ธนาธร ถามประชาชน มติของศาลรัฐธรรมนูญเป็นธรรมกับตนเองหรือไม่ พร้อมรวมพรรคการเมืองที่ต้านอำนาจคสช. และยืนยันพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี…
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของกกต. เพื่อให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีปมถือหุ้นสื่อ พร้อมมีมติ 8 ต่อ 1 เสียง สั่งให้นายธนาธร ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
นายธนาธร ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและกำลังใจในกรณีนี้ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับมติของศาล เพราะดูเหมือนว่าจะรวดเร็วเกินไปหรือไม่ และยังได้โชว์เอกสารที่ลงวันที่ 17 พฤษภาคม ถูกจัดส่งในวันที่ 21 พฤษภาคม มาถึง ตนเองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เพื่อเรียกสืบพยานเพิ่มอีก 3 คน ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อร้องเรียน ที่เป็นชุดเล็กยังอยู่ระหว่างหาความจริง แต่เหตุใดคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหญ่ทั้ง 7 คน จึงเร่งรีบส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งที่คณะกรรมการชุดเล็กยังไม่มีบทสรุปออกมา
นายธนาธนยังบอกอีกว่า ถ้าเอาเรื่องนี้ไปเทียบกับกรณีของนายดอน ปรมัถย์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ใช้เวลาพิจราณานานถึง 417 วันจากวันที่ถูกร้องเรียน ส่วนกรณีของตนเอง กกต.จากวันที่รับเรื่องจนไปถึงศาลใช้เวลาเพียง 53 วัน จึงอยากตั้งคำถามว่า ตนได้รับความเป็นธรรมจากกกต. และศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ อยากฝากให้ประชาชนและสื่อมวลชนทุกคน ช่วยตรวจสอบไปพร้อมๆกัน
พร้อมกันนี้นายธนาธร ยังได้พูดถึงจุดยืนของตนเอง ว่าเมื่อมีคนไม่อยากให้ตนเองเข้าสภาก็ไม่เป็นไร แต่หลังจากนี้ พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้ารวมเสียงพรรคการเมืองที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ และตนเองก็ยืนยันคำเดิมที่ได้แถลงไปแล้วก่อนหน้านี้ คือพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
นายธนาธรได้บอกให้ทุกคนสงบนิ่ง เพื่อที่จะได้ยินเสียงของความไม่พอใจของประชาชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของระบอบเผด็จการ ซึ่งระบอบนี้คือความมืด แต่พรรคอนาคตใหม่คือแสงสว่าง ส่วนตัวยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และจะขอหน้าที่หยุดยั้งระบอบเผด็จการเอง พร้อมย้ำกับทุกคนว่า นี่ไม่ใช่เวลาของการสิ้นหวัง เป็นเวลาเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบเผด็จการ เป็นเวลาของการลุกขึ้นยืน และต่อสู้ร่วมกัน
สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวเต็มไปด้วยผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ที่เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตะโกน ธนาธร สู้ๆ อย่างต่อเนื่อง.