โอละพ่อ! คดีครูพละข่มขืนนักเรียน ที่แท้ถูกเพื่อนครูในโรงเรียนเดียวกันกลั่นแกล้ง

คดีครูพละโรงเรียนสตรีชื่อดัง ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหญิง ตำรวจบอกว่าอาจเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะสอบครู และเด็กนักเรียนที่ถูกกล่าวอ้างแล้ว ทั้งคู่บอกว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ตำรวจกลับพบประเด็นการกลั่นแกล้งกันระหว่างครูที่ตกเป็นข่าวกับเพื่อนครูในโรงเรียนเดียวกัน
จากที่มีการแชร์ข้อมูลทางทางสื่อโซเชียลมีเดีย เปิดโปงพฤติกรรมครูสอนวิชาพลศึกษาชาย โรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์หญิงในโรงเรียนหลายคน โดยนำภาพถ่ายเปลือยหญิงสาวกับครูพละ และข้อความแช็ตไลน์ในทำนองชู้สาวระหว่างครูกับนักเรียนหญิงมาโพสต์เป็นหลักฐานนั้น
ในส่วนคดีอาญา พันตำรวจเอกมนัส รุ่งนาค ผู้กำกับการ สน.บางกอกน้อย บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ข้อมูลกันจนสับสน โดยมีเคสครูชายของโรงเรียนดังกล่าวล่วงละเมิดนักเรียนหญิง 2 คดี คดีแรกเป็นเคสครูสอนภาษาจีน ข่มขืนนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เมื่อกลางปี 2561 คดีนี้ได้สอบปากคำทั้งเด็ก และครูแล้ว และตำรวจก็จะดำเนินคดีกับครูจีน ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
ส่วนอีกเคสที่พูดกันมากในตอนนี้ คือ เคสครูพละข่มขืนนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ในรถเบนซ์ เรื่องนี้ หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทันที โดยเรียกเด็กที่ถูกอ้าง และครูพละมาสอบถาม ทั้งคู่บอกว่าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว และเมื่อสอบสวนลงไปลึก ๆ แล้ว ก็พบประเด็นการกลั่นแกล้งกันระหว่างครูพละกับครูในโรงเรียนเดียวกัน ที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่มาเกิดความขัดแย้งกันขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นที่มาของการแชร์ข้อมูลเท็จดังกล่าว ซึ่งครูพละก็ได้แจ้งความกลับเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้เสื่อมเสียแล้ว
ครูพละยังให้การว่า คนที่ปล่อยข่าวที่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสียน่าจะเป็นเพื่อนครูอีกคนที่เคยสนิทสนมกันมานาน แต่มาเกิดผิดใจกันภายหลัง สร้างเรื่องราวขึ้นมาใส่ร้าย ภาพที่ครูพละถ่ายคู่กับภาพหญิงสาวเปลือยกายก็เป็นภาพคนใกล้ตัวของครูพละเอง ซึ่งส่งให้เพื่อนครูที่ขัดแย้งดูนานแล้ว จึงเชื่อว่าคนที่นำรูปมาแชร์ให้คนเข้าใจผิดก็ต้องเป็นครูคนดังกล่าวแน่นอน ส่วนเรื่องที่มีการแช็ตคุยกับนักเรียนหญิง ครูพละยอมรับว่าคุยกันจริง แต่ไม่ได้คุยกันแบบชู้สาว
ส่วนการสอบสวนของหน่วยงานการศึกษาที่กำกับดูแลโรงเรียนที่ตกเป็นข่าว คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จก็ได้ลงพื้นที่สอบสวนเพิ่มเติม หลังจากที่ได้สั่งย้ายครูพละคนดังกล่าว ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา 1 กรุงเทพมหานคร แล้ว คาดว่าจะสรุปผลการสอบสวนได้ภายในสัปดาห์นี้