โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โอละพ่อ! ผัวเมียถูกโกง เดินเด็ดผักริมทางกิน อ้างชื่อบ้านคนอื่นขอเงินช่วย (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 22.00 น.
โอละพ่อ! ผัวเมียถูกโกง เดินเด็ดผักริมทางกิน อ้างชื่อบ้านคนอื่นขอเงินช่วย (คลิป)
จากกรณีสองสามีภรรยาถูกนายจ้างยืมเงินอ้างว่า นำไปจ่ายค่าอุปกรณ์ ก่อนหนีหายตามตัวไม่ได้ สองสามีภรรยาจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านที่ จ.ชลบุรี จา

จากกรณีสองสามีภรรยาถูกนายจ้างยืมเงินอ้างว่า นำไปจ่ายค่าอุปกรณ์ ก่อนหนีหายตามตัวไม่ได้ สองสามีภรรยาจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านที่ จ.ชลบุรี จากถนนสาย304 (กบินทร์บุรี–ศรีมหาโพธิ) ขาล่องฉะเชิงเทรา ช่วงบริเวณก่อนถึง ร.ร.สายมิตรศึกษา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางอากาศร้อนและแดดเปรี้ยง ผู้เสียหาย ทราบชื่อ นายจำเริญ สุภะตะ อายุ 36 ปี และนางแถว สีทอง อายุ 5 3ปี

วันที่ 17 ก.พ. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นายจำเริญ สุภะตะ เปิดเผยว่า ตนพาภรรยาเดินทางไปทำงานกับนายจ้าง ผู้รับเหมารายย่อยที่รู้จักกัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กับเพื่อน ร่วมงาน 4-5 คน ที่ตัวเมืองโคราช พร้อม ๆ กันถูกนายจ้างได้หยิบยืมเงินตนเอง เพิ่มเติมเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ต่อเติมภายในบ้านที่รับเหมาโดยอ้างว่าเงินไม่พอ พอเงินออกตนก็จะขอเบิกเงินค่าแรงแต่นายจ้างแอบหนีไปแล้ว ทิ้งพวกตนกับลูกน้อง 2-3 คนไว้ที่ทำงาน

นายจำเริญ สุภะตะ และนางแถว สีทอง
นายจำเริญ สุภะตะ และนางแถว สีทอง

เมื่อนายจ้างปิดห้องหนี ตนจึงจัดสินใจเดินเท้ากลับบ้าน พร้อมกับเพื่อนร่วมงานต่างคนต่างกลับบ้านเกิด โดยเดินตามทางมา 4 วัน ต้องเก็บมะขามและยอดกระถินริมทาง กินแก้หิว บางครั้งก็ขอข้าวพระที่เดินบิณฑบาตรกิน ขณะที่หยุดพักที่ศาลาที่พักผู้โดยสาร พลเมืองดีเห็นจึงทำข้าวกล่องมาให้กิน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ส่งขึ้นรถสองแถวพร้อมควักเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเป็นค่ารถประจำทางไปรอรถที่ท่ารถอีกต่อหนึ่ง ที่บ้านกรอกสมบูรณ์ เพื่อกลับ จ.ชลบุรี

อย่างไรก็ตาม จะไม่ทวงถามเงินที่เถ้าแก่ ซึ่งเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันและรู้จักกันโกงไป 7,000 บาท เพราะที่ผ่านมาเคยทวงถามแล้วไม่เคยได้ ไม่อยากพูดอะไรถึงเถ้าแก่แล้ว อยากจะบอกว่าโกงค่าแรงคนต่อไป ถ้าทำแล้วมีกินก็โกงต่อไป

บ้านที่ปรากฏในทะเบียนราษฎร์
บ้านที่ปรากฏในทะเบียนราษฎร์

ต่อมา ทีมข่าวได้เดินทางไปตามภูมิลำเนาที่ทั้งสองคนอ้าง โดยไปที่บ้านเลขที่ 78 ม.1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ได้พาทีมข่าวเข้ามาที่บ้านเลขที่ดังกล่าว เนื่องจาก ทางผู้ใหญ่บ้านได้ติดตามข่าว และได้รับแจ้งจากเทศบาล ตำบลหนองตำลึงให้เข้ามาตรวจสอบ เพื่อเข้าช่วยเหลือ ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านได้ตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ของหมู่ 1 แล้วซึ่งจะระบุว่า บ้านเลขที่นี้ มีคนอาศัยอยู่กี่คน อีกทั้งยังลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบ โดยบ้านเลขที่ 78 เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เดียวยกสูงจากพื้น ป้ายบ้านเลขที่ จะถูกแปะไว้ข้างในบ้าน มีป้ายบ้านเลขที่ จำนวน 2 ป้าย คือ ป้าย เก่า กับป้ายใหม่

นายพีรพัฒน์ แสงเลิศล้ำ ผู้ใหญ่บ้าน
นายพีรพัฒน์ แสงเลิศล้ำ ผู้ใหญ่บ้าน

จากการสอบถาม นายพีรพัฒน์ แสงเลิศล้ำ อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ตำบลหนองตำลึง ได้เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ตนเข้ามาตรวจสอบ และสอบถามทางเจ้าของบ้านเลขที่ 78 แล้ว และทราบมาว่า ไม่มีบุคคลชื่อนี้ อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน เพราะหากทั้งสองสามีภรรยาที่ตกเป็นข่าวอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง จะได้ดำเนินการช่วยเหลือ ทั้งนี้ ตนไม่แน่ใจว่าทำไมทั้งสองสามีภรรยาแจ้งไปเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม หากฟังข่าวอยู่ ก็ขอให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย

นายจำเริญ แน่นหนา เจ้าของบ้านตัวจริง
นายจำเริญ แน่นหนา เจ้าของบ้านตัวจริง

ด้าน นายจำเริญ แน่นหนา อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านตัวจริง เปิดเผยว่า หลังจากได้ดูข่าว และทราบว่า มีบุคคลชื่อเดียวกันกับตน อ้างว่า อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ซึ่งตนอาศัยอยู่มาตั้ง 45 ปี ไม่เคยรู้จักบุคคลดังกล่าวมาก่อน และญาติพี่น้องก็ไม่เคยรู้จักอีกด้วย อีกทั้งครอบครัวของตน มีแต่นามสกุล “หนาแน่น” ไม่มีใครใช้นามสกุล “สุภะตะ” ตามที่ปรากฏในข่าว อย่างไรก็ตาม ตนขอให้สองสามีภรรยาเดินทางปลอดภัย ไปไหนก็ขอให้มีคนเข้ามาช่วยเหลือ และยืนยันว่า ไม่รู้จักจริง ๆ

https://youtu.be/-rk9bAju3QU

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0