“ก็อต อิทธิพัทธ์” ปัดควง “ริชชี่” เดินห้าง ฟุ้ง “ริชชี่” คือสาวในสเปค
นับวันก็ยิ่งจิ้นกันไม่หยุด สำหรับนักแสดงสาว “ริชชี่” และนักแสดงหนุ่ม “ก็อต อิทธิพัทธ์” เพราะบทสัมภาษณ์ของทั้งคู่ต่างก็เหมือนหยอดกันไปหยอดกันมา เลยยิ่งทำให้แฟนคลับลุ้นให้เป็นแฟนกันสักที แถมล่าสุดยังมีการจับผิดว่าทั้งสองคนต้องไปควงกันไปเดินห้างแน่นอน เนื่องจากรูปที่ถ่ายลงในอินสตาแกรมของทั้งสองคนเหมือนสถานที่เดียวกันแบบเป๊ะๆ แต่ก็ยอมรับว่า สาวริชชี่ ตรงสเปกทุกอย่าง แถมยังเป็นเพื่อนผู้หญิงในวงการคนแรกของตนเช่นกัน หากถามว่าจะพัฒนาไปเป็นแฟนได้หรือไม่ก็ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต
กระแสจิ้นของเรากับ ริชชี่ ยังฮอตอย่างต่อเนื่อง ? “ก็ต้องบอกว่าดีใจครับที่แฟนๆ ดูละครและชื่นชอบเราสองคนจนทำให้มีกระแสออกมาเรื่อยๆ ต่อจากละครจบ”
ที่มาของแฮชแท็ก ริชชี่ที่แปลว่าของก็อต มันเริ่มต้นมาจากไหน ?
“ผมต้องเล่าก่อนว่าแฮชแท็กนี้มันมาจากประโยคหนึ่งที่พระเอกพูดกับนางเอกในเรื่อง และแฟนๆ เขาก็เอามาปรับเป็นชื่อเรา เพราะว่าเขาอินในคาแรคเตอร์ อินในตัวละครของเราสองคน”
ตัวเราเองก็ดูเหมือนว่าจะอินไปแล้วด้วย ?
“(หัวเราะ) ไม่ครับไม่ ผมกับริชเราก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกัน”
ไม่มีอะไรแต่ทำไมเวลาสัมภาษณ์ถึงเขาต้องเขิน ?
“เขินครับ เวลาใครถามถึงผู้หญิงผมก็จะเขินตลอด”
แต่ตัวเราเองก็ดูจะปฏิบัติกับริชชี่ต่างกับผู้หญิงคนอื่นนะ ?
“เอ่อ…อาจจะเพราะว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกันด้วยมั้งครับ ดังนั้นเวลาใครมาถามถึงเขาผมก็อาจจะแบบ เอ๊ะ! ควรพูดถึงเพื่อนยังไงดีนะ มีความเขินนิดหน่อย”
การที่แฟนคลับเชียร์เยอะๆ แบบนี้ ตัวเราเองรู้สึกยังไงบ้าง ?
“ผมก็เห็นนะครับ เห็นจากแฮชแท็กต่างๆ เพราะผมก็แอบเข้าไปดูบ้างเหมือนกัน ก็ตลกดีครับ ชงๆ จิ้นๆ แต่ถามว่าผมหวั่นไหวไหมกับริชชี่ เราเอ่อ…เราสนิทกันครับ อาจจะเพราะเราทำงานด้วยกันมั้งเราเลยไม่ได้มองไปที่มุมหวานๆ”
ตอนนี้คนจิ้นมาจนคิดว่าเราก็จีบริชชี่แล้วแหละ ?
“ผมต้องเก็บอาการหน่อยครับ (หัวเราะ) ไม่หรอก ก็คือด้วยความที่เราสนิทกันมาก เวลาที่เราพูดอะไรออกไปมันก็จะเป็นในอารมณ์ของเพื่อนที่อยากให้บรรยากาศมันสนุกสนานมากกว่า อยากให้คนดูเห็นว่าเราตลกอะไรประมาณนั้น”
ได้คุยกับริชชี่บ้างไหมเรื่องที่คนจิ้นเยอะขนาดนี้ ?
“จริงๆ เวลาที่เราทำงานด้วยกัน อย่างช่วงนี้เราทั้งคู่มีงานด้วยกันบ่อย ผมก็จะถามไถ่เขาตลอดประมาณว่า โอเคไหม มีคนอินนะ มีคนอินในตัวเราสองคน ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาโอเค”
กดดันไหมกับการที่คนจับตามองว่าจะต้องรักกันจิ้น ?
“ผมมองว่ามันเป็นช่วงเวลามากกว่านะ อย่างตอนนี้เราเล่นละครด้วยกันแถมยังได้กระแสตอบรับดี ซึ่งพอมันมีงานต่างๆเข้ามาและเป็นงานคู่ บวกกับการที่คนดูเขาชื่นชอบความเป็นธรรมชาติของเราสองคนอยู่แล้ว ผมก็คิดว่าเขาอาจจะไม่ได้มองหรือไม่ได้มานั่งกำหนดอะไรอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ให้มันเป็นไปเรื่อยๆ ดีกว่า เพราะเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร”
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ริชชี่เขาบอกว่าเราเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่สนิทที่สุด ?
“เขาก็เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกที่ผมสนิทเหมือนกัน เอาจริงๆ นะถ้าในวงการนี้เพื่อนผู้หญิงผมไม่ค่อยมีหรอกครับ ถึงจะมีแต่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่ากับหลายๆ คน ถามว่าผมกับเขามาสนิทกันได้ยังไง ก็อย่างที่บอกครับเราได้มีโอกาสแสดงละครด้วยกัน บวกกับเรามีผู้จัดการคนเดียวกันและก็มีงานคู่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ มันก็เลยยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น อีกอย่างตอนที่อยู่ในกองถ่ายด้วยความที่ริชชี่เขาเป็นคนเงียบๆ ซึ่งผมก็ไม่อยากให้บรรยากาศในกองมันเงียบผมเลยชวนเขาคุย หลังจากนั้นเราก็กลายเป็นว่าสนิทสนมกันขึ้นมาเอง”
ถ้าเปรียบเทียบความสัมพันธ์ ณ ตอนนี้ กับตอนที่ถ่ายละคร ถือว่าสนิทสนมมากขึ้นไหม ?
“สนิทขึ้นครับ สนิทขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำงานยิ่งเจอกันบ่อยก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
จะมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่านี้ไหม ?
“อันนั้นต้องให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าครับ”
ถามตรงๆ แรงยุมีผลกระทบต่อเราบ้างหรือเปล่า ?
“ไม่แน่นะครับ (ยิ้ม) ไปเอาเป็นว่าตอนนี้เราทั้งคู่ยังมีผลงานคู่กันเรื่อยๆ ก็ขอสนับสนุนกันที่ตัวงานไปก่อนดีกว่าครับ”
โดยส่วนตัวแล้วถือว่าริชชี่เป็นสาวในสเปกไหม ?
“ก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะครับ น่ารัก นิสัยดี เข้าใจเรา เรับฟังคนอื่นได้ดี ผมก็รู้สึกว่าเวลามีใครมานั่งฟังเราก็ดีนะครับ เราปรึกษากันบ่อยมากหลายๆ เรื่องเลย ตอนที่อยู่ในกองถ่ายเราก็ปรึกษากันตลอด เพราะเราต้องเข้าซีนด้วยกันเยอะมากๆ แถมบทที่แสดงมันก็ไม่ได้ง่าย เวลาคุยกันเราก็จะคุยกันทุกเรื่องเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผมคุยคนเดียวมากกว่า เขาไม่ค่อยคุยหรอก (หัวเราะ)”
พอละครจบไปแล้วตอนนี้เราสองคนคุยเรื่องอะไรกัน ?
“ส่วนใหญ่เราก็จะคุยกันเรื่องงานครับ คุยกันว่าฟีคแบคตอนนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ และเราจะวางแผนการทำงานของเราอย่างไรต่อไป คือเป็นการคุยเรื่องทั่วไปเลยครับ อาจจะมีถามไถ่บ้างอย่างเช่น วันนี้เหนื่อยไหม ทำงานไหม หรือวันไหนที่ต้องทำงานคู่กันผมก็จะถามเขาว่าออกกี่โมงไปกี่โมง อะไรประมาณนั้นครับ”
ช่วงนี้เรากับริชชี่ที่มีงานจ้างคู่กันเยอะหรือเปล่า ?
“ช่วงนี้ก็จะเป็นงานลักษณะของการรีวิวคู่กันครับ และเร็วๆ นี้ก็จะมีมิวสิควีดีโอด้วยเป็นเพลงของพี่ลิเดีย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ”
คุยกับเขาทุกวันแบบนี้เป็นเพราะเรารอให้เขาใจอ่อนหรือเปล่า ?
“ไม่ครับไม่ ก็ด้วยความเป็นเพื่อนไง (ยิ้ม)”
แต่ล่าสุดมีคนแอบจับผิดนะเห็นว่าเราไปเดินห้างที่เดียวกัน ?
“ห้างแต่ละห้างมันก็เหมือนกันแหละครับ เพียงแต่เราอาจจะถ่ายมุมเดียวกันไง แต่เราไม่ได้ไปด้วยกันนะ เราไปกันคนละวัน ภาพของผมน้องสาวเป็นคนถ่ายให้ ส่วนภาพของริชเขาน่าจะไปกับเพื่อน อันนี้ผมไม่รู้”
เราทั้งคู่เคยมีโอกาสไปเที่ยวกันสองคนบ้างหรือยัง ?
“ยังครับยัง คือเวลาที่เราไปก็จะไปกันหลังเลิกงาน และถ้าไปก็จะมีผู้จัดการไปด้วยตลอดเพราะเขาเป็นคนดูแลเราทั้งคู่”
แล้วตอนนี้ตัวเองพร้อมดูแลใครหรือยัง ?
“ผมจะไปดูแลใครเขาได้ครับ ยังไม่พร้อมครับ ยังไม่พร้อมดีกว่า อีกประมาณสักพักแล้วกันนะ ถ้าผมพร้อมแล้วผมจะบอกนะพี่ (ยิ้ม)”
โดยปกติเวลาเรียก เราสองคนเรียกแทนกันว่าอะไร ?
“ก็ไม่ได้เรียกแทนว่าอะไรนะครับ ก็เรียก ก็อต ริช ปกติเลย เรา เขา อะไรประมานั้น”
ไม่ได้เรียกกันว่าที่รักนะ ?
“ไม่ครับไม่ถึงขนาดนั้น พี่ชงเก่งมากเลย ผมขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย (หัวเราะ)”
โดยส่วนตัวเรา เราเคยคิดเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์บ้างไหมถ้าหากมันเป็นไปได้ในอนาคต ?
“ผมคิดว่ามันอาจจะยังเร็วไปที่จะตอบ”
ตอนนี้ก็ลุ้นกันไปก่อน ?
“ใช่ครับ ลุ้นกันไปก่อน ตอนนี้ก็สนับสนุนผลงานของเราสองคนด้วยนะครับ ยังมีผลงานให้ชมกันเรื่อยๆ”