/ซีน นี้ มา -ว่าด้วยการหยิบยกซีนหรือฉากหนังบางฉาก มาขยายความน่าสนใจให้ใหญ่ขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นหนังเปิดปีที่ดีและควรค่าแก่การดูอย่างยิ่ง กับ สี่ดรุณี ในชื่อไทยหรือที่รู้จักกันในชื่อ Little Women เรื่องราวของ 4 หญิงสาวพี่น้องที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะ เคาะกล่องความทรงจำวัยเด็ก ฟังเสียงหัวใจตัวเองให้มากขึ้น และการเติบโตขึ้นโดยก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดของชีวิต ♡
ภาพวาด / นิยาย / สายใยพี่น้อง
‘ฉันเบื่อหน่ายกับการที่ใคร ๆ ก็คิดว่า ชีวิตลูกผู้หญิงนั้นมีแต่เรื่องความรัก… แต่ฉันเองก็ยังคงว้าเหว่ ’ - โจ มาร์ช
การสื่อสารเรื่องราวของสิทธิสตรี ที่ไม่เหมือนเรื่องไหน ๆ เหมือนโจกำลังพยายามพูดกับสตรีอย่างเราด้วยความแข็งกร้าวว่า ‘เลิกอยู่ใต้อาณัติผู้ชายเสียที!’
.
หญิงสาวทั้ง 4 ที่เหมือนภาพวาดศิลปะ เธอมีความอ่อนโยนและแข็งกร้าว เรื่องราวชีวิตของแต่ละคนแล้วแต่การลงน้ำหนักของพู่กัน โดยเฉพาะตัวละครที่โดดเด่นอย่าง โจ มาร์ช เธอดื้อ หัวรั้น เข็มแข็ง และภูมิใจในความเป็นสตรีอย่างที่สุด นักเขียน คือสิ่งที่ใฝ่ฝัน บทบาทสาวผู้ตามครรลองของผู้หญิงสมัยนั้น ก็คือ เม็ก มาร์ช (หรือ เอ็มม่า วัตสัน) เธอมีความฝันที่จะมีสามีที่ดี ครองรัก และมีชีวิตครอบครัว หรือจะ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ที่รับบทเป็น เอมี่ สาวหน้าคุ้นจาก Midsommar เธอเอาแต่ใจ ถูกปลูกฝังในการโตไปมีสามีที่ร่ำรวย แต่ก็มีฝีมือวาดภาพที่โดดเด่น และ เบ็ธ รับบทโดย เอลิซ่า สแกนเลน สาวน้อยนักเปียโน ทั้ง 4 เป็นคอมบิเนชั่นที่กลมกล่อม บวกกับหนึ่งหนุ่มที่ทำให้ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ได้ง่าย ๆ ทิโมธี ชาลาเมด์ จาก Call Me By Your Name
.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งแรกที่เห็นภาพตัวอย่าง ทำให้อยากมาดูแบบไม่ต้องสงสัยเพราะมีน้อง ทิโมธี ชาลาเมด์ จาก Call Me By Your Name ที่ฉันรัก และตั้งความหวังไว้ว่ามันจะเป็นหนังที่เหมือนงานศิลปะที่ดีเรื่องนึงเลยทีเดียว
ความหวังของครอบครัว หรือ ความหวังของตัวเราเอง
‘I want to be great or nothing!’
ความมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ และเห็นมันสำเร็จ มันคือผลผลิตจากความ ‘สม่ำเสมอ’ เราให้เวลากับมัน เชื่อในแบบนั้นเสมอ และในหนังก็สื่อสารกับเราได้อย่างใจคิด
ท่ามกลางการปลูกฝังของสังคมที่พยายามให้ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ไม่มีความสามารถมากพอในการทำงานเพื่อเจริญก้าวหน้าและร่ำรวยได้เท่าชาย ก็มีหญิงหัวก้าวหน้า มีความหวังที่จะสร้างผลงาน มุ่งหน้าทำมันในรูปแบบของตัวเอง
.
ไม่เพียงแต่เห็นความหวังและตั้งใจของเนื้อเรื่องที่พยายามจะสื่อสารกับเรา ยังเห็นถึงพลังของผู้กำกับ เกรตา เกอร์วิก ที่เป็นหนึ่งในผู้กำกับหญิงที่มากความสามารถตั้งแต่ Lady Bird ถ้าใครได้มีโอกาสดู เธอละเอียดกับแต่ละฉากที่ทำ ทุกอย่างสื่อสารถึงความเป็นสตรีที่มีความคิด ความอ่าน ได้อย่างเท่าเทียมกับชาย
ถึงความฝันพี่จะต่างจากเธอ แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่สำคัญ
ความฝันของใคร ก็ต่างสำคัญ ถ้าวิ่งไล่ล่าตามมัน…
.
แม้เราจะไม่มีพี่น้อง ก็สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องได้อย่างราบรื่น ทั้งฉากสะบั้นอารมณ์ อย่างโจและเท็ดดี้ (ชื่อที่โจใช้เรียกลอรี่) ก็ฉุดอารมณ์ให้ตามไป กับซีนนั้นจนน้ำตาซึมได้
.
ในวัยเด็กจะมีรักครั้งหนึ่ง ที่ทำให้ใจเราถึงกับสลาย และใช้เวลากลับมาตั้งต้นใหม่ค่อนข้างนาน หรือไม่ อาจหายไป,แค่บรรเทา ใครที่เลือกซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง จงดีใจ… และใช้ชีวิตที่เลือกในรูปแบบที่ตัวเองเอนจอยกับช่วงเวลานั้นให้เต็มที่ เมื่อไหร่ที่ความรักที่ดีและเหมาะสมเข้ามา เราจะรู้สึกให้โอกาสและไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะปฏิเสธมัน….
รับชมได้วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ ;)
