โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“Jamie Oliver Kitchen” อาหารโฮมเมดรสดี สไตล์เชฟเจมี่ โอลิเวอร์

Manager Online

เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 05.10 น. • MGR Online

Youtube :Travel MGR

ถ้าเอ่ยชื่อเซเลบริตี้เชฟชาวอังกฤษชื่อดังนามว่า “เจมี่ โอลิเวอร์” ขึ้นมา เชื่อว่าแฟนๆ มิตรรักนักกินทั้งหลายที่ติดตามวงการอาหารมานาน และชื่นชอบดูรายการการทำอาหารน่าจะรู้จักเชฟคนนี้กันเป็นแน่ และด้วยชื่อเสียงในวงการอาหารมานานกว่า 20 ปี เชฟเจมี่ได้มาเปิดร้านอาหารที่เมืองไทย เพื่อให้เหล่านักกินชาวไทยได้ลิ้มลองอาหารฝีมือของเขา

โดยร้านอาหารมีชื่อว่า “Jamie Oliver Kitchen” (เจมี่ โอลิเวอร์ คิทเช่น) ตั้งอยู่ที่ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่ ที่เมื่อมาถึงร้านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามมีสไตล์ ดูโปร่งโล่งสบายตา และแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะนั่งหลากหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ อีกทั้งยังมีห้องส่วนตัวที่สวยงามให้บริการ 1 ห้อง ซึ่งสามารถจัดเลี้ยงได้

สำหรับอาหารทางร้านได้นำเอาประสบการณ์การปรุงอาหารจากทั่วทุกมุมโลกของเชฟเจมี่ โอลิเวอร์ มารังสรรค์เป็นเมนูใหม่พิเศษ มีคอนเซ็ปต์ว่า New Concept Food ปรุงแต่งสไตล์โฮมเมด คัดสรรแต่วัตถุดิบพรีเมียมที่มีคุณภาพ เพื่อมานำสร้างสรรค์เป็นอาหารจานใหม่ที่ชวนลิ้มลองมากมาย มีทั้งเมนูคาว หวาน และเครื่องดื่มที่ครบครัน

อย่างในมื้อนี้ขอเลือกเมนูจานเด่นที่ถ้ามาถึงร้านแล้ว แนะนำให้มาลิ้มลองกันให้ได้ก็มี Seafood & Noodle Salad (390 บาท++) เป็นเมนูสลัดที่มีผักอย่างแตงกวาญี่ปุ่นกับแครอทหั่นเป็นเส้นยาวๆ คลุกเคล้ากับเส้นโซบะลวกสุกราดด้วยน้ำสลัดงามะนาว แล้วมีซีฟู้ดหมึกยักษ์ กุ้ง แซลมอน ทำเป็นบาร์บีคิวเสียบไม้กริลล์มาร้อนๆ กินเส้นโซบะเข้ากันดีกับผักต่างๆ ได้รสชาติน้ำสลัดหอมกลิ่นน้ำมันงาและออกรสเปรี้ยวนำ กินเคียงกับบาร์บีคัวซีฟู้ดสดหวานลงตัวเข้ากันดีจริง

เมนูต่อมาชวนชิม Chicken Skewers (210 บาท++) เป็นเนื้อไก่ส่วนน่องกับส่วนเนื้ออก นำมาหมักกับเครื่องเทศตะวันออกกลาง หมักนานข้ามคืนแล้วนำมาย่าง เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มถั่วบดสไตล์เจมี่ผสมเครื่องเทศ ชิมไก่ย่างหอมกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ เนื้อนุ่ม จิ้มกินกับน้ำจิ้มถั่วรสชาติกลมกล่อมถูกปากโดนใจ

ถัดมาชวนลองลิ้ม Wagyu Steak (690 บาท++) ทางร้านคัดสรรเนื้อวากิวลูกครึ่งออสเตรเลีย เลือกใช่ส่วนริบอาย ปรุงรสตามสูตรกริลล์มาร้อนๆ ราดด้วยน้ำซอสสูตรเด็ดเฉพาะ แล้วมีกระดูกไขสันหลังส่วนกลางหั่นครึ่ง ตักเนื้อออกมาผสมกับเครื่องเทศและเกล็ดขนมปังแล้วเอาไปทอด เคียงมาด้วยสลัดผัก และเฟรนช์ฟราย แล่ชื้อเนื้อวากิวส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากได้รสชาติน้ำซอสรสดีเยี่ยม ใครชอบกินเนื้อแนะนำเลยเมมนูนี้

แล้วขอแนะนำ Tom Yum Pizza (340 บาท++) เป็นพิซซ่าสไตล์เฉพาะขอทางร้านที่มีรูปทรงไม่เหมือนร้านอื่น ตรงที่เป็นพิซซ่าทรงรี แป้งพิซซ่าทางร้านทำเองตามสูตรเฉพาะ โดดเด่นด้วยซอสต้มยำที่ทำเองเป็นซอสสีเขียว เพราะใส่พริกเขียวและผักใบเขียวเป็นส่วนผสม ใส่กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ หอยลาย โรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีส และเห็ดเข็มทองชุบแป้งทอด กินพิซซ่าแป้งหนานุ่มกำลังดี ได้รสชาติซอสต้มยำเข้มข้นถึงเครื่องต้มยำไทย กินเข้ากันดีกับซีฟู้ดชิ้นใหญ่โดนยิ่งนัก

จากนั้นชวนมากิน Steamed Broccoli (80 บาท++) เป็นบล็อกโคลีสดนำมาต้มแล้วเบิร์นด้วยไฟ คลุกกับซอสมิโซะมาโย โรยหน้าด้วยอัลมอนด์ ลิ้มรสแล้วถูกปากโดนใจตรงที่บล็อกโคลีสดหวานกรอบ ชุ่มน้ำซอสมิโซะมาโยรสเด็ด

อีกหนึ่งเมนูที่ขอแนะนำ คือ Spiced Carrots (80 บาท++) ทางร้านคัดสรรเบบี้แครอทสามสี นำไปอบก่อนแล้วจึงนำมากริลล์ให้สุกอีกที มาพร้อมกับซอสโยเกิร์ตกับใบมินต์ผสมกัน โรยด้วยทับทิม และงาดำที่คลุกกับเครื่องเทศ กินแครอทเคี้ยวกรุบกรอบ กินเข้ากันดีกับซอสโยเกิร์ตรสกลมกล่อมลิ้น

กินเมนูคาวไปหลายอย่างแล้ว มากินของหวานล้างปากกันบ้าง นำเสนอ Banoffee Ice Cream Sundae (240 บาท++) มาในถ้วยซันเดย์สูงใหญ่ มีไอศกรีมรส Vanilla & Salted Caramel กล้วยหอม คาราเมล กล้วยฉาบ ราดด้วยซอสท็อฟฟี่ กินไอศกรีมหวานเย็นชื่นใจหอมกลิ่นวานิลลา ได้รสคาราเมลเข้มข้นหวานหอมมันปาก กินคู่กับกล้วยเข้ากันลงตัว

Snickersphere (260 บาท++) อีกหนึ่งของหวานที่ชวนลองลิ้ม เป็นโดมช็อกโกแลต ที่ด้านในมีเนยถั่ว คาราเมลและช็อกโกแลต เสิร์ฟมากับไอศกรีมรส peanut praline & salted caramel ลิ้มรสแล้วโดนใจปากตรงที่ช็อกโกแลตเข้มข้นหวานหอมเนยถั่วและคาราเมล กินเข้ากันกับไอศกรีมหอมหวานเย็นชื่นใจ

แล้วยังมีเครื่องดื่มที่ชวนดื่มด้วย แนะนำ Green (185 บาท++) เครื่องดื่มสีเขียว มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลเขียว ผักคะน้า มะม่วงน้ำดอกไม้ กล้วย น้ำมะพร้าว ใส่นำแข็งแล้วทุกอย่างปั่นรวมกัน ตกแต่งด้วยใบคะน้าและชิ้นมะม่วง ดื่มแล้วรสกลมกล่อมสดชื่นดีจริง

อีกแก้วที่ชวนดื่ม คือ Watermelon & Strawberry Frappe (160 บาท++) สีแดงสดใส มีส่วนผสมของน้ำแตงโมสดกับสตรอเบอร์รี่ ใส่นำแข็งปั่นรวมกัน ดื่มแล้วหวานหอมกลิ่นสตรอเบอร์รี่เย็นชื่นใจ

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เมนูเด็ดที่แนะนำมาเพียงเท่านี้ เพราะในรายการอาหารยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีก อาทิ Salmon Fishcakes (240 บาท++) Soft-Shell Crab Burger (420 บาท++) Beef-Short-Rib (620 บาท++) Lobster & Seafood Pasta (680 บาท++) และอีกหลากหลายเมนูจานเด็ดจานใหม่ ที่ถ้าใครอยากลองลิ้ม แนะนำให้มาอิ่มท้องกันได้ที่ร้าน “Jamie Oliver Kitchen” แห่งนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“Jamie Oliver Kitchen” (เจมี่ โอลิเวอร์ คิทเช่น) ตั้งอยู่ที่ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. เปิดจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 11.00 - 21.30 น. ศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 22.00 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะล่วงหน้า โทร. 06-5969-9091 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jamieoliverkitchen-th.com, Facebook and Instagram: @jamieoliverkitchenbangkok

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0