(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
CCTV airs anti-US invasion war movies
By Asia Times staff
20/05/2019
ช่องเน้นฉายภาพยนตร์ของสื่อทีวีจีน ได้ปรับเปลี่ยนผังรายการหันมาแพร่ภาพออกอากาศหนังสงครามเก่าๆ ในช่วงไพรม์ไทม์ตอนกลางคืน ขณะศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนกำลังดุเดือดยิ่งขึ้น
กิจการทีวีแห่งรัฐของจีนซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (China Central Television หรือ CCTV) มีช่องที่เน้นรายการภาพยนตร์ นั่นคือ CCTV-6 มีรายงานข่าวว่าตารางแพร่ภาพออกอากาศภาพยนตร์ของช่องนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงกันยกใหญ่ ไม่เพียงพวกหนังที่เป็นโปรดักชั่นฮอลลีวู้ดทั้งหมดจะถูกถอดออกไปเท่านั้น แม้กระทั่งภาพยนตร์ภายในประเทศซึ่งมีฉากที่ถ่ายทำในสหรัฐฯก็โดนด้วย
พวกผู้สังเกตการณ์มองความเคลื่อนไหวเช่นนี้ว่า คือการที่ ซีซีทีวี กำลังเข้าแถวกระทำตามสื่อมวลชนของรัฐแห่งอื่นๆ ภายหลังที่สายสัมพันธ์ของปักกิ่งกับวอชิงตันเลวร้ายลงเรื่อยๆ หลังจากการเจรจาการค้าทวิภาคีรอบล่าสุดไม่มีความคืบหน้า และโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งลงโทษคว่ำบาตรซึ่งพุ่งเป้าหมายมุ่งเล่นงานบริษัทหัวเว่ย
ในพัฒนาการอีกด้านหนึ่ง เวลานี้ช่อง CCTV-6 กำลังนำเอาพวกหนังสงครามเก่าๆ สร้างกันหลายสิบปีแล้ว มาบรรจุเอาไว้ในรายการช่วงไพรม์ไทม์ตอนกลางคืน ภาพยนตร์เหล่านี้ก็มีดังเช่น พวกหนังเกี่ยวกับสงครามเกาหลีปี 1950-53 ซึ่งกองทัพแดงของเหมา เจ๋อตุง ที่ใช้ชื่อว่ากองทหารอาสาสมัครของประชาชนจีน (Chinese People’s Volunteer Army) ได้เข้าสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหายร่วมรบชาวเกาหลีเหนือของพวกตน ในการสกัดกั้นขัดขวางการรุกคืบหน้าของกองทัพสหรัฐฯจากเกาหลีใต้
ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งกำลังถูกนำมาแพร่ภาพออกอากาศ ได้แก่เรื่อง ซั่งกานหลิ่ง (上甘岭 ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Battle of Shangganling Mountain ศึกภูเขาซั่งกานหลิ่ง) หนังสร้างเมื่อปี 1956 เรื่องนี้บรรยายถึงการสู้รบที่ฝ่ายอเมริกันเรียกชื่อว่า “ศึกไทรแองเกิลฮิลล์ (Battle of Triangle Hill) ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณที่ทุกวันนี้ก็คือ “เส้นกำหนดเขตทหาร” (Military Demarcation Line) ศึกคราวนี้พวกนักประวัติศาสตร์ที่เข้ามาทบทวนศึกษากันในภายหลังก็เห็นกันว่า ได้เกิดการสู้รบกันอย่างลำบากยากเย็นเป็นพิเศษ
หนังเรื่องนี้วาดภาพศึกครั้งนี้ว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายจีนที่มีเหนือการรุกรานของฝ่ายอเมริกัน ภาพยนตร์บรรยายให้เห็นว่ากองทหารจีนทั้งๆ ที่ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำ แต่ก็ยังคงพยายามยืนหยัดรักษาพื้นที่ของพวกตนเอาไว้เป็นเวลายาวนาน 24 วัน จวบจนกระทั่งกำลังหนุนของพวกตนเดินทางมาถึง แม้ในระหว่างนั้นจะต้องเผชิญกับความเหนือกว่าอย่างเด็ดขาดของปืนใหญ่ภาคพื้นดินและแสนยานุภาพทางอากาศของฝ่ายอเมริกัน
ศึกซั่งกานหลิ่ง ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเสียสละอุทิศตนด้วยความรักชาติอย่างไม่เห็นแก่ตัว และวีรกรรมความกล้าหาญของฝ่ายจีน ตลอดจนกลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ปราชัยของจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ ตามทัศนะของปักกิ่งแล้ว ศึกคราวนี้เป็นหลักหมายแสดงถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของสงครามเกาหลีทั้งสงคราม และบีบบังคับให้ เฮนรี ทรูแมน ประธานาธิบดีสหรัฐฯในตอนนั้นต้องยอมอ่อนข้อและยอมตกลงในสัญญาหยุดยิงซึ่งลงนามกันที่หมู่บ้านปันมุนจอมในปี 1953
น่าสนใจทีเดียวว่า สไตล์และการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ขัดแย้งเป็นตรงกันข้ามเลยกับหนังของฝ่ายอเมริกันที่ใช้ชื่อเรื่อง พอร์ก ช็อป ฮิลล์ (Pork Chop Hill) สร้างโดยบริษัทยูไนเต็ดอาร์ติสต์ส (United Artists Corp) ในปี 1959
สงครามเกาหลี ยังคงเป็นครั้งเดียวที่กองทหารจีนและกองทหารอเมริกันประจันหน้าราบราฆ่าฟันกันด้วยขนาดอันใหญ่โตในสมรภูมิ หลังจากประธานเหมาตัดสินใจส่งกำลังทหารไปช่วยพิทักษ์ปกป้องเกาหลีเหนือ ด้วยความหวั่นเกรงว่าสาธารณรัฐคอมมิวนิสต์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาหมาดๆ ของตนจะตกเป็นรายต่อไปที่จะถูกเล่นงานหลังจากเกาหลีเหนือพ่ายแพ้สหรัฐฯแล้ว
ยังมีหนังสงครามทำนองเดียวกันอีก 3 เรื่องซึ่งกำหนดจัดฉายทางช่อง CCTV-6 ในสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปักกิ่งเตือนว่าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯได้ย่างเข้าสู่โหมด “รบกันไปเจรจากันไป” แล้ว ซึ่งก็เหมือนกับอ้างอิงถึงตอนช่วงปลายๆ สงครามเกาหลีที่คณะผู้แทนของจีนกับสหรัฐฯพยายามหาทางเจรจากัน ขณะที่กองทัพของทั้งสองฝ่ายยังคงกำลังรบกันอยู่ในเกาหลี สถานการณ์เช่นนี้ในปัจจุบันบังเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์เล่นงานจีนก่อนด้วยการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรและข่มขู่ที่จะถอนตัวไม่เจรจาต่อไปอีก
