โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘Singha Way’ การสร้าง DNA องค์กรให้แข็งแกร่งตามวิถี ‘สิงห์’ เพื่อก้าวสู่องค์กรร้อยปี

Marketing Oops

อัพเดต 21 พ.ย. 2562 เวลา 06.06 น. • เผยแพร่ 21 พ.ย. 2562 เวลา 03.31 น. • Lupang
‘Singha Way’ การสร้าง DNA องค์กรให้แข็งแกร่งตามวิถี ‘สิงห์’ เพื่อก้าวสู่องค์กรร้อยปี

“ตอนนี้ Family เราก็อยู่ในเจน 4 และกลุ่มสิงห์เองมีการแตกบริษัทไปกว่า 100 บริษัทที่เริ่มไกลจากธุรกิจเดิม มีพนักงานรวมกันกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นคนใหม่ก็เยอะ เราจึงกลัวว่า วัฒนธรรมในความเป็นสิงห์ที่มีมาปีนี้ครบรอบ 86 ปีจะหล่นหายไป เราถึงคิดว่า จะทำอย่างไรให้ทุกคนในองค์กรเห็น และเข้าใจชัดเจนถึงความเป็นสิงห์บนหน้าหนังสือเดียวกัน”

เป็นสิ่งที่ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้สะท้อนให้เห็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่องค์กรระดับบิ๊กแห่งนี้จะเดินหน้าต่อไปในอนาคต และเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Singha Way’ วัฒนธรรมองค์กรตั้งแต่ยุคเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันที่จะสร้างให้เป็น DNA ของสิงห์ และส่งต่อกันแบบรุ่นสู่รุ่นให้กับคนทุกคนในองค์กร ตั้งแต่คนในตระกูล ‘ภิรมย์ภักดี’  , ผู้บริหาร ไปจนถึงพนักงานทุกระดับ

Singha Way วิถีแห่งสิงห์

สำหรับ Singha Way จะประกอบไปด้วย 4 แกนหลัก ได้แก่ 1. เรากล้าหาญอย่างสิงห์ (We Act With Courage) การกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนกล้าแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ฯลฯ 2. เราคือครอบครัวสิงห์ (We Are Family) พนักงานทุกคน คือ คนในครอบครัวเดียวกัน และพร้อมจะพัฒนาให้ทุกคนมีคุณภาพ เก่งขึ้นและเติบโตขึ้น

3. เราส่งมอบคุณภาพที่ดีที่สุด (We Deliver Premium Quality) สินค้าของสิงห์จะมีคุณภาพระดับ Premium ทำดีแล้วต้องทำดีขึ้นไปอีก เช่นเดียวกับการพัฒนาคุณภาพของพนักงาน 4. เราเชื่อเรื่องความสุข (We Believe In Happiness) การสร้างให้พนักงานมีความสุขและเจอโอกาสที่ดีที่สุดทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว

ทั้งหมด จะถูกสื่อสารผ่านในทุกช่องทางที่สิงห์มี รวมถึงพยายามสร้าง experience ผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทำให้พนักงานเชื่อมโยงกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่ท่องจำ

“ทั้ง 4 ข้อเป็น DNA ตั้งแต่ยุคแรกที่พาเราเดินต่อไปอย่างแข็งแกร่งถึงปัจจุบัน และตอบโจทย์การพัฒนาศักยภาพของตนเอง และองค์กร โดยเฉพาะในการทำธุรกิจตอนนี้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะเราเชื่อว่า เมื่อคนของเรามีคุณภาพ ก็จะส่งผลดีไปสู่คนในครอบครัว ชุมชน สังคม ไปถึงคู่ค้า พาร์ทเนอร์ เนื่องจากการสร้างความยั่งยืนของเราให้ความสำคัญกับ stake holder ที่เกี่ยวข้องกับเราทั้งหมด”

3 รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น ปี 2019 การันตีความสำเร็จ

สำหรับ Singha Way นั้น ได้เริ่มนำมาสื่อสารกับทุกคนในองค์กรเมื่อปี 2559 ซึ่ง จุตินันท์ บอกว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การสร้าง DNA ตามวิถีสิงห์ได้เดินมาถูกทาง

รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น จากเวที Best Employers Thailand 2019
รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น จากเวที Best Employers Thailand 2019

ภาพสะท้อนที่ชัดเจน ก็คือ การที่ 3 บริษัทในเครือสิงห์ ได้แก่ ปทุมธานีบริวเวอรี่ จำกัด , บริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช จำกัด และบริษัท สุราษฎร์ธานีเบเวอเรช จำกัด สามารถคว้า 3 รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น จากเวที Best Employers Thailand 2019 ที่จัดโดย Kincentric บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลชั้นนำ ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นเพื่อค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่น

หรือจะเป็นกรณีที่ทำให้องค์กรสามารถผ่านปัญหาต่าง ๆ จากการปรับโครงการสร้างครั้งใหญ่ในปีนี้มาได้ ซึ่งทาง จุตินันท์ออกปากว่า  หากไม่มี Singha Way จะเป็นไปได้ยากมาก

“หน่วยงานที่ผมดูแล คือ บัญชี , HR และ Procurement  ที่ปีนี้เราปรับโครงสร้างใหญ่ แน่นอนเมื่อมีการปรับโครงสร้าง ทุกคนจะกังวลเรื่องหน้าที่การงาน กลัวจะโดนย้ายงาน หรือลดตำแหน่ง การมี Singha Way ทำให้คนของเราเข้าใจและอุ่นใจว่า เราจะไม่ทิ้งใคร มีการอธิบายถึงที่มาของการเปลี่ยนแปลง เพราะเรารับผิดชอบในฐานะครอบครัว เพียงคุณกล้าเดินไปกับเราข้างหน้า เราจะพัฒนาคุณไปสู่ตำแหน่งอื่น ๆ เคสนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีมาก”

*หวังเป็นคัมภีร์ก้าวสู่องค์กรร้อยปี *

ทาง จุตินันท์ หวังว่า Singha Way จะเปรียบเสมือน ‘คัมภีร์พาองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างแข็งแกร่ง’ ไม่ว่ากลุ่มสิงห์จะมีอายุร้อยปีหรือสองร้อยปีก็ตาม และจะเป็นคัมภีร์ที่ทุกคนของสิงห์ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลภิรมย์ภักดี , ผู้บริหาร ไปกระทั่งพนักงานในทุกระดับ

หากถามว่า ใน 4 ข้อของ Singha Way อะไรสำคัญที่สุด

คำตอบที่ได้รับจาก จุตินันท์ คือ สำคัญทุกข้อ แต่หากในมุมส่วนตัวมองว่า ด้วยการแข่งขันในโลกธุรกิจปัจจุบันที่แข่งกันดุเดือดทั้งภายในและภายนอกองค์กร ทำให้พนักงานถูกกดดันเป็นอย่างมาก

ดังนั้น ในฐานะผู้บริหาร จึงให้ความสำคัญกับ We Believe In Happiness มากที่สุด ด้วยการสร้างบรรยากาศและเปิดโอกาสให้พนักงานหาความสุขได้ทั้งในที่ทำงาน และการใช้ชีวิตส่วนตัว ตามแบบฉบับ work life balance นั่นเอง

 

Related Stories

เอาถุงออกไป! Cara Delevingne เปลือยกายถ่ายโฆษณาที่ร้าน Balmain

12 เทรนด์โลกมาแรง ที่คนยุคดิจิทัลต้องรู้จาก Internet Trend Report 2019 โดย Mary Meeker นักวิเคราะห์ชื่อดัง
12 เทรนด์โลกมาแรง ที่คนยุคดิจิทัลต้องรู้จาก Internet Trend Report 2019 โดย Mary Meeker นักวิเคราะห์ชื่อดัง

12 เทรนด์โลกมาแรง ที่คนยุคดิจิทัลต้องรู้จาก Internet Trends 2019 โดย Mary Meeker

Singha-Estate
Singha-Estate

สิงห์ เอสเตท ไม่หวั่นตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ลงทุนเพิ่ม 10,000 ล้าน เล็งปักหมุด “พม่า-เวียดนาม”

นอกจากข้าวยากหมากแพง… ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคไทย #ร้องทุกข์ สคบ. กับธุรกิจและบริการใดมากที่สุด

LINE-Sticker-Creators
LINE-Sticker-Creators

ทำความรู้จักอาชีพ “LINE Creators” จากงานอดิเรก สู่อาชีพหลัก – ไม่จำกัดอายุ รับเทรนด์ฟรีแลนซ์

Central Mixed-use Project Development
Central Mixed-use Project Development

ชวนดู “เซ็นทรัล” โปรเจคใหม่ 2.2 หมื่นล้าน “อยุธยา-ศรีราชา-จันทบุรี” พร้อมพลิกโฉม “พระราม 2-รามอินทรา”

อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0