แม่น้ำโขง อ.เชียงคาน-อ.ปากชม จ.เลย น้ำแห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายทอดยาว และเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง กระทบพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำ
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำโขง อ.เชียงคาน-อ.ปากชม จ.เลย น้ำแห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายทอดยาว และเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง จนบางพื้นที่สามารถเดินข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 10 ปี จนชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ในการทำเกษตร ในพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขง
ชาวบ้านสองอำเภอเชียงคาน-อ.ปากชม ห่วงว่าเขื่อนไซยะบุรี ของ สปป.ลาว ไม่ปล่อยน้ำลงแม่น้ำโขง จะไม่มีน้ำมาผลิตน้ำประปาใช้ จนการประปาส่วนภูมิภาค ต้องออกมาชี้แจ้ง มีปริมาณน้ำเพียงพอที่ผลิตน้ำประปา
นายประมวล ลาภจิต หัวหน้า ปภ.จ.เลย กล่าวว่า ชาวบ้านในหลายพื้นที่ ของ อ.ปากชม ที่ติดริมแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า ปกติทุกปีช่วงหน้าฝน หรือเข้าพรรษา น้ำในแม่น้ำโขงจะขึ้นมาถึงริมตลิ่ง แต่ในปีนี้น้ำแห้งขอดจนเห็นสันดอนทราย และเกาะแก่งโผล่กลางแม่น้ำโขงในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ทำให้เห็นดอนทรายยาวหลายกิโลเมตร ริมแม่น้ำโขง
คาดว่าสาเหตุมาจากที่ไม่มีฝนตกต้องตามฤดูกาล และเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ไม่ปล่อยน้ำผ่านลงมา ทำให้น้ำแม่น้ำโขงแห้ง เรือเล็ก เรือใหญ่ขนสินค้าไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ ชาวบ้านที่ทำเกษตรริมน้ำ ห่วงไม่มีน้ำใช้ในการเกษตร ส่วนชาวบ้านในเขตเทศบาล กังวลว่าจะไม่มีน้ำผลิตประปา
ซึ่งจากการที่แม่น้ำโขงแห้งขอด ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวในหลายหมู่บ้านของ อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม ได้นำแหมาทอดปลา จนได้ปลาเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปทำอาหารและแจกเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายชัชพงษ์ อาจแก้ว นายอำเภอเชียงคาน จ.เลย เปิดเผยว่า ได้รับทราบเว็บไซต์ข่าว Laoedaily ของลาวแจ้งข่าวด่วน เมื่อบ่ายวันที่ 16 ก.ค. 62 ว่า ให้เฝ้าระวังระดับน้ำโขง จะผันผวนระหว่างวันที่ 15-29 ก.ค. 62 นี้ เนื่องจากเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการทดลองการปั่นกระแสฟ้า จะทำให้ระดับน้ำโขงสูงขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว
จากข่าวดังกล่าว นายอำเภอเชียงคาน ได้สอบถามไปยังการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเชียงคาน และสาขา อ.ปากชม ได้รับรายงานว่า ยังคงไม่มีผลกระทบใดๆ จากการสูบน้ำดิบเข้าไปผลิตน้ำประปา อย่างไรก็ตามการประปาฯ มีมาตรการดำเนินการรองรับอยู่แล้ว ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องไม่มีน้ำประปาใช้
ส่วนทาง สปป.ลาว มีหนังสือแจ้งมาว่า ในวันที่ 17 ก.ค. 62 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ทางโครงการเขื่อนไฟฟ้าน้ำโขง จะทดสอบเครื่องจักรปั่นไฟฟ้าหน่วยที่ 5 ใช้เวลาต่อเนื่อง 72 ชั่วโมง (3 วัน) ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้จะต้องปล่อยน้ำจากทางเหนือเขื่อนมากกว่าปกติ ตามระดับการไหลของแม่น้ำโขง โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนของโครงการลดระดับจาก 273.3 เมตร เป็น 271 เมตร น้ำจะลดลงประมาณ 0.75 เมตร ต่อวัน และระดับน้ำท้ายเขื่อน จะเพิ่มขึ้นระดับสูงสุดประมาณ 237.5 เมตร ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำไม่ปกติเหนือเขื่อน ท้ายเขื่อน และเมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ทางโครงการจะปล่อยน้ำให้ไหลเป็นปกติ
