วงการค้าข้าวเหนียวป่วน! แฉสนั่นกลโกงยี่ปั๊ว-ซาปั๊วเบี้ยวไม่รับซื้อข้าวราคาสูงยอมจ่ายชดเชยราคาแทน กลับไปซื้อข้าวใหม่ราคาถูกกว่า โรงสีขาดทุนยับ ซ้ำร้ายยังถูกหยงลอยแพไม่ดูแล แต่เสียค่ากำเหน็ดสุดช้ำใจ
แหล่งข่าววงการค้าข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลตั้งแต่ประมาณต้นเดือนตุลาคม ข้าวเหนียวเปลือกสด ความชื้น 30% ราคาอยู่ตันละ 1.5 หมื่นบาท-1.6 หมื่นบาท โรงสีก็ได้ทยอยขายมาเรื่อยๆ ณ วันที่ 13 พ.ย.นี้ ปรับลดราคาลงมาเหลือ 1 หมื่นบาท/ตัน เป็นราคาทิ้งดิ่งหัวทิ่มมา ก็เพราะโรงสีเจอเกมกลยี่ปั๊ว-ซาปั๊วส่วนใหญ่ขายแล้วไม่รับของ ชะลอการส่งมอบ แล้วก็อาศัยซื้อของใหม่ที่ราคาถูกกว่าแทน ส่วนของเก่าที่เคยซื้อไว้ที่กิโลกรัมละ 3- 4 หมื่นกว่าบาท นั้นไม่ให้โรงสีส่งทำให้ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง โรงสีไม่สามารถระบายออกได้ ส่งผลทำให้โรงสีขาดทุนกันระนาว
“ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว จะรับซื้อข้าวในกิโลกรัมละ 2.5 หมื่นบาท-2.8 หมื่นบาท/ตัน หากใครขายราคานี้ให้มาส่งได้ แต่ถ้าขายในราคาสูงไม่ให้ส่ง อย่างไรก็ดีเมื่อคำนวณเป็นข้าว 15% (แห้ง) ราคาข้าวก็ยังสูงกว่าราคาประกันรายได้ก็คือ ราคาก็อยู่ที่ 14,000 บาท”
แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นบางรายยอมจ่ายชดเชยเป็นเงิน แต่ไม่รับสินค้า ทำให้โรงสีรับภาระขาดทุน หากเป็นไปได้อยากให้กรมการค้าภายในควรเข้ามาดูแลตลาดการค้าข้าวภายในประเทศ เพราะมีการค้าขายไม่เป็นธรรม ต้องเข้ามาตรวจสอบและดูแลซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ส่วนผู้ประกอบการค้าข้าว หรือ "หยง" ที่ขายข้าวสารโรงสีให้กับยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ไม่ทำหน้าที่ที่ดี เพราะไม่ติดตามไม่ดูแลโรงสีที่เป็นลูกค้าให้ได้รับความเป็นธรรมในระบบค้าข้าวซึ่งโรงสีก็เสียค่ากำเหน็ด เป็นค่าบริการ ไม่ได้ทำหน้าที่นายหน้าอย่างแท้จริง และยี่ปั๊ว-ซาปั๊วบางรายก็มีหุ้นอยู่ในธุรกิจหยง จึงส่งผลทำให้เกิดปัญหาในประเทศมากมาย ซึ่งกำลังเกิดในธุรกิจค้าข้าวนี้ ในไม่ช้าคาดว่าจะกระทบกับชาวนาอย่างแน่นอน!!
