โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

แพทย์แจงยิบ โควิด-19 เป็นแล้วอาจเป็นอีก! "มอส" ยอมทิ้งเงินล้านกักตัวอยู่บ้าน

MATICHON ONLINE

อัพเดต 28 ก.พ. 2563 เวลา 09.38 น. • เผยแพร่ 28 ก.พ. 2563 เวลา 09.38 น.
2B66DC1B-043C-442B-B2FE-4E94B10CDF38

หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 ยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสโควิด–19 โดยได้เปิดใจสัมภาษณ์ ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย  

เชื้อตัวนี้มีโอกาสเป็นเหมือนซาร์สมั้ยที่ลอยตัวได้อยู่บนอากาศที่ลอยไปลอยมา?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “เรื่องนี้ทางการจีนที่เราติดต่อกันอยู่ประจำ ก็เตือนมาเป็นระยะว่าควรต้องติดตามสถานการณ์เสมอ แต่ ณ ขณะนี้ติดต่อกันทางละอองฝอย พูด ไอ จาม มาที่เยื่อบุ และลงมาที่พื้นผิว ณ ต่อไปนี้ถ้าสถานกาณณ์เปลี่ยนเรื่องการแพร่กระจาย พบการแพร่กระจายรวดเร็วผิดปกติ ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งตรงนั้นก็อาจต้องคำนึงถึงการหายใจ แต่การหายใจที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้นั้นจะเป็นในรพ. เท่านั้นเอง เกิดจากเวลาเราช่วยชีวิตผู้ป่วย หรือดูดเสมหะ ด้วยแรงดูดค่อนข้างสู ยังไม่มีในเหตุการณ์ประจำวันตามปกติ“

มีเรื่องนึงเป็นเรื่องใหม่มาก คนที่เป็นแล้ว แล้วไปรักษาตัวเหมือนจะหาย แล้ว หลังจากนั้นผ่านไป 7-10วันเป็นอีก ตรวจเลือดปุ๊บเป็นบวกอีก มันมีแบบนั้นจริงๆ เหรอ?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “จริงๆ แล้วเรื่องตรงนี้ เท่าที่ทราบมีอยู่ 1 ราย สอบถามไปทางประเทศจีน ผู้ป่วยรายนี้ที่พูดอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ที่จีนเล่าให้ฟังว่าที่เมืองกวางตุ้งจะมีผู้ป่วยลักษณะนี้ 13 ราย เหตุผลที่เจอ 13 รายนี้ โดยปกติผู้ป่วยเมื่อรักษากระทั่งอาการเรียบร้อยดี อาการปกติ ตรวจเลือดทุกอย่างดี ปอดดี ต้องตรวจว่าเชื้อไม่มีปล่อยออกมา 2 ครั้งก็ปล่อยกลับบ้าน แต่ทางการจีนในหลายๆ จังหวัดเริ่มไม่สบายใจว่าจะปล่อยออกมาได้หรือเปล่า ก็แนะนำให้ผู้ป่วยที่หายดีกักตัวอยู่บ้านอีก 14 วัน และเอามาตรวจใหม่ปราฎว่าได้ผลบวก คือเชื้อยังอยู่ในตัวโดยไม่มีอาการ ทีนี้ผู้ป่วยรายแรกที่เป็นคนจีนที่กลับประเทศจีนไป  เขากลับไปก็ตรวจใหม่ก็ได้ว่าบวกอีก เขาก็ถามว่าทางเราเข้มงวดแค่ไหน เราก็ตอบไปว่าเข้มงวดมีมาตรการอย่างดี ตรวจไวรัสสองครั้งได้ผลลบ เขาเลยฝากมาว่า ให้ประเทศไทยหลังจากที่หายดีเรียบร้อย แม้ว่าจะลบไปแล้ว ก็ให้อยู่ที่บ้านกักตัวต่ออีก 14 วัน กรณีอย่างนี้ที่เชื้อหายไปแล้วกลับมาใหม่ เขาอธิบายว่าเป็นไปได้ว่าขณะที่เชื้อเหมือนจะหายไปนั้นแต่ไม่ได้หายไปจริง มันอยู่ระดับต่ำกว่าที่เครื่องมือจะตรวจพบได้ เมื่อกลับไปแล้ว ไม่รู้ไวรัสดีใจได้กลับบ้าน (หัวเราะ) เลยเพิ่มปริมาณขึ้นมาใหม่ ไม่ได้หายสนิท อีกประการเป็นไปได้หรือไม่ว่าติดเชื้อซ้ำซ้อนใหม่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งน่าจับตามองแต่ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้“

กลับมาจากประเทศเสี่ยง จำเป็นต้องกักตัวเข้ม 14 วัน?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “ด้วยข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์และข้อมูลจากหลายๆ ประเทศที่เผชิญเคราะห์กรรมขณะนี้ ต้องกักตัวอยู่ท่บ้าน 14 วัน ต้องเข้มข้นและเข้มงวด ในประเทศสิงคโปร์ ข้อมูลมาจากท่านศาสตราจารย์หนึ่งใน 16 คนขององค์การอนามัยโลกที่ประกาศภาวะฉุกเฉินอันตรายสำหรับโรคโควิด–19ทั่วโลก ก็เล่าให้ฟังว่ามาตรการของสิงคโปร์ มาตรการที่ 1 นั้นกลับจากพื้นที่เสี่ยง ให้อยู่ที่บ้านอย่างเข้มงวดแต่อนุญาตให้ไปซื้ออาหาร ซื้อขนม ซื้อนมข้างบ้านได้ แต่ต้องใส่หน้ากาก ขณะเดียวกันต้องไม่พยายามปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ล้างไม้ล้างมือและวิ่งกลับบ้านด่วน แต่ขณะนี้ ประเทศสิงคโปร์มีวิธีตรวจแบบใหม่ ให้ผลตรวจแม่นยำกว่า คือเจาะเลือดนิดเดียว แล้วไปดูว่าในร่างกายเรามีหลักฐานที่บอกว่าเคยติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งหลังจากเอาการตรวจตรงนี้เข้าไปตรวจจับ ปรากฎว่ามีคู่สามีภรรยาคู่นึงอยู่ที่สิงคโปร์ เพิ่งกลับมาจากอู่ฮั่น เมื่อกลับไปแล้วเขาไม่ได้กักตัว ไปทำกิจกรรมต่อ ทั้งสองคนนี้แพร่ไปให้อีก 6 คน อันนี้ยังไม่ใช่ซูเปอร์ แล้ว 2 ใน 6 ไปประกอบกิจกรรม ก็ไปแพร่ให้อีก 7 และ 1 ใน 7 ไปแพร่ให้อีก 16 ปรากฎการณ์ตรงนี้เราเรียกว่าปรากฎการณ์ super spreader และขึ้นอยู่กับลักษณะกิจกรรมที่ประกอบ และความหนาแน่นที่อยู่ด้วยกัน อยู่ได้นานพอเพียงจะติดต่อเป็นลูกโซ่ คนที่ติดรอบแรกนั้นไม่แสดงอาการอะไรเลยหรือแสดงอาการน้อยมาก เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่เรากลัว หลังจากมีเหตุการณ์super spreader ตรงนี้  สิงคโปร์ประกาศมาตรการเข้มงวดเด็ดขาด กวดขันว่าถ้ากลับมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องอยู่ที่บ้านเข้มงวดตลอด 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครจะมาส่งข้าวส่งน้ำก็อยู่ที่ประตู เราจะออกไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว“

“ในลักษณะของซาร์สเขาเก่งกาจตรงที่เขาสามารถแพร่กลางอากาศได้ แต่โควิด–19ยังไม่แพร่ทางอากาศ เป็นละอองฝอย แต่ในละอองฝอยตรงนี้ก็อย่างที่เคยคุยกัน จะมีจำนวนนึงที่ชอบตกไปที่ปอดล่างๆ โดยไม่ได้อยู่ที่ลำคอ จะไม่เจ็บคอ ไม่อะไร เมื่อมีการพูด ใกล้ชิดกันอยู่กันนานๆ เชื้อก็เข้มข้นมาก ก็สามารถปล่อยให้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น คนที่ติดชุดที่ 1 ก็เอาไปติดชุดที่ 2 ชุดที่ 2 เอาไปติดชุดที่ 3 ต่อ นี่เป็นอภิมหาซูเปอร์“

วิดีโอคอลหา มอส ปฏิภาณ ที่กักตัวเอง อยู่บ้านวันที่เท่าไหร่?

มอส : “วันที่ 2 ครับ ผมไปฮอกไกโด ไปสกีรีสอร์ต“

ตอนไปทราบมั้ยเรื่องไวรัสโควิด–19 อยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง?

มอส : “ก่อนหน้านั้นรู้ข่าวไวรัสอย่างเดียวครับ แต่วันที่ผมเดินทางเขาประกาศมีกลุ่มเสี่ยง 5-6 ประเทศ ก็เลยอยู่บนเครื่องแล้ว (หัวเราะ) เลยเดินทางไป พอหลังจากนั้น 2-3 วันก็มีข่าวคุณป้าที่เกาหลีที่มาแล้วไม่ได้แจ้งว่าไปไหนมาเดินทางไปโน่นนี่ แล้วมีข่าวกระทรวงศึกษาให้เด็กที่ไปเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยงหยุด 14 วัน มันมีข่าวอยู่เรื่อยๆ ระหว่างอยู่ที่นั่น แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีอะไร ยังเป็นปกติ หลังจากนั้นพอเริ่มได้ข่าวหนาหูขึ้นเยอะก็เลยคิดว่ากลับไปมีงานรออีกเยอะแยะเลย ผมก็โทรปรึกษากับผู้จัดการว่าเราแคนเซิลมั้ย เพราะเดี๋ยวเราไปเจอคนในคอนเสิร์ต 2-3 พันคนที่ต้องเจอ และพฤติกรรมคนในคอนเสิร์ตก็มีจับไม้จับมืออยู่แล้ว ก็กลัวว่าจะเสี่ยงไปหรือเปล่า เราก็ยังไม่รู้ว่าเราติดหรือเปล่า เพราะเราก็ไปประเทศกลุ่มเสี่ยงมา“

พอลงเครื่องปุ๊บ ทำไงต่อ?

มอส : “ก่อนไปเราก็เตรียมตัวพร้อมแล้วนะครับ มีหน้ากาาก เจลล้างมือที่เป็นหลอดขึ้นเครื่องไป มีแผ่นแอลกอฮอล์เช็ดเวลาเราไปจับโน่นจับนี่ บนเครื่องหรืออะไร ขากลับก็มีแมสปิด มีเจลล้างมือพกตลอด อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ เวลาเข้าตม. กดสแกนนิ้วมือ ผมก็ถูเจลล้างมือ มันก็ไม่ได้รังเกียจ แต่เราก็ป้องกันไว้ก่อน“

หลังจากนั้นมุ่งหน้ากลับบ้านเลย ไม่ได้แวะไหนเลย?

มอส : “ไม่ได้แวะไหนครับ มุ่งหน้ากลับบ้าน ก็ 2 วันแล้วที่นั่งทานข้าว อาบน้ำ นั่งดูทีวีอยู่บ้าน ก็นั่งนับวันไป“

นับวันแรกเหยียบลงพื้นเลย?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “ก็นับวันนั้นแรกที่เหยียบประเทศไทยเลย“

ลูกสาวไปด้วย?

มอส : “ไปด้วย มันเป็นทริปที่ผมนึกสนุกทุกปี ไปพ่อลูกสองคน แม่ไม่เกี่ยว เราก็พาโสนไปสองคน พาเขาไปเรียนสกี 7 วัน ก็กลับมาพร้อมกันเขาก็หยุดเรียน 14 วันเหมือนกัน“

แม่เขาล่ะ?

มอส : “ก็แยกบ้านกันเลย เขาอยู่ฝั่งโน้น ผมอยู่ฝั่งนี้ แม่บ้านก็ใส่แมส ถุงมือมาเสิร์ฟอาหารที่นี่ เหมือนอยู่ในเรือนจำอะไรสักอย่างนึง(หัวเราะ)”

แต่ก็โอเคใช่มั้ย?

มอส : “อย่างน้อยเราก็อยู่บ้านเราครับ บรรยากาศก็เป็นบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน“

ประชาชนชื่นชมคุณมอสมาก?

มอส : “ขอบคุณมากครับ จริงๆ ผมมีแม่บ้านทำอาหารอยู่ที่นี่ ถ้าจะทานอะไร ก็ให้ไลน์แมนส่งมา แม่บ้านจัดการทุกอย่าง อาบน้ำก็คนละห้องน้ำ เสื้อผ้าไม่รวมกันซัก ก็ทำตามที่มข้อมมูลต่างๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขให้มา“

หยุดงาน 14 วันคิดเป็นมูลค่าตัวเงินเท่าไหร่?

มอส : “ทั้งหมด 7 งาน ตกงานละแสนกว่าบาท รวมๆ เกือบล้านครับ (หัวเราะ)”

คุณทำเพื่อสาธารณประโยชน์จริงๆ คุณยอมทิ้งเงินล้านกว่าบาทเพื่อกักตัว สิ่งที่ได้คือกำลังใจจากประชนเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม?

มอส : “ขอบคุณครับ ผมกลัวว่าถ้ากลับมาแล้วมีอะไรเกิดขึ้นมันก็ไม่คุ้มกันครับ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า“

กรณีที่มีบางคนไปเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยง กลับมาแล้วไปตรวจร่างกายแล้วบอกว่าไม่ได้เป็น ฉันก็ออกกำลังกาย แข็งแรงดี ผลเป็นลบ ไม่มีเชื้อโควิด ได้มั้ย?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “ไม่ได้ ต้องเข้ม เพราะมันจะสร้างความเข้าใจผิด อย่างที่เรียนให้ทราบ พอกลับมาปุ๊บ วันที่ 1 ก็ต้องรอไป 14 วัน ภายใน 14 วันถ้าเกิดอะไรขึ้นมาภายใน 14 วันก็ติด แต่ถ้าหากจะบอกว่าวันที่ 1 กลับมาแล้วเราไปอยู่พื้นที่เสี่ยง สมมติเราอยู่ 10 วัน เราอาจได้รับเชื้อตั้งแต่วันที่ 1 เราก็จะแสดงอาการหลังกลับมาเป็นวันที่ 1 2 3 แต่ขณะเดียวกันเราอาจได้รับเชื้อวันสุดท้ายของวันที่อยู่ที่นั้นๆ หรือได้รับเชื้อบนเครื่องบิน กรณีนี้เรานับวันที่ 1 วันที่กลับมาอยู่ประเทศไทย การมาประกาศว่าปลอดภัยแล้วเป็นความเข้าใจผิด“

อาจต้องไปตรวจกันวันที่ 14 เลยด้วยซ้ำ?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “จริงๆ แล้วถ้าไม่ได้มีความเสี่ยง เป็นผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง อันนั้นอาจให้อยู่ที่บ้านเฉยๆ โดยถูกวิธี ไม่ต้องตรวจ ดูสิว่ามีอาการหรือไม่ แต่กรณีสัมผัสผู้ติดเชื้อชัดเจน กรณีอย่างนั้นควรที่จะตรวจตั้งแต่วันที่ 1 และวันที่ 14 หลังพ้นจากกำหนด ระยะเวลากักกันตัว“

เรื่องการตรวจหาเชื้อ ปัจจุบันคนที่ไปตรวจ ค่าตรวจ 3-6 พันบาท ไม่มีตรวจฟรีเหรอ?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “ค่าตรวจตรงนี้เท่าที่ทราบ สามารถเบิกได้ระดับหนึ่งจากหลักประกันสุขภาพ แต่ขณะเดียวกัน ค่าตรวจตรงนี้ต้องเรียนให้ทราบว่าการตรวจด้วยอนุวิทยาตรงนี้ ยังไม่เป็นที่ตกลงกันชัดเจนว่าต้องตรวจด้วยกระบวนการแบบใด หรือต้องตรวจด้วยยีนส์ใด กี่ยีนส์ ตรงนี้เป็นลักษณะที่ยังเละเทะ ไม่ค่อยตกลงกันนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนานาชาติก็ตามแต่ ฉะนั้นผลที่ได้ออกมาตรงนี้จะเนืองๆ ว่าอาจได้เป็นผลลบ เป็นผลลบปลอม ทั้งที่เป็นบวก คนไข้ในต่างประเทศก็ตามก็ยังเป็นลบอยู่สามสี่ครั้ง ประเทศไทยก็มีเป็นลบด้วย แต่สุดท้ายก็ออกมาเป็นบวก“

ภาครัฐออกมาประกาศว่า 14 วันนี้ไม่ต้องออกกฎหมายกักตัวคนไปประเทศกลุ่มเสี่ยง อาจารย์รู้สึกยังไง?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “ผมว่าเราไม่ต้องสนใจคำประกาศดังกล่าว ขึ้นอยู่กับว่าเราเข้าใจความรับผิดชอบต่อชีวิตของเราและครอบครัว สังคมเท่าไหร่ ถ้าคำประกาศฝืนกับเหตุการณ์ขณะนี้ที่เราพยายามไม่ให้ระบาดมหาศาลและมีคนเสียชีวิต เพราะฉะนั้นใครจะประกาศว่ามันไม่ใช่โรคอันตรายอย่างไรก็ตาม ยึดถือสิ่งที่จะทำให้ตนเองและคนไทยทั้งประเทศ“

โควิด–19จะเข้าสู่ภาวะที่ 3 เมื่อไหร่?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “เร็วๆ นี้ครับ เข้าแน่แต่จะเข้าแบบภูเขาถล่มทลายหรือค่อยๆ เอื่อยๆ เราหวังว่าจะเป็นแบบหลังมากกว่า“

แบบภูเขาถล่มทลาย จะเจอได้ทีละกี่คน?

ศ.นพ. ธีระวัฒน์ : “อาจเจอได้เป็นพันคนหรือมากกว่านั้น นั่นคือการคาดการณ์แบบค่อนข้างใจดี แต่ด้วยมาตรการอะไรต่างๆ ที่เรามีอยู่อ่อนล้าเต็มที่ ถ้าประชาชนไม่ช่วยกัน เราอาจเจอสถานการณ์แบบนี้ได้“

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0