โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

มองบวก “หุ้นไทย” ชูหุ้น ‘Value/Cyclical/หุ้นกลาง-เล็ก’…จังหวะตลาดย่อ-ทยอยลงทุนได้ !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ก.ค. 2564 เวลา 05.36 น. • เผยแพร่ 14 ก.ค. 2564 เวลา 05.48 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

“ตลาดหุ้นไทย” ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องขานรับกับปัจจัยบวกและการคลี่คลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีน
ซึ่งในไตรมาส 1/64 ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI)พลิกกลับมาเป็นบวกได้ถึง 10.54% จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าคงมีนักลงทุนไม่น้อยเริ่มหันกลับมาสนใจในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ภายในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนนัก ก็เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเกิดความลังเลขึ้นด้วยเช่นกัน ว่าตลาดหุ้นไทยจะยังไปต่อได้มากน้อยเพียงหรืออยู่ในจุดที่จะปรับตัวลดลง
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงอยากขอถือโอกาสแชร์มุมมองการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนอย่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มาเสนอให้แก่ผู้ที่สนใจหรือกำลังติดตามกันในครั้งนี้

ชี้ “หุ้นไทย” ปีนี้มีโอกาสแตะ 1,650 จุด…หากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด

โดยเราได้มีโอกาสฟังมุมมองจาก “สุพงศ์วร เมี้ยนโภคา”ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บลจ.ทิสโก้ จำกัด ที่ฉายภาพไว้ว่าการลงทุนหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ 1,600 จุด โดยประเมินกรอบที่ 1,600-1,650 จุดภายใต้คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 80 บาท อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) อยู่ที่ 20 เท่า

(สุพงศ์วร เมี้ยนโภคา)

“ซึ่งขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญให้ดัชนีไปต่อได้ โดยปัจจัยที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนภายในประเทศหากทำได้ตามเป้าหมายหรือดีกว่าจะช่วยให้ช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีการเปิดประเทศท่องเที่ยวกันได้ (Travel Bubble) จะส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว อีกปัจจัยบวกของตลาดหุ้นไทยนั้น เนื่องด้วยสัดส่วนหุ้นวัฏจักรเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ซึ่งหุ้นเหล่านี้จะได้รับประโยชน์ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงมีส่วนเสริมให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้”

สถานการณ์COVID-19 ได้ผ่าน “จุดต่ำสุด” แล้ว

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้น ได้ผ่านพ้นจุดวิกฤติที่สุดของโรค COVID-19 ไปแล้ว สะท้อนจากอัตราการตายจากโรคที่เริ่มลดลงในสหรัฐฯ หลังประชากรสหรัฐฯ เริ่มทยอยฉีดวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
“ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญได้ว่า Supply ของวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนมากขึ้น หลังวัคซีนของหลายๆ บริษัทผู้พัฒนาได้รับ Approval จาก FDA เป็นการเร่งด่วน ฉะนั้นการที่การเห็นตัวเลขจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนในสหรัฐฯ มากขึ้นจนเพียงพอ ก็อาจเห็นการ Rotateมายังประเทศอื่นๆ ได้ไวขึ้น”

“หุ้นไทย” ยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายที่อาจมีผลเชิงลบ

ส่วน “ปัจจัยลบ” ประกอบไปด้วย การปรับขึ้นของ ‘อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ’ โดยหากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลลบต่อค่าเงินในกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ซึ่งทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนลดลง
และ ‘ปัจจัยในประเทศ’ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID -19 ที่ต้องจับตาว่าจะดำเนินการได้ดีเพียงใด เพราะส่วนนี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต

“ดังนั้น หากหุ้นไทยเกิดการปรับฐานก็เป็นโอกาสในการลงทุนและปรับพอร์ตการลงทุน โดยผู้ลงทุนอาจเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีด้วยการเลือกลงทุนในกองทุนที่มีกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ และมีผลตอบแทนในอดีตที่ดีอย่างต่อเนื่อง”

ชูกลยุทธ์คัดเลือกหุ้นรายตัว…แนะหุ้นกลุ่ม Value, Cyclical หรือหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

โดยคำแนะนำในการเลือกหุ้นอยากให้นักลงทุนให้น้ำหนักการลงทุนกับหุ้นกลุ่ม Value, Cyclical โดยให้น้ำหนักกับบริษัทที่สามารถฟื้นตัวได้ดี โดยอาจพิจารณาจากผู้บริหาร กลยุทธ์ของบริษัท และอยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ New Normal เป็นต้น รวมไปถึงยังเน้นเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก แนะนำให้ลงทุนใน ‘หุ้นขนาดกลางเล็ก’โดยเฉพาะในกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มเงินทุน รวมถึงเลือกหุ้นใหญ่เข้ามาในพอร์ตเพิ่มเติมได้หากมีการย่อตัวของราคา
“แม้ว่า ‘หุ้นไทย’ จะมีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงแล้ว แต่มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังถือว่ามีโอกาสลงทุนได้ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก กลาง ไปจนขนาดใหญ่ ด้วยปัจจัยอย่างการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนภายในประเทศจะมีประสิทธิภาพเช่นไร”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0