โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โรคตุ่มน้ำพอง โรคหายาก 1 ใน 4 แสนคน แสบคัน สุดทรมาน!!

MThai.com

เผยแพร่ 16 มิ.ย. 2562 เวลา 05.44 น.
โรคตุ่มน้ำพอง โรคหายาก 1 ใน 4 แสนคน แสบคัน สุดทรมาน!!
โรคตุ่มน้ำพอง เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการแยกตัวของผิวหนัง

โรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมฟิกัส (pemphigus) และเพมฟิกอยด์ (Bullous pemphigoid) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการแยกตัวของผิวหนัง จึงทำให้มีตุ่มน้ำพองขึ้นที่ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ โรคนี้พบไม่บ่อยอาจเกิดขึ้นใน 1 ใน 4 แสนคน ทั้งนี้โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อสามารถรักษาให้หายได้ แต่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุ

  • เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
  • พันธุกรรม
  • ปัจจัยพื้นฐานสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น เช่น เชื้อโรค สารเคมี
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคมักมีอายุประมาณ 50-60 ปี แต่สามารถพบโรคนี้ได้ทุกวัย ทั้งหญิงและชาย

อาการ

  • มีตุ่มน้ำพองหรือแผลถลอกที่ร่างกายและเยื่อบุต่างๆ
  • ตุ่มน้ำแตกจะทำให้ปวดแสบมาก และอาจเกิดแผลหรือรอยถลอก
  • มีอาการแผลในปาก เป็นแผลถลอกที่เหงือก เพดานปาก หรือกระพุ้งแก้ม
  • เมื่อเกิดตุ่มน้ำพองหรือแผลในปากจะทำให้กลืนอาหารไม่สะดวก
  • ผิวหนังที่เป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นหนองได้
  • ถ้าเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้มีไข้

การดูแลตนเองเบื้องต้น

  • หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ไม่ควรรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
  • ถ้ามีแผลในปากควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เพราะจะทำให้แสบหรือเจ็บแผลมากขึ้น
  • ไม่แกะเกาผื่น
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หนักจนเกินไป
  • ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบมากขึ้น
  • ถ้ามีตุ่มน้ำแตกเป็นแผลในปาก ให้อมน้ำเกลือกลั้วปากบ่อย ๆ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากยาฆ่าเชื้อ
  • ควรทำความสะอาดร่างกายและบริเวณแผล ด้วยการใช้น้ำเกลือเช็ดเบาๆ
  • ควรไปพบแพทย์สม่ำเสมอ ห้ามหยุดยาเอง
คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูวีดีโอ
คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูวีดีโอ

ดูวีดีโอ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0