โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไม่น่าเชื่อ ! 5 วิธีคลายเครียดแบบได้ผลทันใจ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้

LINE TODAY

เผยแพร่ 26 ส.ค. 2562 เวลา 06.40 น.

ความเครียดเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ บางคนเครียดโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเครียด รู้ตัวอีกทีก็เมื่อสภาพร่างกายฟ้องว่ากำลังเข้าสู่ภาวะเครียดสะสมเข้าให้แล้ว

วิธีคลาดเครียดจึงเป็น How to ที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น บางอย่างใช้ได้ แต่บางอย่างก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ยกตัวอย่างเช่น เครียดเมื่อไหร่ให้กินของหวานแล้วจะหายเครียด ซึ่งวิธีก็ได้ผล แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และมีโอกาสที่โรคอื่นจะถามหาได้ง่ายด้วย แม้จะมีงานวิจัยรองรับว่าอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตจำพวกแป้งและน้ำตาล มีผลทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริง แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่แพทย์หรือนักโภชนการแนะนำอยู่ดี

หรือจะเป็นวิธีแก้เครียดอย่างการหายใจเข้า หายออก ยิ่งทำ ยิ่งพาลให้เครียดหนักขึ้น ทำอะไรไม่ถูก มือสั่น ตัวสั่น ซึ่งการแก้เครียดด้วยการหายใจเข้าออก แม้จะได้ผล แต่ก็ยังทันใจเท่า 5 วิธีต่อไปนี้ บอกเลยว่าทำแล้ว หายเครียดในบัดดล

1. เลิกคิด

ความเครียดส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราคิดวนเวียนไปมาอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้เราเลิกเครียดได้ก็คือ การเลิกคิด แต่อยู่ดี ๆ จะให้เลิกคิดไปเลยคงทำได้ยาก ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีหันเหความสนใจหรือพุ่งสมาธิไปที่สิ่งอื่นแทน เพื่อให้เลิกคิดเรื่องเดิม ๆ ที่ทำให้เครียดไปซะ

การหันเหความสนใจนี้จะต้องหันไปหากิจกรรมหรืออะไรที่เราชอบเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางหันเหความสนใจได้ผล เช่น เป็นคนชอบฟังเพลง ถ้าเครียดจนเลิกคิดไม่ได้ ก็ให้เปิดเพลงที่ชอบฟัง ร้องตามหรืออะไรก็ว่าไป วิธีนี้จะทำให้หายเครียดไปได้ทันที

2. ออกกำลังกาย

หลายงานวิจัยระบุว่าการออกแรงซักเล็กน้อยส่งผลต่อการลดอารมณ์ทางด้านลบ และเพิ่มอารมณ์ด้านบวกให้มากขึ้น ยิ่งมีการวางแผนให้เหมาะสมก็จะยิ่งได้ผลมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะการได้ออกกำลังกายแม้จะเป็นเพียงแค่ออกแรงนิดหน่อยก็ช่วยให้ร่างกายคลายจากความตึงเครียดไปได้มาก

เพราะเมื่อไรก็ตามที่รู้สึกเครียด เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง แต่ในทางตรงกันข้ามการออกแรง ออกกำลังทำให้ร่างกายได้ขยับ ได้หลุดพ้นจากโฟกัสในแง่ลบของตัวเอง ทำให้ความตึงเครียดที่มีอยู่ลดน้อยลง ที่สำคัญในระหว่างออกกำลัง ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งการหอบ การหายใจ ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ส่งผลต่อสภาพจิตใจโดยอัตโนมัติด้วย

3. นวดผ่อนคลาย

ความเครียดมักส่งผลโดยตรงกับร่างกาย ทำให้เกิดกล้ามเนื้อตึง ปวดหัว ปวดต้นคอ ปวดตามร่างกายได้ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการคลายเครียดก็คือการนวดเพื่อผ่อนคลาย ซึ่งนอกจากจะทำให้อาการปวดตึงต่าง ๆ หายไปแล้ว ยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เหมือนเป็นการรีเฟชรร่างกายให้รู้สึกดีขึ้นด้วย

การนวดผ่อนคลายนี้สามารถนวดด้วยตัวเองหรือให้ผู้เชี่ยวชาญนวดก็ได้ โดยบริเวณที่เน้นเป็นพิเศษสำหรับการนวดผ่อนคลายก็คือ จุดกลางระหว่างคิ้ว จุดใต้หัวคิ้ว จุดขอบกระดูกท้ายทอย ต้นคอ และบ่า เนื่องจากบริเวณเหล่านี้เป็นศูนย์รวมกล้ามเนื้อ เมื่อเครียดก็จะตึง ดังนั้นการนวดเพื่อให้จุดดังกล่าวได้ผ่อนคลาย จึงเป็นการขจัดความเครียดได้ดีทางหนึ่ง

4. ตั้งสติ

‘สติ’ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกเรื่อง แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน และไม่เคยรู้เลยว่าการมีสติสามารถหยุดความเครียดได้ เพราะสติคือความรู้สึกตัว ความนึกขึ้นได้ หากไม่มีสติก็แปลว่าเราไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ในกรณีนี้ก็คือเมื่อเกิดความเครียดก็จะปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งอยู่ในสภาวะเครียดต่อไป โดยไม่รู้จักใช้สติฉุดตัวเองออกมา

นอกจากการตั้งสติแล้ว สมาธิก็สำคัญ การทำสมาธิก็สามารถคลายเครียดได้ด้วยเช่นกัน เพราะเพียงแค่เพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ลมหายใจ วัตถุ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วจะเกิดความสงบ หยุดความคิดได้ และเมื่อสมาธิถูกพัฒนาให้ลึกขึ้นไป จิตใจก็จะเอาชนะความทุกข์ และความเครียดออกไปได้

5. นอนซะ

แม้ความเครียดจะทำให้นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท แต่รู้หรือไม่..การนอนเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

คนที่มีความเครียดจะนอนหลับยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหลับไม่ได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลัว วิตกกังวล ถูกบีบคั้น ทางออกที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดก็คือ การหนีไปนอนซะ ช่วงแรกอาจหลับยากหลับเย็น คิดโน่นนี่วนเวียนอยู่นั่นแหละ แต่เอาเข้าจริงร่างกายจะปรับตัวได้เอง ยิ่งถ้านอนสมาธิควบคู่ไปด้วย รับรองหลับง่ายขึ้น แถมตื่นมาหายเครียดอีกต่างหาก

5 วิธีนี้เป็นวิธีคลายเครียดที่ง่ายและได้ผลเร็ว แถมยังไม่มีผลเสียต่อร่างกายอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ตามแม้จะมีวิธีไล่เครียดที่ได้ผล แต่การไม่ทำให้ตัวเองเข้าสู่ความเครียดเลยน่าจะเป็นทางที่ดีกว่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0