที่ต้องดูแลกว่า 50 คน เราทิ้งเขาไม่ได้แต่จะพยายามหาเวลาที่ว่างจากงานเพื่อมาอยู่กับเธอ’

ตั้งแต่ทำงานมาเคยผิดพลาดบ้างไหม

ครั้งแรกที่ถ่ายรายการผมตื่นเต้นมาก “อะไรก็ตามในโลกใบนี้ถ้าการยอมรับความจริงเกิดขึ้นมันจะเป็นประโยชน์กับท่าน” อย่างผมเป็นคนยอมรับความจริงและปล่อยมันออกไป และมีคนๆ หนึ่งเคยบอกกับผมว่า “คุณไตรภพ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมเป็นกำลังใจให้คุณไตรภพอยู่ตรงนี้” ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยตื่นเต้นอีกเลย

 

ไม่ชอบงานพิธีกร แต่รักในสิ่งที่ทำ

คือคนจะพูดว่าต้องทำในสิ่งที่รัก ผมบอกเลยว่า ไม่ใช่ จงทำในสิ่งที่ทำแล้วต้องรู้จักหน้าที่เพราะผมไม่เคยบอกว่ารักงานพิธีกรหรือดีใจว่าได้เป็นพิธีกรไม่รู้สึกกับมันเลย ผมมองว่า ‘ถ้าคุณไม่รู้จักหน้าที่ต่อให้คุณรักแทบตายก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับคุณ’ ผมสอนคนแบบนี้

 

“อาต๋อย” นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีมากๆ ทั้งในเรื่องการทำงานและมุมมองการใช้ชีวิต ทำให้ได้แง่คิดที่ดีมากมายที่สำคัญที่สุด คือเรื่องของการทำงาน หลายๆ คนอาจจะมองว่าการทำงานในสิ่งที่รักอาจจะไม่สำคัญเท่าการรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และนี่ก็เป็นแค่บางส่วนในรายการเท่านั้น ยังมีประเด็นเรื่องราวชีวิตความรักของ อาต๋อย ที่เคยรู้สึกผิดต่อภรรยามากๆ แถมเคยดื่มหนักจนตื่นมาจำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนเรื่องราวจะเป็นยังไงรับชมต่อในรายการ

 VIDEO สัมภาษณ์จัดเต็ม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0