โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“บิ๊กป้อม” ยกระดับมาตรการต้านฝุ่นพิษ PM 2.5 กำชับบังคับใช้กฎหมายเต็มที่

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 23 ม.ค. 2563 เวลา 12.29 น. • เผยแพร่ 23 ม.ค. 2563 เวลา 12.29 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

“บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ยกระดับมาตรการต้านฝุ่นพิษ PM 2.5 ให้ ก.ทรัพย์ ตั้งวอร์รูม ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเป็นซิงเกิลคอมมานด์ในพื้นที่

วันที่ 23 ม.ค. 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 โดยมีวาระพิจารณาการยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะดำเนินการเข้มงวดในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่เราได้ดำเนินการไปให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่เพียงพอ เช่น อุปกรณ์ตรวจสอบควันดำก็จะมีการให้หน่วยงานไปดำเนินการจัดหามาให้ครบ รวมถึงมีการรับฟังความเห็นจากผู้มีประสบการณ์ทั้งหลาย ซึ่งความจริงแล้วทุกหน่วยงานก็ได้ทำงานร่วมกับประชาชนในการพัฒนาเรื่องควันดำและฝุ่น PM 2.5 ให้ลดน้อยลง โดยเข้มงวดในเรื่องตามกฎหมายที่มีอยู่ และขอให้เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมมือและทำงานร่วมกัน ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้ประชาชน โดยมีการตั้งวอร์รูมที่กรมควบคุมมลพิษเพื่อแจ้งให้ประชาชนได้รู้ว่าแต่ละวันค่า PM 2.5 อยู่ที่เท่าใดเป็นรายชั่วโมง

ส่วนกรณี 12 มาตรการที่นำมาบังคับใช้กระจุกอยู่แค่ในเมืองคือ กทม. แต่ยังไม่มีการควบคุมการเผาโดยเฉพาะเผาอ้อยในแต่ละจังหวัด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาให้มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นซิงเกิลคอมมานด์ในการสั่งการในแต่ละจังหวัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยเน้นย้ำการดำเนินการให้ปฏิบัติตามแผนขับเคลื่อนวาระแห่งชาติในเรื่องแก้ไขมลพิษและฝุ่นละอองให้มากขึ้น ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวดเป็นมติในที่ประชุม ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ทั้งนี้ จะให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีการตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาเรื่องฝุ่นละอองต่อไป

เมื่อถามว่าในการแก้ปัญหา PM 2.5 อำนาจสั่งการสูงสุดอยู่ที่ใคร พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตามกฎหมายในต่างจังหวัดคือผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนในกทม. เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และกรมต่างๆ ของรัฐบาลให้การสนับสนุน ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าหากถึงขั้นวิกฤติจริงๆ ใครจะมีอำนาจสั่งการเพื่อให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตาม พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ถ้าเกิดวิกฤตินายกรัฐมนตรีจะลงมาเป็นประธานบัญชาการด้วยตัวเอง.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0