โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

"ใบเตย" ไม่ไหวจะเคลียร์ โดนทุกดอก เอี่ยวทุกคดี ฟอเร็กซ์-ทรีดี, ยูฟัน, เมจิกสกิน รอบนี้ขู่ฟ้อง!

Manager Online

เผยแพร่ 19 พ.ย. 2562 เวลา 13.18 น. • MGR Online

"ดีเจแมน" สบายใจ ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ โชว์เส้นทางการเงิน ตรวจสอบได้ไม่ใช่หุ้นส่วน รับลงเงิน 1 ล้านได้กำไรเกือบล้าน ชวนแม่มาเล่นด้วยแค่คนเดียวเท่านั้น ย้ำสินสอด 45 ล้านรวมทรัพย์สิน ห่วงแม่นอนไม่หลับ พ่อเครียด ลบข่าวได้ขอให้ลบ ห่วงลูกเห็นในอนาคต "ใบเตย" งงทำไมมาอยู่จุดนี้ เจอมาหมดทุกคดี ทั้งยูฟัน - เมจิกสกิน ฉุนบางสื่อใส่สีตีไข่เกินจริง เตรียมปรึกษาทนาย

หลังจากที่เข้ามาให้ปากคำที่ดีเอสไอเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีถูกโยงเอี่ยวแชร์ลูกโซ่ "ฟอเร็กซ์ - ทรีดี" ที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ยอดเงินหลักหมื่นล้านบาท "ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา" และ "ใบเตย อาร์สยาม" สุธีวัน ทวีสิน ภรรยา ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน พร้อม "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" โดยยืนยันว่าตนก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ไม่ได้เป็นหุ้นส่วน ขณะที่ใบเตยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ สนิทกับ "นายอภิรักษ์ โกฎธิ" ซีอีโอเจ้าของเครือข่าย ฟอเร็กซ์ - ทรีดี เพราะมิตรภาพ และเกิดขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะเติบโต

ดีเจแมน : "ก็เหมือนกับที่เจ้าหน้าที่ถามนั่นแหละครับ แต่มันจะละเอียดอ่อนกว่านิดหนึ่ง เพราะมันจะมีทั้งผู้เสียหายและผู้ลงทุน ถามว่าเรานำข้อมูลอะไรมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อทำให้เขาเชื่อมั่นว่าเราไม่ใช่หุ้นส่วน ไม่ยากเลยครับเพราะเราเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาพูด ไม่ว่าจะเป็นสเตทเมนต์ และเส้นทางการเงินของผมทั้งหมด ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ วันนี้ก็เลยนำมาให้เจ้าหน้าที่เขาดู”

"วันนี้ก็สบายใจมากครับ เพราะเราก็เข้ามาพูดความจริง ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมามีอะไรบ้าง เป็นมาอย่างไรบ้าง เราก็ได้อธิบายกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด"

เผยจุดเริ่มต้นรู้จักซีอีโอเพราะพระเครื่อง

ดีเจแมน : "เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วครับ เริ่มตั้งแต่พระเครื่องที่เขานำมามอบให้ผมสมัยที่ผมเป็นดีเจ อันนี้คือจุดเริ่มต้นที่เรารู้จักกันเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องลงทุนกับเขาไม่มีแน่นอนครับ (หมายความว่าธุรกิจอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำร่วมกันใช่ไหม?) มีบางตัวที่ภาพออกไปครับ แต่เราก็ไม่ได้ทำ จะเป็นก็แค่เหมือนกับพรีเซ็นเตอร์ในลักษณะของตัวยาถังเช่า และก็ไปถ่ายโฆษณาให้กับคุณแม่ ซึ่งนานแล้ว มันก็เลยมีภาพย้อนหลังกลับมาอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน"

แจงภาพนั่งประชุมคุยกันเรื่องถังเช่าเท่านั้น แถมยังเป็นพรีเซ็นตอรให้ ไม่ใช่หุ้นส่วน

ดีเจแมน : "อันนั้นเราไปคุยกันเรื่องถังเช่าครับ ข้างล่างผมก็จะเขียนอยู่แล้วว่ายาดี และวันนั้นผมก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เพราะวันที่เขาชวนไปหากสังเกตดูทุกคนจะใส่สูทกันหมด ส่วนผมก็จะใส่แค่เสื้อยืดนั่งคุยกันเรื่องถังเช่า สุดท้ายแล้วผมก็บอกเขาว่า ผมต้องถ่ายละคร ดังนั้นทำอย่างอื่นดีกว่า ไม่ไหว เดี๋ยวเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ จะให้ช่วยอะไรถ่ายเกี่ยวกับยาให้ ก็เลยไปทำกับคุณแม่ครับ ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องแชร์ใดๆ ไม่มีแน่นอนครับ"

"ก่อนไปประชุม เบื้องหลังเชิงลึกไม่รู้มากครับ แต่แค่ต้องการเด็กที่เก่งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อเข้ามาช่วยทำเกี่ยวกับเว็บไซต์ เกี่ยวกับการขายในสื่อโซเชียลอะไรประมาณนั้น"

อุบตอบเริ่มต้นลงทุนกับ FOREX-3D ได้อย่างไร บอกให้เป็นข้อมูลกับดีเอสไอดีกว่า

ดีเจแมน : "เรื่องนี้มันค่อนข้างเป็นข้อมูลเชิงลึก ผมขอให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก่อนดีกว่า เนื่องจากว่ามันมีผลต่อรูปคดี"

ทนายเจมส์ : "ถ้าถามว่าลงทุนมากี่ปี เริ่มลงทุนเมื่อตอนปี 2016"

ดีเจแมน : "มันไม่ใช่การลงทุนทีเดียวนะครับ มันเป็นการค่อยๆ ใส่เข้าไปเรื่อยๆ เราก็อยู่ในระดับแพลตตินัมครับ"

เงินตัวเองค้างอยู่ 1 ล้าน ถอนมาไม่ได้เหมือนทุกคน

ดีเจแมน : "ทุนผมตอนนี้ยังถอนออกมาไม่ได้ครับ เหมือนกับที่ทุกคนที่ยังถอนออกมาไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งทุนของผมก็อยู่ในนั้นจำนวน 1 ล้านบาท ถามว่าเราได้อะไรกลับมาไหม ในช่วง 2-3 ปีแรก ยังได้ดอกเบี้ยอยู่ ยังได้มา"

ถูกอีกฝ่ายชักชวน ไม่ตอบด้วยเงื่อนไขอะไร ขอให้เป็นข้อมูลกับดีเอสไอ

ดีเจแมน : "เขาชักชวนครับ แต่ถามว่าด้วยเงื่อนไขอะไร อันนี้ผมขอให้ข้อมูลกับทางดีเอสไอก่อนได้ไหมครับ ผมอยากให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ให้เคลียร์ก่อนแล้วค่อยออกมาตอบอีกทีหนึ่ง เรื่องผลตอบแทนก็เท่ากับทุกคนที่ลงทุนนั่นแหละครับ ว่ามันจะได้เปอร์เซ็นต์แบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเปอร์เซ็นต์แรกๆ มันก็จะต้องเป็นก่อนแพลตตินัม ก็คือเหมือนกับคนปกติ หรือที่เรียกว่าบรอนซ์"

ลงทุนก้อนแรก 1 แสน เห็นว่าได้ผลตอบแทน เลยลงเรื่อยๆ

ดีเจแมน : "จำนวน 1 แสนบาท เราลงทุนเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ามันได้ผลตอบแทนครับ มันได้จริงๆ มันได้ผลตอบแทน ผมก็เลยลงทุน ถามว่า 1 แสน ได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ในครั้งแรก ผมไม่ได้สนใจพอร์ตเลยประมาณ 4-5 เดือน จนกระทั่งผมเข้าไปดูว่าเงินมันเข้ามาจริงๆ และพอลองถอนมันก็ถอนได้จริงๆ ผมเป็นคนเล่นเองครับ"

ใบเตยไม่ได้เกี่ยวข้อง รู้จักซีอีโอแค่มิตรภาพ

ใบเตย : "ใบเตยไม่ได้เล่นเลยค่ะ ไม่ได้เป็นทั้งผู้ลงทุน และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ สิ่งที่ได้รู้จักกับ CEO FOREX-3D ก็คือในฐานะมิตรภาพเท่านั้นค่ะ"

ดีเจแมน : "ผมเล่น FOREX-3D ก่อนที่จะแต่งงานครับ”

ไม่กังวลอะไรแล้ว สบายใจ

ดีเจแมน : "ไม่มีเลย สบายใจมากครับ และผมเองก็อยากจะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในเชิงลึกทั้งหมดก่อน ว่ามันมีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร เพื่อที่ทุกอย่างมันจะได้เคลียร์"

ใบเตย : "คืออย่างพี่แมนกับใบเตย พี่แมนเขาก็คือผู้ลงทุนเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ ณ วันนี้ได้เข้ามาแจ้งกับดีเอสไอว่าไม่ได้ผลตอบแทนอย่างไร พี่แมนก็เหมือนกัน"

ลั่นสนิทซีอีโอ แต่ไม่รู้ข้อมูลเชิงลึกว่าทำอะไรมาก่อน ออกมาชี้แจงช้าเพราะไม่อยากกระทืบซ้ำตอนที่ล้ม

ดีเจแมน : "ต้องแยกแยะนะครับ คือความสนิท ผมสนิท แต่ผมไม่สามารถรู้เชิงลึกได้ทุกอย่างว่าเขาไปทำอะไรอย่างที่เป็นข่าวทุกวันนี้ และการที่ผมออกมาชี้แจงช้า ก็เป็นเพราะผมต้องใช้เวลาในการเรียบเรียงข้อมูล อีกอย่างคือผมมีเพื่อนหลายกลุ่มมาก ซึ่งการที่คนๆ หนึ่งโดนกล่าวหาว่าทำอะไรผิด ผมที่ไม่ได้รีบออกมาก็คือผมคิดในใจว่ าเราไม่จำเป็นต้องกระทืบเขาซ้ำในตอนที่เขาล้ม เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว"

ไม่รู้ตัวเองทำให้ FOREX-3D ดูน่าเชื่อถือขึ้น ใบเตยย้ำเริ่มต้นด้วยมิตรภาพ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเติบโต แต่ไม่รู้ซีอีโอเข้ามาหาตนและดีเจแมนด้วยจุดประสงค์อะไร

ดีเจแมน : "อันนี้ผมก็ต้องมาคิดอีกที เพราะผมเองก็ไม่ทราบว่าผมมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน"

ใบเตย : "คือในมุมเรา เราเริ่มต้นด้วยคำว่ามิตรภาพ แต่ในมุมเขาเราไม่เคยทราบเรื่องตรงนี้จากเขาเลยว่าวันที่เขามาเจอเราหรือมาให้ความสนิมสนมเป็นเพื่อนกับเรา ในมุมเขา เขาคิดแบบไหน แต่ในมุมเรามันคือคำว่ามิตรภาพค่ะ และมิตรภาพนั้นมันก็เกิดก่อนที่เขาจะเติบโตอย่างที่เห็นทุกวันนี้เยอะเลยค่ะ"

แจงเหตุไม่สนิท แต่กล้าลงทุนเยอะ เพราะได้ผลตอบแทนจริง ชวนแม่มาเล่นด้วยแค่คนเดียว

ดีเจแมน : "ไม่สูงนะ คือผมค่อยๆ เริ่มจาก 1 แสนบาท และใช้เงินของตัวเองลงไปอีกครั้งละ 1 แสน อันนี้สำหรับผมนะ จากนั้นก็มีการไปขอคุณแม่มาอีก เพราะมันได้ผลตอบแทนจริงๆ ก็เลยชวนคุณแม่มาด้วย มีคุณแม่เพียงคนเดียวที่ผมชวน จากนั้นก็ลงมาเรื่อยๆ เงินก้อนใหญ่ที่ได้คือมันไม่ได้ได้มานานแล้ว แต่มันเพิ่งมาได้ในช่วงหลังๆ อย่างเช่น 1 ล้านบาท เราก็จะได้แล้ว 7-8 หมื่นบาท อะไรประมาณนั้นต่อเดือน"

ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ เริ่มมีปัญหาพร้อมทุกคน

ดีเจแมน : "ตอนแรกไม่มีพิรุจอะไรทั้งนั้นครับ จนกระทั่งเรื่องเริ่มเป็นข่าว เริ่มมีคนโทร.มาหาผม"

ใบเตย : "เริ่มมีปัญหาพร้อมกับทุกคนค่ะ"

ติดต่ออีกฝ่ายไปบอกเรื่องใหญ่แล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับ

ดีเจแมน : "มีติดต่อไปครับ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ เหมือนถามเขาว่า อยู่ไหน เรื่องใหญ่แล้วนะ แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรเลย"

นำหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ

ดีเจแมน : "ทุกอย่าง ทุกอย่างเลยครับ"

ใบเตย : "หลักๆ ก็คือมีพี่แมนเป็นคนให้ข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนใบเตยก็แค่มาซัปพอร์ต เพราะใบเตยไม่เคยลงทุน พี่แมนไม่เคยชักชวน ใบเตยไม่เคยมีส่วนรู้เห็นใดๆ กับเรื่องพวกนี้เลยค่ะ วันนี้ก็แค่มาซัปพอร์ตพี่แมน และอาจจะให้ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับความรู้จัก รวมไปถึงมิตรภาพต่างๆ ที่ใบเตยสามารถให้ข้อมูลกับทางดีเอสไอได้"

ยังไม่ได้ 1 ล้านคืน รับได้กำไรเกือบ 1 ล้าน

ดีเจแมน : "ยังเลยครับ (ระบบการจัดการของเขามันได้มีการเทรดเงิน จริงไหม?) ถ้าจากที่ผมดูมันก็มีการทำจริงนะ อันนี้คือเท่าที่ผมคิด เพราะตอนที่ผมได้มาทุกคนก็จะมีพอร์ตในมือถือ และเงินก็วิ่งอยู่ตลอด ผมก็เลยคิดว่า ณ ตอนนั้นเขาก็น่าจะทำอยู่ อันนี้ผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ผมแค่รู้ว่ามีเงินเข้าเงินออกก็เท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับเงินที่ค้างอยู่ กับเงินที่ได้เป็นผลตอบแทน ก็เกือบเท่าทุนที่ลงไป (1 ล้าน ชน 1 ล้าน ใช่ไหม?) ใช่ครับ ใช่ เกือบ 1 ล้านแล้ว"

ใบเตย : "อันนี้คือที่เคยบอกว่าคืนทุนแล้ว คือมันเป็นอย่างนี้ ใบเตยอยากอธิบายว่าเท่าที่ทราบข้อมูลมา เรารู้จักกับเขาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะฉะนั้นคนที่ลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นก็จะได้ทุกอย่างรวดเร็วมากกว่าคนที่เพิ่งเริ่มลงทุน เมื่อ 1-2 ปี ที่ผ่านมา เพราะว่าตามที่ทุกคนได้เข้ามาแจ้งกับทางดีเอสไอ ทุกคนเพิ่งจะมีปัญหาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในช่วงที่เป็นข่าวค่ะ"

ไม่ขอพูดคนมีชื่อเสียงคนอื่นโดนด้วย

ดีเจแมน : "ข้อมูลของผม เป็นข้อมูลเท่าที่ผมรู้เท่านั้น เพราะเจ้าหน้าที่เขาไม่ได้เชิญผมมาคนเดียว เขาเชิญหลายคน หลายวิชาชีพมาก ถามว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงไหม ผมไม่ขอพูดดีกว่า ให้ดีเอสไอเขาพูดเอง เรื่องคนมีชื่อเสียง"

สินสอด 45 ล้านรวมทรัพย์สินทั้งหมด

ดีเจแมน : "เราสบายใจมาก เพราะการเงินเข้าออกทุกอย่าง มันดูได้จากสเตทเมนต์ แล้วอย่างที่ผมบอก ผมไม่ได้เคยพูดด้วยซ้ำว่าสินสอดผมยกเงินสดมาให้ 45 ล้าน สินสอดแปลว่าสินทรัพย์นะครับ ในวันนั้นมีทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พ่อแม่ผม ที่มารวมกันแล้วใบเตยบอกว่าเลขสวย มันไม่ใช่จำนวนเงิน มันเป็นบ้านที่เรากำลังจะซื้อในอนาคตด้วย แล้วก็รวมหลายๆ อย่าง เพชร, ทอง, เงินสด"

ใบเตย : "คือมองง่ายๆ เลย ในวันที่แต่งงาน เจ้าบ่าวเป็นคนที่เสียทุกอย่าง มันก็คือรวมมูลค่าที่เจ้าบ่าวเสียทั้งหมดค่ะ"

ยินดีให้ความร่วมมือหากเป็นประโยชน์ จะบอกสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดกับดีเอสไอ

ดีเจแมน : "ผมยินดีมาก บอกพี่บอยแล้วว่าทุกอย่างหลังจากนี้ ถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม กับคนที่เดือดร้อน ผมจะมาให้ตลอด ไม่ว่าจะเอาอะไรมาให้เป็นหลักฐาน ผมจะเอามาให้ดูหมด จะช่วยบอกในสิ่งที่จำเป็นต้องบอกทั้งหมดกับดีเอสไอ"

ใบเตย : "ในส่วนของใบเตย ขออนุญาตพูดนิดหนึ่ง วันนี้ต้องออกตัวว่าขอบคุณสื่อทุกคน ตั้งแต่เกิดเรื่องก็จะมีสื่อส่วนใหญ่ ที่โทร.มาถามข้อเท็จจริงของเราทั้งหมด ขอบคุณมากๆ ทุกรายการที่อยากได้คดีนี้ หรืออยากได้เราสองคนไปพูด ก็ได้โทร.มาถามข้อเท็จจริงทั้งหมด"

"แต่ใบเตยก็จะบอกว่า ณ วันนี้โดยส่วนตัวใบเตย รู้สึกว่าไม่ได้เสียหายในรูปของคดีหรืออะไรเลย เพราะเราบริสุทธิ์มากๆ ในการไม่เกี่ยวข้อง แต่จะเสียหายในกรณีที่มีบางสื่อ ที่นำชื่อเราไปเผยแพร่ในทางที่ชักจูง เชื่อมโยง พูดถึงเราในทางที่เสียหาย ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มาถามเราสักคำ ก็อยากให้ให้ความเป็นธรรมกับเราตรงนี้ ใบเตยทราบว่าที่ผ่านมาทุกคนมีจรรยาบรรณในการเป็นสื่อมวลชนทั้งหมด ตัวใบเตยเอง ก็มีจรรยาบรรณในการเป็นดารานักแสดงเช่นกัน"

ฉุนถูกบิดเบือนจากเพจที่ไม่มีตัวตนจนเสียชื่อ เล็งดำเนินการตามกฎหมาย

ใบเตย : "มีบางสื่อที่เอาคำพูดจากเพจนั้นเพจนี้ ซึ่งบอกเลยว่าเพจต่างๆ ที่ทำขึ้นมา ไม่มีตัวตนเลยสักอย่าง มันไม่มีหลักฐานเลยสักนิดเดียว เพราะฉะนั้นการจะใส่ความ การจะพูดถึงโดยที่มีชื่อว่าใบเตย อาร์สยาม มาทุกสื่อ ณ วันนี้ผิดกฎหมายแน่นอน ถามว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายได้ไหม ก็ได้หมดเลย ที่นำเสนอชื่อใบเตยไปในทางเสียหาย ทำให้คนเข้าใจผิดเรา ถามว่าจะฟ้องไหม ณ ตอนนี้ขออนุญาตตัดสินใจค่ะ กับทางบริษัท"

ดีเจเแมน : "ส่วนผมยังครับ เดี๋ยวจะปรึกษาพี่ทนายเจมส์ ตอนนี้พี่เขาเข้ามาในชีวิต ก็ทำให้เราได้เห็นในหลายๆ มุม"

ใบเตย : "แต่ในส่วนใบเตย เรามีค่าย เรามีสังกัด ณ วันนี้ต้องขอพูดเลยว่าการจะไปออกรายการไหนให้ใคร สิ่งแรกที่ใบเตยจะทำก็คือของค่ายใบเตยก่อน ใบเตยอยู่ช่อง 8 อยู่กับเฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) เพราะฉะนั้นจะออกไปพูดรายการแรกก็คือช่อง 8 พี่แมนก็ด้วยเช่นกัน พี่แมนมีช่องที่เป็นสัญญาใจอยู่ ก็เหมือนกัน เราจะไปออกรายการไหน หรือไปพูดข้อมูลใดๆ กับส่วนรวมทั้งหมด เราก็จะเลือกช่องที่เป็นหลักของเราทั้งสองคนนะคะ ไม่ได้จะไปให้การที่ไหนได้สะเปะสะปะ"

ลั่นเจอมาทุกคดีแล้ว ทั้งยูฟัน เมจิกสกิน งงเหมือนกันทำไมมาอยู่จุดนี้

ใบเตย : "สำหรับใบเตยเราเป็นสาวสตรอง ผ่านมาทุกคดีแล้ว ทั้งยูฟัน ทั้งเมจิกสกิน ก่อนหน้านี้เจอมาหมดแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว มานั่งตรงนี้ต่อหน้าทุกตำรวจของประเทศไทยทั้งหมดแล้วนะคะ หนูโอเคมาก ไม่มีตื่นเต้นหรืออะไร เราทำงานมา 10 ปี ทำงานร่วมกับคนทุกองค์กร โดยงานจ้าง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่ว่าจ้างเรา เขาทำธุรกิจในรูปไหนในเชิงลึก มีคนถามใบเตยเยอะมาก ว่าทำไมใบเตยเจอคดีอะไรแบบนี้ตลอด หนูก็งงตัวเองนะคะ งงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตัวเองมาอยู่ในจุดนี้ได้ แต่พอสรุปได้ ก็คือเราทำงานกับทุกองค์กร โดยการว่าจ้างทั้งหมด"

ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อย่าเพิ่งด่วนสรุป

ดีเจแมน : "ตอนนี้ผมเริ่มเห็นความเสียหายจำนวนมาก ผมเชื่อว่าดีที่สุด คือดีเอสไอแล้วก็เจ้าหน้าที่รัฐบาล จะช่วยคุณและประชาชน จงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรานะครับ อย่าเพิ่งไปรีบด่วนสรุป ตอนนี้เชื่อไหม ว่าดีเอสไอเขาดำเนินการกันอย่างรัดกุม แล้วก็ละเมียดละไมมากๆ ผมบอกได้เลยว่า ไปให้การกับเขาให้หมด แล้วก็เข้ามาหาเขา เข้ามาปรึกษาเขา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ ที่คุณจะทำได้ครับ"

เตือนเพื่อนดาราลำบาก เพราะตอนมีไม่คุยกัน ขอให้อยู่ที่วิจารณญาณ

ดีเจแมน : "เพื่อนดาราเนี่ย ต้องบอกเลยว่าเตือนกันลำบาก เรื่องเงินผมบอกตรงๆ นะ เขาไม่คุยกันหรอก แต่วันนี้วันที่ไม่มี เขาถึงจะเริ่มมาคุยกันครับ ตอนที่เขาได้ เขาไม่คุยกันหรอกครับ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไร ผมเชื่อว่าอยู่ที่วิจารณญาณ เพราะตอนนี้ความเสียหายมันวงกว้างมากๆ แล้วก็มีผู้เดือดร้อนเยอะมากๆ เพราะฉะนั้น ไว้ใจองค์กรตำรวจบ้านเรา โดยเฉพาะดีเอสไอ จะช่วยประชาชนได้ดีที่สุดครับ"

ใบเตย : "ถามว่าอยากฝากอะไร ก็ทั้งในเรื่องของหลายๆ อย่าง ที่เห็นในเพจทั้งหมด ซึ่งใบเตยก็บอกได้เลยว่าไม่จริงสักอย่าง อย่างแรกเรื่องสินสอดที่พี่แมนได้พูดไปแล้ว เงิน 45 ล้านที่ในเพจบอกว่าเราได้มาจากไหน ก็ไม่จริงเลย เอาจริงๆ ถ้าทำข่าวการแต่งงานของดารามา คู่เราเงินน้อยสุดแล้วนะคะ แล้วก็เรื่องที่บอกว่าซีอีโอฟอเร็กซ์ ใส่ซองเรามา 10 ล้าน ยิ่งไม่จริงใหญ่ เพราะตอนที่เราแต่งงาน มันเริ่มเกิดเรื่องแล้ว ณ วันนั้นที่เราแต่งงาน เริ่มมีคนมาฟ้องดีเอสไอแล้ว พูดในภาพรวมเลยก็คือทุกคนไม่ได้เงิน หนูกับพี่แมนก็ไม่มีทางได้แน่นอนในช่วงเวลานั้น ไปพิสูจน์ได้เลยจากผู้ลงทุนทุกคน ว่าเขาเริ่มไม่จ่ายเงิน เริ่มหยุดการจ่ายเงินเวลาไหน อันนี้พิสูจน์ได้หมด"

ยันจัดงานวิวาห์กันเอง งบ 10 ล้าน แมนจ่ายทั้งหมด ทุกอย่างอยู่ในสเตทเมนต์

ใบเตย : "การจัดงานแต่งงาน เราสองคนเป็นคนจัดเองทั้งหมด ภายในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ (10 ล้านจริงไหม?) เจ้าบ่าวเสียหมดเลยค่ะ พูดง่ายๆ ค่าการ์ดก็เกือบ 7 หลักแล้ว เพราะฉะนั้นการแต่งงานของเรามันสโคปใหญ่มาก ค่าหัวในการเชิญแขกก็ 2,000 บาทแล้ว แล้วไปคูณดู คนที่มาร่วมงานประมาณ 2,000 คน หนูกับพี่แมนจะต้องเสียเท่าไหร่ คือทุกอย่างมันพิสูจน์ได้หมด อยู่ในสเตทเมนต์ทั้งหมด"

รับโกรธสื่อลงเรื่องไม่จริง แม่นอนไม่หลับ พ่อเครียด วอนให้คิดถึงลูกในอนาคต - ลบข่าวได้ขอให้ลบ

ดีเจแมน : "อีกเรื่องคือสื่อบางสื่อ ตอนนี้ผมได้คุยกับพี่ทนายเจมส์แล้ว ตอนแรกผมก็โกรธนะ ที่ลงเรื่องที่ไม่เป็นจริง ผลกระทบมันไม่ใช่แค่ผมคนเดียว คุณแม่ผมนอนไม่หลับ คุณพ่อเครียด ญาติพี่น้องตระกูลคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนในวงการโทร.มาหากันเยอะมาก ด้วยความเป็นห่วง เพราะฉะนั้นผมจะดำเนินคดีกับเขาก็ได้นะ"

"แต่ผมว่าอยากให้ลองมองว่า วันนี้ผมเอาทุกอย่างมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วผมเป็นผู้บริสุทธิ์ เดี๋ยวในอนาคตผมมีลูก ลูกต้องเปิดยูทิวบ์ เปิดเข้าไปดูในสิ่งต่างๆ บางทีพาดหัว ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจให้เราเลวร้ายหรอก แต่เวลาคนอ่าน อ่านแป๊บเดียว จากที่ผมทำมาแต่ก่อน 10 Fright 10 , ประกวด The Mask Single มา มันกลายเป็นว่าฟีดเรื่องนี้มันขึ้นมาแทนแล้ว ผมรู้สึกว่าลูกชายต้องมานั่งอ่านฟอเร็กซ์อะไรแบบนี้ มันไม่โอเค"

"ผมฝากด้วยแล้วกัน ช่วยลบได้ก็ลบนะครับ แล้วช่วยฟังความจริงวันนี้ ที่ผมมาอยู่ที่องค์กรกฎหมายบ้านเมืองที่ใหญ่ที่สุดแล้ว พวกคุณไม่ต้องห่วงเลย ว่าจะมีการทำอะไรที่ไม่ดี จะมีการเตี๊ยมกัน มันทำไม่ได้ครับ"

ใบเตย : "ถ้าตัดความเป็นใบเตย ดีเจแมน เราก็คือผู้เสียหายค่ะ ในฐานะคนธรรมดา แต่ ณ วันนี้พอเป็นเรา มันก็จะมีสโคปที่กว้างขึ้น ที่จะต้องมาให้ข้อมูล ซึ่งเราเต็มที่มากในการให้ข้อมูล"

เพื่อนผิด ต้องยืนข้างสิ่งที่ถูกต้อง

ดีเจแมน : "แต่พาร์ทที่เคยเป็นเพื่อน เขาก็คือเพื่อนเรา แต่วันนี้เพื่อนผิด เราก็ต้องยืนข้างสิ่งที่ถูกต้อง ก็คือกฎหมายครับ"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0