ออมหุ้นสัปดาห์นี้ขอหยิบหุ้นพี่ใหญ่ในกลุ่มพลังงานอย่าง PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มาทดลองทำ DCA หลังช่วงที่ผ่านมา PTT ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น และข่าวการร่วมทุนในธุรกิจจัดหาและจำหน่าย LNGกับ BGRIMทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องและกลับมาอยู่ในเรดาห์ของนักลงทุนอีกครั้ง ดังนั้นมาดูกันว่าถ้าใช้เงินซื้อหุ้น PTT เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร
จากข้อมูลของ SETSMARTพบว่า หาก DCA หุ้น PTT ปัจจุบันจะมีหุ้นทั้งหมด 8,284 หุ้น โดยมีต้นทุนเฉลี่ยหุ้นละ 39.72บาท มูลค่าพอร์ตปัจจุบันจะอยู่ที่ 306,508บาท ขาดทุน 22,534.00 บาท หรือลดลง 6.85% และได้รับเงินปันผล 37,227.82 บาท
นักวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวสำหรับการร่วมลงทุนระหว่าง PTT และ BGRIMเพราะถือเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและต่อยอดทางธุรกิจ LNG ของทั้ง 2 บริษัทในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ของ PTTในการมุ่งสู่พลังงานอนาคต (Future Energy) และเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจกับคู่ค้าที่มีศักยภาพ โดยการร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ BGRIM และ PTT ใน BGP LNG JV อยู่ที่ 50% ต่อ 50% โดยยังคงมูลค่าพื้นฐานปี 2564 ของ BGRIM และ PTT อยู่ที่ 52.0 บาท และ 48.5 บาท ตามลำดับ ด้านปัจจัยพื้นฐานยังเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว จึง แนะนำให้หาจังหวะทยอยซื้อสะสม
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 นักวิเคราะห์จากบล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า ผลประกอบการอาจอ่อนตัวจาก Low season ของธุรกิจ และการรับรู้กำไรจากบริษัทในกลุ่มที่ลดลง แม้บริษัทจะรับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่5 และท่อส่งก๊าซฯ (ราชบุรี-วังน้อย) ที่เริ่มดำเนินการในไตรมาส 3/64 อย่างไรก็ตาม ฐานทางการเงินยังแข็งแกร่ง เพียงพอรองรับแผนขยายการลงทุน โดยปี 2564-2568บริษัทวางแผนลงทุน 8.65 แสนล้านบาท ซึ่ง 80% ของงบลงทุนจะอยู่ในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายประมาณ ส่วนงบลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในธุรกิจหลักของ PTT และธุรกิจผลิตไฟฟ้า
ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard น่าสนใจลงทุน ปัจจุบัน PTT ซื้อขายเพียง 1xPBV ยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวของผล ประกอบการในปี 2564-2565 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 133% และ 11% ตามลำดับ หลังปี 2563 ผลประกอบการหดตัวกว่า 59%ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside มากพอ สำหรับการลงทุนในระยะยาว จึงยังแนะนำ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 48 บาท
