บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีระบุว่าตลาดหุ้นวานนี้(25 เม.ย.) SET Index แกว่งตัวแคบปิดเล็กน้อย-0.11 จุด(-0.01%) ที่ระดับ1,673 จุดมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง3.7 หมื่นล้านบาทเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่สนับสนุนการลงทุนส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในกลุ่มหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัว
นอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่าลงเร็วส่งผลให้Fund Flow มีแนวโน้มไหลออกอีกด้วยทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ599 ล้านบาทและขายสุทธิในตลาดพันธบัตร2,043 ล้านบาทแต่Net Long TFEX 4,783 สัญญา
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(26 เม.ย.) เรามีมุมมองเป็นลบคาดSET Index อ่อนตัวทดสอบแนวรับ1,665 จุดจากsentiment เชิงลบตลาดหุ้นรอบบ้านที่ปรับตัวลงหลังตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเพิ่มมากสุดในรอบ19 เดือนประกอบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเร็วกดดันต่อทิศทางFund Flow ในตลาดEM
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงหลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงจากสหรัฐยกเลิกผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานในระยะสั้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีสลับเด้งรีบาวด์ในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกรออยู่เช่นกลุ่มอสังหาการท่องเที่ยวและการบริโภคที่คาดหวังครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในสัปดาห์หน้ารวมถึงกลุ่มที่คาดหวังงบ1Q19 ขยายตัวขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนกลุ่มส่งออก(GFPT, TU, TFG) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงกลุ่มพลังงาน(PTTEP, TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นและกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึงStock gain กลุ่มอสังหาฯ(SPALI, QH)
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม(AOT, MINT, CENTEL, ERW) กลุ่มค้าปลีก(CPALL, HMPRO) ประเด็นข่าวครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่คาดเข้าครม.วันที่30 เม.ย. กลุ่มที่คาดว่างบ1Q19F จะเติบโตขึ้นBDMS, BCH, CPN, EA, SGP, GFPT, JMT
