“สโนว์มาเกดดอน”หายนะหิมะถล่มอเมริกาเหนือ

สถานการณ์แห่งสภาพอากาศของโลกเรา ณ ชั่วโมงนี้ ต้องบอกว่า เผชิญกับ “ภาวะแปรปรวน” ที่แตกต่างกันไปแต่ละภูมิภาค

อย่าง “ออสเตรเลีย” แดนจิงโจ้ ก็ผจญกับปรากฏการณ์ “คลื่นอากาศร้อน” ครั้งใหญ่ จนก่อให้เกิด “ไฟป่า” ครั้งประวัติศาสตร์ เผาผลาญสรรพสิ่งต่างๆ อย่างน่าสะพรึง โดยมีรายงานว่า ไฟป่าเผาวอดกินเนื้อที่ไปแล้วถึง46 ล้านเอเคอร์ หรือคิดเป็น116.38 ล้านไร่ ถูกยกให้เป็นวิกฤติ ที่จนถึง ณ วินาที สถานการณ์ก็ยังคงน่าห่วง

หรืออย่าง ไทยเราในเวลานี้ ก็ประสบกับภัยแล้ง น้ำแห้งขอด ในหลายพื้นที่ จนชาวประชาต่างพากันทุกข์ระทม ก็เพราะถูกพิษอากาศแปรปรวยแผลงฤทธิ์เล่นงานเอา

ขณะที่ อีกซีกโลกทางเหนือ คือ ตอนเหนือของขั้วโลก เช่น ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ก็ต้องผจญกับพายุหิมะพัดถล่มจนหนาวยะเยือก เพราะอุณหภูมิติดลบนับสิบองศาเซลเซียสในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐฯ กับแคนาดา พื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางของสหรัฐฯ ไปจนถึงชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ แคนาดา ต้องถือว่า ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็น “สัปดาห์นรก” จากภัยพิบัติของพายุหิมะพัดกระหน่ำอย่างแท้จริง

เมื่อต้องประสบกับ “พายุหิมะ” ที่เป็นผสมผสานระหว่าง “หิมะ” ที่ตกลงมา ผสมกับ “พายุ” ที่มีความเร็วลมระดับ “เฮอร์ริเคน” กันเลยทีเดียวในบางพื้นที่

อาทิเช่น รายงานของการวัดค่าพายุที่เมืองเซนต์จอหน์ ซึ่งนครหลวง เมืองเอก ของ “รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์” ทางตะวันออกของประเทศแคนาดา ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ปรากฏว่า สามารถวัดความเร็วลมที่วัดได้ถึง130 กิโลเมตร หรือ 81 ไมล์ ต่อชั่วโมง ด้วยกัน ส่งผลให้หิมะตกกระหน่ำลงมาในเมืองเซนต์จอห์นอย่างหนัก วัดปริมาณความสูงเฉลี่ยของหิมะที่ตกลงมาได้ถึง 30 นิ้ว หรือ76.2 เซนติเมตร นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของหิมะที่ตกโดยใช้เวลาเพียงวันเดียว นับตั้งแต่ทางการแคนาดาเริ่มบันทึกเมื่อปี 2485 (ค.ศ. 1942) โดยทุบสถิติเดิมของเมืองนี้ที่เคยบันทึกเอาไว้เมื่อปี 2542 (ค.ศ. 1999) หรือเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ที่ในครั้งนั้นวัดปริมาณความสูงเฉลี่ยของหิมะที่ตกลงมาได้ 26.9 นิ้ว

ถึงขนาดทางการของ “รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์” ต้องประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” ในเมืองเซนต์จอห์น ก่อนเตรียมการที่จะออกให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ต่อประชาชนชาวเมืองที่กำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบด้านต่างๆ จากพายุหิมะหลังพัดถล่มแล้วข้างต้น

นอกจากที่เมืองเซนต์จอห์นแล้ว ก็ยังมีเมืองอื่นๆ ทางฟากตะวันออกของแคนาดา ประสบกับพิษภัยของพายุหิมะที่พัดกระหน่ำเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับ เมืองทางชายฝังตะวันออกของสหรัฐฯ ลามเลยไปถึงรัฐตอนใน โดยเฉพาะ “กลุ่มรัฐมิดเวสต์ตอนบน (Upper Midwest)” ได้แก่ บางส่วนของรัฐมินนิโซตา ตอนเหนือของรัฐไอโอวา รัฐวิสคอนซิน และรัฐมิชิแกน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ตอนในของกลุ่มรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ก็ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะพัดกระหน่ำครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

กระทั่ง มีหลายคนเรียกปรากฎการณ์พายุเฮอร์ริเคนที่พัดถล่มผสมผสานกับหิมะที่ตกลงมาครั้งนี้ว่า เป็น “สโนว์มาเกดดอน (Snowmageddon)” กันเลยทีเดียว เพราะสถานการณ์ไม่ผิดอะไรกับวันโลกาวินาศ หรือหายนะภัยพิบัติจากหิมะ อันเป็นผลพวงสืบเนื่องจากสภาพแปรปรวน

โดยมีรายงานมีความสูญเสียจากพายุหิมะพัดถล่มครั้งนี้ ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บมีมากกว่า 20 ราย

ทั้งนี้ เหตุพายุหิมะพัดกระหน่ำ ยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางจราจร ทำให้รถยนต์บนท้องถนนเฉี่ยวชนกัน และลื่นไถลตกข้างทาง รวมแล้วมากกว่า120 ครั้ง

ขณะที่ การให้บริการด้านการบินพาณิชย์ ปรากฏว่า กว่า 1,600 เที่ยวบินของเครื่องบินโดยสารของสายการบินต่างๆ ต้องระงับการให้บริการชั่วคราว

ทางด้าน ความเดือดร้อนของประชาชนพลเมือง ก็มีรายงานว่า 118 ล้านคน ทั้งจากฟากสหรัฐฯ และฝั่งแคนาดา ได้รับผลกระทบ ในจำนวนนี้ปรากฏว่า นับแสนคน ต้องอยู่ในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ธุรกิจร้านค้าต้องปิดให้บริการเป็นบริเวณกว้าง

นอกจากนี้ ในพื้นที่บางเมือง เช่น ที่นครเซนต์จอห์น ของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ประเทศแคนาดา ทางการโดยสำนักเทศมนตรี ประสานเสียงกับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของประเทศ ได้มีแถลงการณ์ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนยังคงต้องพำนักอยู่ในบ้านเรือน หรือสถานที่ปลอดภัย และคอยฟังการประกาศแจ้งเตือนจากทางการอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความวิตกกังวลจากหลายฝ่ายว่า เหตุพายุหิมะพัดถล่มครั้งนี้ จะส่งผลกระทบ ทำประชาชนเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้างอีกหลายเพลา