เป็นข่าวเศร้าเมื่อโลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก Rit Chatcharit ของ นายชัชฤทธิ์ นักกีฬาว่ายน้ำ วัย 24 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคตับแข็ง และเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังรักษาตัวมานานกว่า 6 ปี โดยมีเพื่อนๆ และผู้ที่ทราบข่าวเข้ามาไว้อาลัยจำนวนมาก
โดยเจ้าตัวได้โพสต์ถึงสาเหตุจากการป่วยตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2562 ว่า ตนเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตั้งแต่เด็กจนถึงมหาวิทยาลัย ร่างกายแข็งแรงแทบไม่เคยป่วยหรือเป็นอะไรเลย ช่วง 6 ปีก่อนตนกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี มีอยู่วันหนึ่งนอนไม่ค่อยหลับเลยไปหยิบเบียร์มาดื่มหนึ่งขวด ตื่นเช้ามามีอาการท้องอืด ถ่ายออกมาอุจจาระมีกลิ่นคาว เหนียวหนืดเหมือนยางมะตอย ตาเหลือง และอาเจียนปนก้อนลิ่มเลือดออกมาจำนวนมากจึงได้ไปพบแพทย์ คุณหมอให้แอดมิตนอนโรงพยาบาลทันที
นอนอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์ หมอเห็นตับเป็นจุดๆ คิดว่าน่าจะเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ตนและครอบครัวตกใจมาก พ่อและแม่จึงให้คุณหมอส่งตัวมาตรวจที่สถาบันมะเร็ง ซึ่งคุณหมออีกท่านก็ระบุว่าจากประสบการณ์ตนไม่ได้เป็นมะเร็งแน่นอน จึงส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.ราชวิถี กรุงเทพมหานคร
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอได้ทำการตรวจใหม่หมด และพบว่าเป็นโรคตับแข็งเกิดจาก “เส้นเลือดฝอยในตับอุดตัน” ซึ่งคุณหมอก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร และสงสัยว่าใช้ชีวิตปกติมานานได้อย่างไร
ตนได้ทำการรักษามาเรื่อยๆ จนกระทั่งประมาณเดือนเมษายน 2562 มีอาการถ่ายออกมาแล้วอุจจาระเป็นสีขาว ตัวเหลือง ทางบ้านจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลซึ่งคุณหมอก็คาดว่าน่าจะเกิดจากมีอะไรไปอุดตันที่ท่อน้ำดี ทำให้อุจจาระเป็นสีขาว จากนั้นเกิดอาการคันตามตัว ปวดกระดูกเหมือนกระดูกจะแตก ต้องหามมาส่งแพทย์ ซึ่งคุณหมอได้บอกกับแม่ว่า “ให้ทำใจดีๆ จะต้องนำตัวเข้าไอซียูผ่าตัดด่วนเพราะตอนนี้ของเสียในร่างกายมันขึ้นสมองไปหมดแล้ว”
หลังจากผ่าตัดตนไม่รู้สึกตัวไป 1-2 วัน จากนั้นอาการก็ดีขึ้น คุณหมอแจ้งว่าตอนนี้ตับแทบจะไม่ทำงานแล้ว ต้องทำการเปลี่ยนตับให้เร็วที่สุด ซึ่งทำให้สภาพร่างกายมีลักษณะท้องมาน ท้องบวมน้ำ กล้ามเนื้อหาย เกล็ดเลือดต่ำ ภูมิต้านทานน้อย เหนื่อยง่าย ตัวเหลืองตาเหลือง แต่ตอนนั้นตนได้ตับมาแล้วแต่โชคไม่ดีติดเชื้อในช่องท้องจึงผ่าตัดไม่ได้ จึงต้องสละตับให้คนอื่นไปก่อน ส่วนอีกตับหนึ่งนั้นหมอแจ้งว่าได้จากคนไข้ที่เคยป่วยเป็นซิฟิลิส ตนจึงขอผัดไปก่อนเพราะไม่อยากเสี่ยง
นายชัชฤทธิ์ ได้เล่าต่อว่า ตนรอเปลี่ยนถ่ายตับอยู่ และโชคดีมากที่เรียนจบก่อนที่อาการจะทรุดหนักแบบนี้ ถ้าหายจากโรคนี้ตนเองจะเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่หมด และรักษาตับที่ได้มาให้ดีที่สุด สภาพจิตใจตอนนี้โอเคมากๆ ไม่ได้กลัวอะไร และอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี พรอ้มอธิบายเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้เป็นคนดื่ม อาการป่วยไม่ได้เกิดจากเบียร์ขวดเดียว แต่ตนป่วยมานานแล้วแต่ไม่รู้ตัว ซึ่งหลังจากดื่มเบียร์ขวดนั้นไป จึงทำให้รู้ว่าป่วยเป็นโรคตับแข็ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ตนมา ณ ที่นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากต่อสู้กับโรคนี้มานานกว่า 6 ปี นักกีฬาหนุ่มคนนี้ก็ได้จากไปท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนๆ จำนวนมาก ทุกคนต่างยกย่องว่าเป็นคนที่เข้มแข็ง กล้าหาญ แม้จะต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ และต่างอวยพรให้เขาไปสู่สุขคติ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน
