โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

"โปรเม" VS "ปาร์ก ซอง ฮยอน" ดวลสวิงโค้งสุดท้ายลุ้นรางวัลปลายปี

มติชนสุดสัปดาห์

อัพเดต 22 ต.ค. 2561 เวลา 07.10 น. • เผยแพร่ 22 ต.ค. 2561 เวลา 06.30 น.
รูปแบบภาพสุด1

ช่วงนี้ “แอลพีจีเอทัวร์” กำลังเข้าสู่ช่วง” “เอเชี่ยนสวิง”” ตระเวนแข่งขันในภูมิภาคเอเชีย 5 รายการ ก่อนกลับไปปิดฤดูกาลในศึก “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา กลางเดือนพฤศจิกายน

บรรยากาศการแข่งขันในช่วงนี้จึงค่อนข้างคึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยวงการกอล์ฟหญิงของโลกทุกวันนี้ บรรดาโปรสาวจากเอเชียต่างครองความยิ่งใหญ่ นับเฉพาะมืออันดับท็อป 20 ของโลกก็มีนักกอล์ฟเอเชียมากถึง 13 คน และ 2 จาก 7 คนที่เหลือ ถึงจะถือสัญชาติอื่นแต่ก็เป็นเชื้อสายเอเชียอยู่ดี

แต่ละทัวร์นาเมนต์ที่แข่งขันในช่วงนี้ จึงมีแฟนกอล์ฟหลั่งไหลเข้าไปติดตามหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัวร์นาเมนต์ที่เกาหลีใต้ซึ่งถือเป็นฐานกำลังหลักของวงการกอล์ฟหญิงยุคปัจจุบัน

สำหรับไทยเราเองก็เป็นที่จับตามองในแผนที่กอล์ฟโลกในช่วง 2-3 ปีหลัง กับความสำเร็จของนักกอล์ฟมากหน้าหลายตา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรสาวมือ 2 ของโลก เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ และแชมป์แอลพีจีเอทัวร์อีก 8 รายการ

ดังนั้น ตอนที่โปรเมบังเอิญโดนจับมาดวลวงสวิงกับ “ปาร์ก ซอง ฮยอน” มือ 1 โลกชาวเกาหลีใต้ ในประเภทเดี่ยววันสุดท้ายของศึกกอล์ฟประเภททีม “อินเตอร์เนชั่นแนล คราวน์” ที่เมืองอินชอน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แฟนกอล์ฟเจ้าถิ่นจึงพร้อมใจกันตามชมและเชียร์แมตช์นี้กันแบบอุ่นหนาฝาคั่งมหาศาลชนิดโปรเมออกปากว่า ไม่เคยเจอผู้ชมแบบสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้มาก่อน จนต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพ และยอมรับว่าแอบเกร็งนิดๆ เช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นใจคือ ถึงแฟนกอล์ฟเจ้าภาพจะตามดูแมตช์ดังกล่าวมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้เทใจเชียร์ฝั่งปาร์ก ซอง ฮยอน ฝ่ายเดียว เวลาโปรเมเล่นดี ตีช็อตสวยๆ ก็พร้อมใจกันปรบมือและส่งเสียงเชียร์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

สื่อตะวันตกเองก็ให้กระแสตอบรับที่ดี เพราะไม่บ่อยนักที่นักกอล์ฟมือท็อป 2 ของโลกจะมาดวลกันเพื่อผลแพ้-ชนะในประเภทแมตช์เพลย์อย่างนี้

พอฟีดแบ๊กดี ในรายการ “ฮานาแบงก์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่เมืองอินชอน ต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดมา ฝ่ายจัดจึงจับโปรเมและปาร์กมาอยู่ร่วมก๊วนเดียวกันอีกครั้ง ขณะที่สื่อต่างประเทศก็พยายามชูประเด็นเรื่อง “Friendly Rivalry” หรือการเป็นคู่แข่งขันหรือคู่ปรับที่ดีต่อกัน ไม่ได้ขับเคี่ยวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ส่วนตัวนักกอล์ฟทั้ง 2 คนเอง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากเป็นพิเศษ ในทางตรงข้าม ออกจะมองว่าการได้ออกรอบร่วมกันบ่อยๆ ทำให้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น และต่างแสดงออกถึงความเคารพในฝีมือของกันและกัน

โปรเมบอกว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร แต่ตอนแข่งอินเตอร์ คราวน์ ปาร์กเข้ามาชวนคุย ก็รู้สึกดีเพราะไม่เคยรู้จักมุมนี้ของอีกฝ่ายมาก่อน

ขณะที่ทั้งคู่ต่างก็ชื่นชมฝีมือของกันและกัน โดยยอมรับว่าเมื่อได้ดูฟอร์มใกล้ๆ ก็แทบไม่เห็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายเลย

โดยโปรเมชมเรื่องที่ปาร์กหวดไดรเวอร์ได้แม่นและไกลมากแบบที่ตัวเองทำไม่ได้

ส่วนปาร์กก็บอกว่า โปรเมมีเกมสั้นที่ยอดเยี่ยมมากๆ และต่อให้ไม่ใช้ไดรเวอร์ก็ยังทีช็อตได้ไกลกว่าเธอหลายครั้ง

สำหรับการขับเคี่ยวแข่งขันกันระหว่างคู่นี้ คาดว่าสื่อคงมีประเด็นให้เล่นกันอีกยาวจนถึงปีหน้า

แต่ถ้าวัดผลงานกันเฉพาะในรอบปีนี้ก่อน แม้เวลานี้ปาร์ก ซอง ฮยอน จะครองมือ 1 โลก แต่บรรดากูรูเชื่อว่าโปรเมน่าจะกวาดรางวัลใหญ่ต่างๆ ช่วงปลายปี เนื่องจากฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวากว่ามาก

ปัจจุบันโปรเมนำเป็นอันดับ 1 ของทัวร์ ทั้งเงินรางวัลสะสม, คะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ”, คะแนนสะสมนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี, สกอร์เฉลี่ย, เบอร์ดี้สูงสุด และติดอันดับท็อปเท็นมากที่สุด

โอกาสที่ปาร์กจะไล่ทันในบางรางวัลคือเธอจะต้องคว้าแชมป์ช่วงเอเชี่ยนสะวิงให้ได้อย่างน้อย 2 รายการ ซึ่งถ้าเธอและนักกอล์ฟที่เกาะกลุ่มนำในสถิติต่างๆ ทำไม่ได้ โปรเมก็มีโอกาสสูงที่จะกวาดรางวัลสำคัญๆ เหล่านี้

หากปีนี้โปรเมได้ทั้งรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีกับถ้วย “แวร์ โทรฟี่” สำหรับผู้ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด ก็จะทำให้เธอมีคะแนนสะสมเพื่อผ่านเกณฑ์เข้าสู่หอเกียรติยศของแอลพีจีเอเป็น 15 คะแนน

ฮอล ออฟ เฟมของวงการกอล์ฟหญิงนั้นต่างจากหลายๆ กีฬาตรงที่ไม่ได้มาจากการพิจารณาของคณะกรรมการ แต่มีเกณฑ์ชัดเจนว่าต้องทำคะแนนสะสมจากการเป็นแชมป์เมเจอร์หรือคว้ารางวัลต่างๆ ของแอลพีจีเอทัวร์ให้ถึง 27 คะแนน

ปัจจุบัน “ปาร์ก อิน บี” อดีตมือ 1 ของโลกชาวเกาหลีใต้ทำสถิติเข้าสู่ฮอล ออฟ เฟม ของแอลพีจีเอทัวร์ด้วยอายุน้อยที่สุด เมื่อสามารถทำคะแนนถึงเกณฑ์เมื่อปี 2016 ขณะอายุได้ 27 ปี

โปรเมใช้เวลา 3 ปีเก็บแต้มจนเกือบจะถึงครึ่งทางแล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะทำลายสถิติของปาร์ก อิน บี คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งระบุไว้ว่า คนที่จะเข้าสู่หอเกียรติยศได้ต้องเป็นสมาชิกแอลพีจีเอทัวร์นาน 10 ปี

โปรเมได้ทัวร์การ์ดเมื่อปี 2015 ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะไปถึงจุดดังกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0