โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 16 แมนฯ ซิตี้ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด

TNN ช่อง16

อัพเดต 07 ธ.ค. 2562 เวลา 19.33 น. • เผยแพร่ 07 ธ.ค. 2562 เวลา 19.33 น. • TNN Thailand
ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 16 แมนฯ ซิตี้ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด ควง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำคนละประตู ช่วยให้ แมนฯยูฯ บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เก็บสามแต้มและเป็นชัยชนะเกมที่ 2 ติดกัน ทำให้“ปีศาจแดง” รั้งที่ 5 ของตาราง ด้าน “เรือใบสีฟ้า” มีคะแนนตามหลัง ลิเวอร์พูล 14 คะแนน

วันนี้ (8 ธ.ค. 62) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 16 ของฤดูกาล เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่สนาม "เอติฮัด สเตเดี้ยม" เป็นการพบกันของ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามเวลา 00.30 น.

นัดนี้เจ้าถิ่น "เรือใบสีฟ้า" ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง กาเบรียล เชซุซ มาเล่นกองหน้าร่วมกับ แบร์นาโด ซิลวา และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วน "ผีแดง" ที่ฟอร์มกลับมาแจ่ม ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงเป็นหน้าเป้า โดยมี ดาเนี่ยล เจมส์ , อองโตนี่ มาร์กซิยาล และ เจสซี่ ลินการ์ด เป็นตัวสนับสนุน

เริ่มเกมมาได้เพียง 2 นาที เป็นทางฝั่ง"ปีศาจแดง"ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เจสซี่ ลินการ์ด พลิบบอลกลางสนาม ก่อนจ่ายต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เลี้ยงไปริมเส้นด้านซ้าย แล้วแทงบอลต่อไปให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จ่ายบอลเข้ากลาง เฟร็ด จับบอลก่อนไหลต่อไปให้ ดาเนี่ยล เจมส์ ทางด้านขวา จับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงไปติดเซฟ เอแดร์ซอน

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 7 ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงบอลหลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจ่าเข้ากลางในกรอบ 6 หลา ดาบิด ซิลบา ได้ยิง บอลติดขากองหลังทีมเยือนไปถึง เควิน เดอ บรอยน์ ได้ยิงซ้ำแต่บอลหลุดออกนอกกรอบไป
หลังจากนั้นอีกเพียงนาทีเดียว มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลบอลทะลุช่องไปให้ เจสซี่ ลินการ์ด จับบอลก่อนตัดสินใจยิง แต่ เอแดร์ซอน ยังใช้ขาเซฟเอาไว้ได้ 
นาทีที่ 12 แบร์นาร์โด้ ซิลวาได้บอลหลุดมาด้านขวา ก่อนเปิดเข้ากลาง กาเบรียล เชซุสได้ยิงแต่บอลไปติดวิคตอร์ ลินเดเลิฟก่อนมาโดน แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร 
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 15 มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลทะลุข้ามไปถึง ดาเนี่ยล เจมส์ ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงเต็มข้อ แต่ เอแดร์ซอน
หลังจากนั้นอีก 4 นาที จากจังหวะสวนกลับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลก่อนเลี้ยงเข้าเขตโทษก่อนถูก แบร์นาร์โด้ ซิลวา เข้าสกัดล้มไป ผู้ตัดสิน ไม่ได้เป่าเป็นจุดโทษ ก่นอที่ VAR จะมาให้เป็นจุดโทษ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงเรียดไปด้านขวาของตัวเองเข้าไปให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกนำ แมนฯ ซิตี้ 1-0 
นาทีที่ 25 จากจังหวะสวนกลับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลก่อนไหลต่อไปให้ เฟร็ด หลุดไปด้านขวา ก่อนจ่ายคืนมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้จังหวะยิงแต่บอลหลุดเสาออกไป 
หลังจากนั้นเพียงนาทีเดียว แมนฯยูไนเต็ดได้จังหวะสวนกลับอีกครั้ง ก่อนเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลหน้าเขตโทษ ยิงบอลโค้งๆ ไปชนคาน 
ต่อมาในนาทีที่ 29 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จ่ายบอลให้ ดาเนี่ยล เจมส์ ก่อนเป็น ดาเนี่ยล เจมส์ จ่ายกลับมาให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงในเขตโทษบอลเช็ดเสาเข้าไปให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกนำ แมนฯ ซิตี้ 2-0 
นาทีที่ 34 ดาบิด ซิลบา ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา
หลังจากนั้นอีก 4 นาที เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ได้เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ และเป็น กาเบรียล เชซุส หลุดขึ้นไปโหม่ง บอลหลุดเสาไปแบบได้ลุ้น 
นาทีที่ 40 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ และเป็น เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ยิง บอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น 
นาทีที่ 43 แบร์นาร์โด้ ซิลวา รับหน้าที่ยิงฟรีคิก บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ ดาบิด เด เคอา รับเอาไว้ได้ 
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด บุกนำ แมนฯ ซิตี้ 2-0
เริ่มครึ่งหลังมา ได้ 3 นาที เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นเดินหน้าบุก แองเจลิโน่ ได้บอลและเหมือนโดน แอรอน วาน-บิสซาก้า สกัด แต่บอลไปเข้าทาง ดาบิด ซิลบา เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ พยายามกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลหลุดเสาออกไป 
นาทีที่ 55 จากจังหวะที่ เฟร็ด ถูกตัดบอลได้หน้าเขตก่อนเป็น โรดรี้ ได้บอลแล้วจ่ายต่อไปให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้หลุดเข้าเขตโทษยิงไปแฉลบ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ออกหลังไป
นาทีที่ 59 นิโกลัส โอตาเมนดี้ ถูกส่งลงสนามแทนที่ จอห์น สโตนส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ 
นาทีที่ 65 แองเจลิโน่ ได้หลุดไปด้านซ้าย ก่อนจ่ายมาหน้าเขตโทษ เควิน เดอ บรอยน์ แตะบอลต่อไปให้ โรดรี้ ได้ยิงแต่ ดาบิด เด เคอา ยังปัดข้ามคานไปได้ ก่อนที่ต่อมา เจ้าถิ่นจะส่ง ริยาด มาห์เรซ ลงสนามแทนที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ต่อมาในนาทีที่ 66 แองเจลิโน่ ล้มสกัดบอลไม่ดี ดาเนี่ยล เจมส์ ได้บอลเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจ่ายบอลต่อไปให้ เจสซี่ ลินการ์ด ยิงไปติดเซฟ เอแดร์ซอน
นาทีที่ 74 อันเดรส เปเรย์ร่า ถูกส่งลงสนามแทนที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลังจากนั้นอีก 2 นาที เจ้าถิ่นได้จังหวะบุกและเป็น แองเจลิโน่ ได้ยิงแต่บอลติดวาน-บิสซาก้า ออกหลังไป 
นาทีที่ 83 อันเดรส เปเรย์ร่า ได้เปิดบอลเข้าเขตโทษ และเป็น เจสซี่ ลินการ์ด พยายามยิงแต่ไม่เต็มเท้า บอลเข้ามือ เอแดร์ซอน
จากจังหวะเตะมุมนาทีที่ 85 ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลเข้ามาและเป็น นิโกลัส โอตาเมนดี้ โหม่งเข้าประตูไปให้ แมนฯ ซิตี้ ไล่ตาม แมนฯยูไนเต็ด 1-2
ก่อนที่ในนาทีที่ 86 ริยาด มาห์เรซ จะได้บอลทางด้านขวาแล้วตัดสินใจยิงด้วยซ้ายแต่ ดาบิด เด เคอา เซฟเอาไว้ได้ 
นาทีที่ 88 ทีมเยือนแก้เกมส่ง แอชลี่ย์ ยัง ลงสนามแทนที่ ลุค ชอว์ และ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ลงสนามแทนที่ เจสซี่ ลินการ์ด
นาทีที่ 90+1 ดาเนี่ยล เจมส์ เลี้ยงบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ อันเดรส เปเรย์ร่า ได้จังหวะยิงบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นออกไป
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯยูฯ บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เก็บสามแต้มและเป็นชัยชนะเกมที่ 2 ติดกัน ทำให้"ปีศาจแดง" รั้งที่ 5 ของตาราง ด้าน "เรือใบสีฟ้า" มีคะแนนตามหลัง ลิเวอร์พูล 14 คะแนน

รายชื่อ 11 คนแรกที่ลงสนามเป็นตัวจริง

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฟร์นานดินโญ่, แองเจลิโน่ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, ดาบิด ซิลบา - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกว์, ลุค ชอว์ - เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - ดาเนี่ยล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล - มาร์คัส แรชฟอร์ด

ชมไฮไลท์ > https://www.youtube.com/watch?v=AX0dw5oc9Cw&feature=youtu.be

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0