ยังคงเป็นที่พูดถึงเรื่องความเหมาะสมในโชว์ของคอนเสิร์ตของ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ที่ผ่านมา หลังมีซีนที่ดูใกล้ชิดแบบแนบแน่นกับสาว "ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์" ค่อนข้างไปในทางวาบหวิวจนโดนกระแสโซเชียลวิจารณ์ค่อนข้างมาก ล่าสุดเจอ "พี่ฉอด สายทิพย์" เลยสอบถามถึงกระแสดังกล่าวได้ความว่า
คอนเสิร์ตณเดชน์มีกระแสรุนแรงทีเดียว ต้องบอกก่อนว่า หลายคนบอกว่ามีแต่กระแสด้านลบ แต่ต้องบอกว่ากระแสด้านบวกก็มี แล้วมีเยอะมาก พี่เป็นคนเช็คฟีดแบคทุกๆงานที่เราทำอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ได้เช็คทั้งทางบวกและทางลบ ทางบวกก็จะเป็นแฟนคลับของน้องทั้งสองคน เขาก็มีความสุขในสิ่งที่เกิดขึ้น อีกอันนึงก็จะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับเขาโดยตรง ก็มาบอกว่าจากนี้จะเป็นแฟนคลับน้องแล้ว เพราะปลื้มใจมากกับสิ่งที่เขาได้เห็นความสามารถของน้องทั้งสองคน ที่น่าแปลกใจก็คือ มีคนดูอายุหลากหลายมาก ขนาดอายุ 80 ก็มา ได้คุยกับเขาก็บอกว่าปลื้ม ส่วนกระแสในทางลบก็มีเยอะ ซึ่งก็มีคนที่จิตใจดีที่มาแสดงความคิดเห็น เราก็ยินดีและน้อมรับ แล้วก็จะมีประเภทที่เข้ามาด่าทอ แต่พี่ก็จะไม่รับฟีดแบคของการพูดจาหยาบคาย อันหนึ่งที่อยากจะอธิบายต่อจากที่น้องญาญ่าพูดวันนั้น ทั้งหมดมันคือโชว์ คนที่เป็นกระแสทางลบ คือไม่ได้เป็นคนไปดูโชว์ แต่เห็นจากภาพที่แคปมา อาจจะเป็นภาพนิ่งหรือวีดีโอ เขาจะถ่ายแต่ตัวน้อง แต่จริงๆซีนนี้ใหญ่มาก คนที่อยู่ในซีนนี้ยังร้องไห้อยู่เลย ว่าไม่มีใครสนใจเลย และยังเป็นซีนที่ยากมาก เอาจริงๆนะ คนที่แสดงหรือคนที่ดู ไม่มีใครคิดอกุศลจิตได้หรอกค่ะ
พี่ฉอดได้คุยกับทั้งสองถึงเรื่องนี้หรือยัง?
คุยค่ะ ไปทานข้าวกัน พี่ว่าน้อง 2 คนเขาแข็งแรงนะคะ หมายถึงความตั้งใจในการทำงาน เราไม่มีความตั้งใจในแง่ไม่ดีเลย ไม่ว่าจะเป็นซีนนี้หรือตลอดทั้งโชว์ก็ตาม น้องสองคนและพี่มั่นใจในความตั้งใจดีในการทำงาน
ตอนคิดโชว์ มีเตรียมใจรับฟีดแบคนี้บ้างไหม?
เราไม่ได้จะโฟกัสตรงนั้น เวลาคิดงานคือคิดทั้งโชว์ ไม่ได้คิดว่าตรงไหนคืออะไร ทั้งหมดคือความตั้งใจในการทำงานให้ทุกคนมีความสุขที่สุด
พอมีกระแสลบออกมาทำให้เรานอยด์ไหม?
ไม่ค่ะ เราน้อมรับในฟีดแบคทุกอย่าง แต่มันมี 2 กระแส ไม่ใช่ลบทั้งหมด กระแสบวกก็มีมหาศาล ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ก็ขอบคุณความคิดเห็นในหลายรูปแบบ เราเชื่อว่ามันคือความปรารถนาดี ที่มีต่อตัวน้องและตัวพี่ด้วย ไม่นอยด์เพราะเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่
จากนี้จะกล้าคิดโชว์แบบนี้อีกไหม?
มันก็ต้องคิด แต่ไม่ใช่แบบนี้ทุกโชว์ สมมติคอนเสิร์ตพี่เจ พี่ก็คงไม่ได้คิดซีนแบบนี้ ขึ้นกับตัวศิลปินว่าเหมาะจะโชว์แบบไหน
น้องมีมาปรึกษาเรื่องห่วงภาพลักษณ์ของเขาสองคนบ้างไหม?
ไม่มีค่ะ พี่เองต่างหากที่เป็นห่วง แต่น้องสองคนบอกไม่เป็นไรเข้าใจทุกอย่าง น้องพูดมาคำนึงว่า ถ้าไม่อยากจะทำเอง ก็ไม่มีใครบังคับได้ น้องมีความตั้งใจดีในทุกเรื่อง จากที่ทำงานด้วยกันสั้นๆทำให้รู้ว่าความดีของพวกเขา จึงไม่มีใครทำอะไรเขาได้ คือถ้าเราไม่มีเจตนาไม่ดี เราก็จะไม่รู้สึกอะไร
หลายคนบอกแฟนคลับก็เป็นเยาวชน?
ในแง่ที่เราจะปิดกั้นอะไรให้เด็กดู เอาง่ายๆอย่างหนังแอดเวนเจอร์ เราไม่กลัวหรอว่าเด็กดูแล้วจะออกมาตีลังกา ฆ่าฟันกัน หรือแม้กระทั่งเปิดทีวีดูอยู่ตอนนี้ ข่าวมีทั้งฆ่ากัน ข่มขืน ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของความเป็นจริง เราควรทำยังไงก็ได้ให้เขาเรียนรู้และเติบโต ดีกว่ามานั่งปิดตา แล้วพี่เชื่อว่าซีนในคอนเสิร์ตแค่นี้ไม่ได้ทำให้เกิดอะไรขึ้นอย่างที่ว่ากัน
