โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไขข้อข้องใจ ‘พ.ร.ก.กู้เงิน’ 1 ล้านล้าน กู้แล้วไปไหน ประชาชนต้องรับหนี้ด้วยไหม?

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 27 พ.ค. 2563 เวลา 10.38 น. • เผยแพร่ 27 พ.ค. 2563 เวลา 10.15 น.

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 27 พฤษภาคม2563 มีการพิจารณาวาระเรื่องสำคัญของพ.ร.ก.เยียวยาผลกระทบจากCOVID-19 ทั้งหมด3 ฉบับวงเงิน1.9 ล้านล้านบาท ประกอบไปด้วย พ.ร.ก. 3 ฉบับ ได้แก่

1. พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจวงเงิน1 ล้านล้านบาท
2. พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยออกSoft Loan เพื่อดูแลภาคธุรกิจโดยเฉพาะSMEs วงเงิน5 แสนล้านบาท
3. พ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพภาคการเงินวงเงิน4 แสนล้านบาท

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 

“กรุงเทพธุรกิจ” พาไปไขข้อข้องใจกรณี"พ.ร.ก.กู้เงินวงเงิน1 ล้านล้านบาท" ที่รัฐบาลจะกู้ยืมจากหลายเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งหลายคนแสดงความกังวลว่า เงินกู้เหล่านี้จะกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งของประชาชนในระยะยาวหลังจากการช่วยเหลือเยียวยาจบลง เพราะการกู้เงินของรัฐบาล คือการกู้เงินของประเทศ ที่จะเป็น "หนี้สาธารณะ" ซึ่งเท่ากับว่าเป็นหนี้ของทุกคนในชาติ

  •  รัฐกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาจากไหน? 

รัฐบาลมีเครื่องมือในการกู้เงินทั้งเครื่องมือระยะยาว เช่น การขายพันธบัตร ตั้งแต่อายุ 5-50 ปีให้นักลงทุนสถาบัน การขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชน การกู้จากองค์การระหว่างประเทศหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และเครื่องมือระยะสั้น เช่น การออกตั๋วเงินคลัง การกู้เงินผ่านสถาบันการเงินในรูป PN หรือ Term loan ซึ่งภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนี้ ก็จะกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเป็นการเฉพาะ

  •  หนี้สาธารณะ เกี่ยวกับประชาชนอย่างไร 

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ให้ความหมายของ “หนี้สาธารณะ” หมายถึง การกู้ยืมเงินของรัฐบาลเมื่อรัฐบาลมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายจึงจําเป็นต้องกู้เงินมาใช้จ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลของประเทศกําลังพัฒนาแต่เดิมเรามักมีความรู้สึกเกี่ยวกับการก่อหนี้ยืมสินไปในทางที่ไม่ดีครัวเรือนใดมีหนี้สินล้นพ้นตัวแสดงว่าฐานะการเงินไม่ดีสังคมอาจไม่ยอมรับนับถือ ประเทศใดมีหนี้สินอยู่มากแสดงว่าฐานะทางเศรษฐกิจไม่มั่นคงและอาจจะล้มละลายได้

ปัจจุบัน แนวความคิดเหล่านี้เริ่มเปลี่ยนไปผู้ที่ดําเนินธุรกิจเพียงเท่าที่มีทุนธุรกิจอาจไม่เจริญก้าวหน้าแต่ถ้ากู้เงินธนาคารมาลงทุนขยายกิจการตามโครงการอย่างรอบคอบแล้วกิจการก็อาจจะเจริญก้าวหน้าจนสามารถชําระหนี้คืนและขยายกิจการให้กว้างขวางยิ่งขึ้นประเทศชาติก็ทํานองเดียวกันรัฐบาลอาจมีความจําเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อพัฒนาประเทศลงทุนสร้างถนนหนทางไฟฟ้าประปาและพลังงานต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนขยายการลงทุนในกิจการต่างๆทําให้ประชาชนมีงานทํามีรายได้สูงขึ้นเมื่อรายได้ประชาชาติเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีเงินได้จากประชาชนเพิ่มขึ้นเพื่อชําระหนี้คืน

รัฐบาลของประเทศต่างๆทั้งที่พัฒนาแล้วและกําลังพัฒนาต่างก็มีหนี้สาธารณะอยู่เป็นจํานวนไม่น้อยหนี้สาธารณะนี้เราจะมองได้ทั้ง2 ด้านคือเมื่อรัฐบาลยืมเงินเข้ามาก็จัดเป็นรายรับของรัฐบาลทางหนึ่งและเมื่อหนี้ถึงกําหนดชําระรัฐบาลก็ต้องตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายเพื่อชําระหนี้การก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลจึงมีผลต่อเศรษฐกิจส่วนรวมของประเทศ

  •  สถานะหนี้สาธารณะของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร หลังกู้เงิน 1 ล้านล้าน 

สถานะหนี้สาธารณะคงค้างณวันที่31 มีนาคม2563 ของประเทศไทย มีจํานวน7,018,731.44 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ41.28 ของGDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล5,807,898.90 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจ887,573.08 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่ทําธุรกิจในภาคการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 315,231.04 ล้านบาทและหนี้หน่วยงานของรัฐ8,028.42 ล้านบาท 

159057277878
159057277878

หากถามว่า เมื่อกู้ครบ1 ล้านล้านบาทแล้วสภาวะหนี้ของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไป แพตริเซียมงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเกี่ยวกับพ.ร.ก.กู้เงินของรัฐบาลในครั้งนี้ไว้ว่า

จากการประมาณการ หากต้องกู้เงินครบ1 ล้านล้านบาทภายใน30 กันยายน2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถกู้ได้ตามพ.ร.ก. ฉบับนี้คาดว่าหนี้สาธารณะของไทย ณ 30 กันยายน 2564 จะอยู่ที่ 57.96% ของ GDP ซึ่งยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ประกาศกำหนด Debt/GDP ไว้ที่ 60%

อย่างไรก็ดีDebt/GDP ที่ระดับ60% นี้เป็นระดับหนี้พึงมีในสภาวการณ์เศรษฐกิจที่ปกติแต่ในสภาวการณ์ที่ไม่ปกติหากมีความจำเป็นต้องมีเงินเพื่อดูแลประชาชนและเศรษฐกิจเพื่อให้เดินต่อไปได้และสามารถกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วและอาจทำให้หนี้สาธารณะเกินระดับ60% ไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่โลกจะถล่มประเทศจะทลายซึ่งเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเจริญเติบโตสัดส่วนดังกล่าวก็จะกลับมาอยู่ในภาวะปกติ

สมัยวิกฤติต้มยำกุ้งเป็นช่วงที่หนี้สาธารณะสูงที่สุดคือ59.9% และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นประกอบกับการมีวินัยในเรื่องหนี้ที่ดีทำให้ในปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ในระดับเพียง41.4% ของGDP

  •  1 ล้านล้าน เมื่อไหร่จะใช้หมด? 

อายุเฉลี่ยของหนี้สาธารณะในปัจจุบันอยู่ที่ 10 ปีกว่าๆ โดยหนี้ที่อายุยาวที่สุดคืออายุ 50 ปี ทั้งนี้ในการชำระหนี้รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไว้ในงบประมาณทุกปีซึ่งจากการศึกษาพบว่าอัตราการชำระหนี้ที่เหมาะสมในแต่ละปีควรจะจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำกว่า3% ของงบประมาณทั้งหมดเพื่อใช้ในการชำระเงินต้น

ดังนั้นการจะตอบว่าประเทศไทยจะชำระหนี้ก้อนนี้หมดเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยคงไม่สามารถตอบเป็นจำนวนปีที่ชัดเจนได้อย่างไรก็ดีหากเศรษฐกิจดีประเทศไทยจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้นและได้รับการจัดสรรงบชำระหนี้อย่างเหมาะสมจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ชำระหนี้ก้อนนี้ให้หมดได้เร็วขึ้น

การที่อายุเฉลี่ยของหนี้สาธารณะอยู่ที่ 10-50 ปี กลายเป็นจุดที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาตั้งข้อสังเกต โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินจำนวน 3 ฉบับว่า อาจกลายเป็น "พ.ร.ก.เราจะเป็นหนี้ด้วยกัน 2020" ซึ่งหมายความว่า หนี้เหล่านี้คือหนี้ของประชาชนในระยะยาว เนื่องจากจะมีการนำภาษีของประชาชนในประเทศไปใช้ในการชำระหนี้ส่วนหนึ่ง ตามข้อมูลที่ปรากฏในข้อมูลจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ว่า รัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีเงินได้จากประชาชนเพิ่มขึ้นเพื่อชําระหนี้คืนได้

อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับการบริการจัดการเงินของรัฐบาลในปัจจุบันและอนาคต ที่ต้องติดตามว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0